Low rise คุณภาพ ส่วนกลางจัดเต็ม ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสามสาย และ 2 สถานี Interchange
เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมาเป็นปีที่เราได้เห็นโครงการ พลัม คอนโดมิเนียม มีข่าวการเปิดตัวอยู่ตลอดทั้งปี แต่เชื่อว่ามีโครงการหนึ่งที่เป็นกระแสฮือฮามากที่สุด นั่นคือ พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น ที่เรียกว่าตั้งแต่มีข่าว จนถึงเริ่มเปิดจองสิทธิ์ จนมาวัน Presale เกิดปรากฏการณ์ แย่งกันจอง จนสำนักงานขายแทบพัง อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ใครๆอยากได้กันมากมายขนาดนั้น
การหาคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่าล้าน และใกล้สถานีรถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ ใกล้ชุมชน มีส่วนกลางดีๆ และมีความน่าเชื่อถือจากบริษัทชั้นนำ เป็นเงื่อนไขที่หายากมากๆในตลาดที่จะเจอกันง่ายๆ ที่มีก็ต่ำกว่าล้านแต่ไม่ติดถนนใหญ่ เข้าซอยลึก หรือห่างสถานีรถไฟฟ้าไปเป็นกิโลเมตร หรือเป็นคอนโดมิเนียมจากผู้พัฒนาโครงการหน้าใหม่ รายเล็กๆไม่เป็นแบรนด์ที่คนรู้จัก หรือไม่มีส่วนกลางดีๆ ให้ผู้อยู่อาศัยมากนัก
เหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น เปิดขายแบบกระจุยกระจายในเฟสที่ 1 และ เฟสที่ 2 ด้วยทำเลที่ติดถนนใหญ่และซอย แจ้งวัฒนะ1 พร้อมด้วยรูปแบบโครงการที่ตอบโจทย์ในการอยู่อาศัย และ Package price ที่มีความน่าสนใจ เปิดมาต่ำกว่า1ล้านบาท ซึ่งหายากแล้วในกรุงเทพ
มาในวันนี้พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น กลับมาอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาเปิดขายในเฟส 3 ใหม่ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีการปรับราคาขายขึ้นมาบ้าง ตามความเหมาะสมของราคาตลาด แต่รูปแบบของโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับ ก็ถูกพัฒนาขึ้นจากเฟสที่เปิดก่อนหน้านี้เหมือนกัน
Location
ทำเลโครงการถ้าพูดถึงซอยแจ้งวัฒนะ1 อาจจะนึกไม่ออก แต่ถ้าบอกว่าอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เชื่อว่าหลายๆคนจะเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
มีคำถามมาเยอะก่อนหน้านี้ว่า Location ตรงนี้ มันดียังไงไกลจะตาย นี่คือคำถามที่คนที่ไม่ได้อยู่ในโซนนั้นถามกันมามาก แต่สำหรับคนที่คุ้นเคยทำเลละแวกนั้น หรือทำงาน , เรียน , ใช้ชีวิตอยู่ในโซนนั้นแล้ว จะเข้าใจได้ว่า ทำเลตรงนี้ สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนหลักๆได้หลายเส้นทาง ทั้งแจ้งวัฒนะ , วิภาวดี , พหลโยธิน ,รามอินทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าผ่านถึงสามสาย คือ สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต) และสายสีเขียวอ่อนส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่ง ส่วนตัวเชื่อว่าสายสีเขียวนี่เองที่มีผลค่อนข้างมากกับการตัดสินใจซื้อโครงการนี้ เพราะ สายสีเขียวนี้คือสายที่วิ่งเข้าเมืองหรือคือส่วนต่อขยายจาก BTS เส้นปัจจุบัน
ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายหลักที่วิ่งผ่านจุดสำคัญๆในกรุงเทพ ซึ่งสถานีจะอยู่ห่างออกไปจากตัวโครงการประมาณ 500 เมตรที่บริเวณวงเวียนหลักสี่ ซึ่งเป็น Interchange จุดตัดของสถานีรถไฟฟ้า 2 สาย
สำหรับอีกด้านของฝั่งแยกแจ้งวัฒนะก็จะเป็น Interchange จุดตัดของรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ – รังสิต สายสีชมพู บริเวณสถานีหลักสี่
ถึงแม้รถไฟฟ้าสายสีแดงและสีชมพูจะไม่ได้เป็นรถไฟฟ้าที่มีความสำคัญมากนักเพราะเน้นการให้บริการเป็น Feeder รับส่งคนจากรอบนอกเมือง แต่ก็เพิ่มทางเลือกในการเดินทางได้มากขึ้น
ข้อมูลโครงการ
ที่ตั้งโครงการ ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะโครงการ คอนโดสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร
จำนวนห้องชุด 1,172 ยูนิต (ห้องชุดพักอาศัย 1,154 ยูนิต + ร้านค้า 18 ยูนิต)
พื้นที่โครงการ 10-0-76.8 ไร่
ขนาดห้อง
1 ห้องนอน -1 ขนาด 22.50 ตร.ม. ราคาโปรโมชั่น เริ่ม 1.19 ล้านบาท
1 ห้องนอน -2 ขนาด 26.00 ตร.ม.
2 ห้องชุดรวมกัน -1 ขนาด 34.95 ตร.ม.
2 ห้องชุดรวมกัน -2 ขนาด 45.00 ตร.ม.
จาก Master Plan โครงการ จะเห็นได้ว่าบนพื้นที่ 10 ไร่กว่า โครงการวางผังอาคารไว้ 5 อาคาร ซึ่งทั้งหมดเป็นอาคารแบบ Low rise 8 ชั้น ที่โดดเด่นของเฟส3 นี้คือมี Zone ร้านค้า ด้านหน้าโครงการ โดยอยู่ในชั้น 1 ของอาคาร A และ อาคาร B
ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านที่พักอาศัยที่นี่แล้ว ก็ยังเปิดให้บุคคลที่สัญจรบนถนนเส้นนี้ แวะเข้ามาใช้บริการได้ด้วยโดยทำที่จอดรถแยกออกมาไม่รบกวนผู้พักอาศัย
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะถูกจัดวางไว้กลางของโครงการในบริเวณอาคาร B ,C และD
การจอดรถทุกอาคารจะเป็นการจอดแบบลานจอดรอบอาคารประมาณ 483 คันหรือคิดเป็น 37% รวมซ้อนคันโดยประมาณ
แปลนอาคาร
ด้วยโครงการในเฟสที่ 3 นี้มีถึง 5 อาคาร ซึ่งแต่ละอาคารก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปลองมาดูกัน
อาคาร A จะเป็นอาคารที่อยู่ติดฝั่งถนนแจ้งวัฒนะมากที่สุด และที่ชั้น 1 ด้านหน้าก็จะเป็น Shop ร้านค้า ส่วนพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2
สำหรับอาคาร B เป็นอีกอาคารที่บริเวณชั้น 1 จะมีส่วนของร้านค้า และ มีส่วนพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 นี้ด้วย แต่มีการกั้นโซนรักษาความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน ข้อดีของคนอยู่อาคารนี้ก็จะมีร้านค้าอยู่ใต้ตึกพักอาศัยเลย นอกเหนือไปจากร้านค้า ก็จะมี Kids Room ที่อาคารนี้ด้วย
สำหรับอาคาร C บริเวณชั้น 1 จะมีส่วนกลางเข้ามาคือ ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ ส่วนพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2 -8 ครับ ก็จะสะดวกมากสำหรับลูกบ้านที่ชอบทำกิจกรรม Active ออกกำลังลงมาก็เจอเลย
อาคาร D เป็นอีกอาคารที่มีส่วนกลางที่ชั้น 1 ของอาคาร และมีพื้นที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 นี้ด้วย แต่สำหรับส่วนกลางของอาคารนี้จะออกแนว Relaxing ใช้สำหรับพักผ่อนเบาๆอาทิ ห้องสมุด , ห้องกิจกรรมอเนกประสงค์ ,ห้องเล่นเกมส์ , ห้องดูหนัง จะเหมาะสำหรับลูกบ้านที่เป็นคนชอบพักผ่อนสบายๆ นั่งทำงาน ,อ่านหนังสือ ,ดูหนัง
สำหรับอาคาร E ส่วนพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 อาคารนี้อาจจะดูน่าสนใจน้อยที่สุดในเฟสนี้ เพราะไม่มีพื้นที่ส่วนกลางในตัวเอง แต่ข้อดีคือมีพื้นที่จอดรถรอบๆอาคารค่อนข้างมากกว่าที่อื่น และถ้าอยากใช้ส่วนกลางก็เดินไปได้ ระยะจริงๆไม่ได้ไกลกันมากนักครับ
จุดเด่นของสถาปัตยกรรมอาคาร ที่นี่ให้กลิ่นอายของความเป็นฝรั่งเศสเล็กๆ จากลวดลาย และวัสดุตกแต่งอาคาร โดยได้รับการออกแบบจาก Palmer&Turner (ประเทศไทย) ซึ่งถือว่าโครงการใส่ใจในการบรรรจงสร้างผลงานออกแบบอาคารมาก เพราะกับโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคาประมาณนี้ ไม่ค่อยมีใครใช้บริษัทออกแบบอาคารระดับโลกแบบนี้มาทำ นี่ถ้าไม่ใช่พฤกษา ก็ไม่น่าทำได้แน่ๆ
Facility
สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น ถือว่าเป็นโครงการที่มีส่วนกลางมากที่สุดบนถนนช่วงนี้ครับ เพราะว่ามีอยู่เจ้าเดียว เอ้ยไม่ใช่ เพราะจะว่าไปไม่ไกล ก็มีโครงการ Regent Home Condo แต่ก็แตกต่างกันที่รูปแบบโครงการ รวมถึงส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่เท่านี้ด้วย แล้วที่พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น เฟส 3 นี้ได้อะไรบ้างล่ะ
- สระว่ายน้ำ
- ฟิตเนส
- ฟิตเนสกลางแจ้ง
- Recreation Room
- Games Room
- Theatre Room
- Reading Lounge
- Kids Room
- สนามเด็กเล่น
- ลู่จ๊อกกิ้ง
- สวนลอยฟ้า
- ร้านค้าภายในโครงการ
- Wifi บริเวณล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลาง
- ลิฟท์ล็อคชั้น
- เข้า-ออกด้วยระบบ Access Card
- ระบบความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- CCTV
- พนักงานรักษาความปลอดภัย
ตามนี้เลยครับ ถือว่าอยู่ในระดับที่มากกว่ามาตรฐานสำหรับโครงการคอนโดมิเนียม ในระดับราคาล้านต้นๆ
ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบทันสมัย
ล็อปบี้ ต้อนรับแขกและนั่งรอในทุกอาคาร
ห้องอ่านหนังสือ ใช้นั่งทำงานได้
Recreation room ห้องกิจกรรมอเนกประสงค์
ร้านค้าสำหรับลูกบ้าน และ บุคคลทั่วไป
ห้องตัวอย่าง
ห้อง Studio ที่ปรับเป็น 1 Bed room โดยการเพิ่มกระจกสไลด์ 3 ตอนเข้าไปเพิ่มความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นตามสมัยนิยมที่ช่วยทำให้ห้องดูมีมูลค่ามากขึ้นมากกว่า Studio แบบเปิดโล่งเดิมๆ
ห้องขนาด 22.5 ตรม.นี้เหมาะกับผู้ที่อยู่อาศัยคนเดียวหรือ 2 คนก็ยังพอได้ ความรู้สึกที่เข้ามาภายในห้องครั้งแรก ไม่ได้รู้สึกว่าเล็กแบบที่คิด เพราะโครงการแบ่ง Function การใช้งานภายในห้องไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย
โครงการเลือกวาง โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง เพื่อให้พื้นที่การใช้งานด้านข้างเหลือวางโต๊ะทำงานเล็กๆได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งทำงานอยู่ห้อง หรือถ้าเราอยากได้โซฟากว้างกว่านี้ ไว้นอนดูทีวีก็ปรับใช้โซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้ตามความชอบ เพราะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวโครงการไม่ได้แถมให้ครับ
ระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีประมาณ 2 เมตรกว่าๆ เรียกว่ากว้างพอที่จะวางทีวีขนาด 45 – 50 นิ้วเข้าไปได้โดยไม่ปวดตาเวลารับชม พวกตู้วางที่และชั้นวางของแบบแขวน Build-in นี้ไม่ได้แถมให้นะครับ เมื่อถึงเวลาอยู่จริงก็แนะนำให้ทำตู้แบบนี้แหละ เพราะห้องขนาดประมาณนี้ ควรมีพื้นที่เก็บของมากๆ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
โครงการใช้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ซึ่งเป็นสเป็คมาตรฐานของโครงการสมัยนี้ ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน ติดตั้งกระจกสไลด์แบบ 3 ตอนให้เรียบร้อย เพิ่มความเป็นสัดส่วนและความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยมากกว่า1 คน
ข้อดีของกระจกสไลด์ 3 ตอนแบบนี้อีกอย่างคือ เมื่อเปิดสุด จะได้ความโปร่งโล่งไม่อึดอัดด้วย
ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้าไปกำลังดี มีพื้นที่ด้านข้างเหลือ 1 ด้านที่สามารถวางโต๊ะหัวเตียงสำหรับวางของ ชาร์ตมือถือได้ก่อนนอน ของจริงขายเป็นห้องเปล่าครับ บิ้วอินภายในห้องสามารถสั่งทำได้เองตามที่เราต้องการ
ห้องนอนเราจะได้แค่แอร์ 1 เครื่อง และ ไฟโคมแบบนี้ครับ อาจจะต้องติดไฟเพดานเพิ่มหากเป็นคนที่ชอบห้องนอนสว่างๆไว้นอนทำงานหรือนอนอ่านหนังสือ
ในส่วนของ Kitchen และ Dining ก็ไม่ถึงกับเป็นครัวปิดแต่มีการจัดโซนแยกออกไปด้านข้างบริเวณด้านหน้าห้องน้ำและติด
ระเบียง เพื่อช่วยในการถ่ายเทของกลิ่น สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด2 ที่นั่งได้ ไม่อึดอัดจนเกินไป
ทางโครงการแถมเค้าน์เตอร์ครัว พร้อมชั้นลอยวางของให้ จะเห็นได้วางเป็นเค้าน์เตอร์เตรียมอาหารมากกว่า เพราะห้องขนาดนี้ไม่เหมาะจะทำอาหารเองจริงๆจังๆ เหมาะกับการซื้ออาหารมาอุ่นรับประทานมากกว่า ด้านข้างมีพื้นที่เหลือพอจะวางตู้เย็นได้
ถัดไปด้านนอกระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โครงการจัดเตรียมระบบไฟฟ้าและระบบท่อน้ำดี น้ำเสียไว้ให้เรียบร้อย ยังพอมีพื้นที่เหลือๆไว้วางราวตากผ้าได้ ไม่ใหญ่มาก
สำหรับห้องน้ำทั้งโครงการจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปยกมาประกอบจากโรงงาน ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของโครงการของพฤกษาในระดับราคาเริ่มต้น ส่วนตัวผมรู้สึกว่าชอบนะครับ เพราะเชื่อใจได้ว่าปัญหาเรื่องการเชื่อมระบบท่อน้ำอะไรต่างๆจะไม่มีปัญหารั่วซึม
สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า Cotto มีบิ้วชั้นวางของไว้ในห้องน้ำสำหรับวางอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ ซึ่งด้านในจริงๆคือระบบท่อน้ำที่ซ่อนไว้ได้อย่างมิดชิด
ไม่มีกระจกกั้นอาบน้ำให้ต้องติดตั้งเพิ่มเองครับ มีพัดลมดูดกลิ่นระบายความอับชื้นในห้องน้ำไว้ให้ด้วย ถ้าชอบอาบน้ำอุ่นก็สามารถติดตั้งเพิ่มได้ทีหลัง
ห้อง combine 34.95 ตรม.
ห้องแบบ combine นี่กำลังมาแรงครับ เริ่มเห็นหลายโครงการออกแบบห้องลักษณะ Function แบบนี้ เข้ามาเพราะเป็นห้องที่กำลังได้รับความนิยมของ กลุ่มคนที่มีเพื่อน มีญาติพี่น้องมาพักบ้างเป็นบางคราว หรือครอบครัวเล็กๆที่มีลูกหรือของเยอะๆ โดยเฉพาะสาวๆ บางคนอยากได้เป็นห้องแต่งตัวเก็บเสื้อผ้า ก็จะชอบห้องลักษณะนี้เป็นพิเศษ
เปิดเข้าห้องมาจะเป็นส่วนของ DiningและLiving Area โครงการวางโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งมาให้ดู อย่างที่บอกครับห้องนี้เราสามารถรับแขกได้ จัดปาร์ตี้เล็กๆ 4-6 คนได้ไม่อึดอัด
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area น้องนั่งเล่นชมทีวีสามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่ง นอนดูทีวีได้ และยังสามารถเปิดประตูออกไปนอกระเบียงได้อีกด้วย ระยะห่างของทีวีกับโซฟาประมาณ 2 เมตร แอบใกล้ไปนิดครับแนะนำว่าเมื่ออยู่จริงให้แขวนทีวีชิดผนังไปเลย เพื่อเพิ่มระยะสายตา เหมือนเดิมครับชุดเฟอร์นิเจอร์และ บิ้วอินตรงนี้ไม่ได้แถมให้ครับ ต้องหาเพิ่มเอง
ห้อง Master Bedroom สามารถจัดวางเตียงขนาด 5.5 ฟุต หรือ 6 ฟุตได้เลย พอมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควรขนาดที่วางโต๊ะทำงาน และ บิ้วอินตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ
เพดานสูง 2.45 เมตรครับ ของจริงไม่ได้ดร๊อปฝ้าเพดานให้ราวผ้าม่านต้องติดตั้งเพิ่มเองครับ
ตู้เสื้อผ้าบานสไลด์แบบ 2 ตอน บิ้วให้ดูเป็นตัวอย่างพร้อมชั้นวางของเล็กๆด้านข้าง ถ้าเสื้อผ้าเยอะจริงๆ บิ้วเป็นแบบ 3 ตอนก็ยังมีพื้นที่เหลือๆ
สำหรับห้อง Plus ที่เป็นห้องอเนกประสงค์ โครงการจัดเป็นห้องนอนเล็กที่วางเตียงแบบ 3 ฟุต และตู้เสื้อผ้าเล็กๆให้เป็นไอเดียสำหรับห้องนอนลูกได้ ซึ่งในความจริงอย่างที่บอกคือเป็นห้องเปล่าที่เราปรับเปลี่ยนใช้งานได้ตามใจเลย
ที่ด้านหน้าห้อง Plus จะเป็นส่วนครัว และห้อง Storage เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดและเครื่องซักผ้า
ชุดครัวที่แถมให้ในห้อง 34.95 ตรม. นี้ เป็นชุดเข้ามุมรูปตัว L มีชั้นวางของให้ แต่ตู้แขวนลอยด้านบนจะไม่มีให้ครับ
ชุดครัวเป็น Top จะเป็น Laminate Postform ไม่ใช่หินสังเคราะห์ พร้อมอ่างล้างจานแบบเดี่ยว 1 หลุม และชั้นวางไมโครเวฟให้เรียบร้อย ข้อดีของการวางไมโครเวฟต่ำๆจะสะดวกเวลายกอาหารพวกน้ำแกง จะไม่ค่อยหกง่าย ผมเคยเจอบางที่ติดแขวนสูงจะลำบากเวลายกอุ่นอาหาร
ตู้เก็บของค่อนข้างเยอะ สามารถเก็บจานและอุปกรณ์ประกอบอาหารได้พอสมควรทีเดียว แต่ที่สังเกตุจะไม่มีชุดเตาไฟฟ้าและเครื่องดูควันให้ ด้วยความเป็นครัวเปิดอาจจะค่อนข้างลำบากถ้าต้องประกอบอาหารเอง ทั้งกลิ่นและควัน จะอบอวนห้องทีเดียว โครงการจึงไม่ติดตั้งเตาไฟฟ้ามาให้ จึงเป็นเค้าน์เตอร์ที่เหมาะไว้จัดเตรียมอุ่นอาหารมากกว่า
ชั้นวางของชุดนี้ได้ด้วยครับ แต่ตู้ลอยเก็บของด้านบนไม่ได้ให้
โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งสำหรับครอบครัวและแขก
ห้องน้ำยังคงเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปจากโรงงาน อุปกรณ์ครบชุดได้มาตรฐาน
ชั้นวางของใหญ่สำหรับวางอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำสำหรับทุกคนในครอบครัว
สรุป
โครงการพลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น เฟสที่จะเปิดล่าสุดนี้เป็นเฟสที่ 3 จากโครงการที่เป็นกระแสเมื่อปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้โครงการพลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น ก็ยังคงอยู่ในความสนใจของคนที่มองหาที่พักอาศัยในย่านกรุงเทพตอนเหนือ – แจ้งวัฒนะ ด้วยรูปแบบโครงการที่ดี จัดการบริหารพื้นที่โครงการและมีพื้นที่ส่วนกลางมากมาย เทียบกับโครงการในระดับราคาเดียวกันในย่านนั้น ถือว่าให้คุ้มค่าและดูดีกว่าคู่แข่งในทำเลเดียวกัน ถึงแม้ว่าเฟส 3 ที่จะเปิดนี้ ราคามีการปรับตัวขึ้นมาบ้างคือเริ่มต้นที่ 1.19 ล้าน เมื่อเทียบกับ เฟส 1 ที่ 9.9 แสนบาท แต่สิ่งที่คุณได้รับเพิ่มเข้ามาคือรูปแบบอาคารที่สวยเด่นมีกลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศสที่ออกแบบโดยบริษัทออกแบบอาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ ติดถนนใหญ่เดินใกล้กว่าเมื่อต้องการเดินไปขึ้นรถทำงาน และมี Shop ร้านค้า ที่ด้านหน้าโครงการสะดวกในการจับจ่ายซื้อของ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มเข้ามา
ถ้าจะซื้อเพราะอะไร?
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อโครงการพลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่นเฟส 3 นี้ คือ ต้องเป็นคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในราคาล้านต้นๆ ไม่เกิน 2 ล้าน ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพรอบนอกหรือ ทำงานในเขตเชื่อมต่อเมืองกรุงเทพชั้นในอย่าง วิภาวดี , พหลโยธิน เป็นหลัก ชอบโครงการที่มีส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวกดีๆ เดินทางสะดวก และใกล้รถไฟฟ้า
หรือนักลงทุนระยะยาวเพื่อปล่อยเช่า มากกว่าเหมาะกับการเก็งกำไร เพราะจุดตรงนี้ค่อนข้างใกล้แหล่งทำงานขนาดใหญ่ อาทิศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ยาวไปตลอดเส้นทางแจ้งวัฒนะถึงปากเกร็ด รวมถึงมหาวิทยาลัยที่รายล้อมอยู่มากมาย เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยเกริก และที่ใกล้สุดเลยก็คือมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร