โครงการคอนโดอยู่อาศัย ตัวแรกจากบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในเครือ บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด หรือสินค้าจำพวกที่เรามักจะได้เห็นในท้องตลาดอยู่บ่อยๆก็คือ เบียร์สิงห์ ปัจจุบันขยายธุรกิจ สวมหมวกอีกใบ เข้ามาจับตลาดเป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
โครงการแรกสุดของ Developper เจ้านี้ เป็นโครงการ Mixed-use project “สิงห์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ และเปิด Pre-Sale โครงการไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาในวันนี้ที่ 4-5 มีนาคม 2560 นี้และโครงการถัดมา อาจจะพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นโครงการ Residential Project โครงการแรก ของสิงห์ เอสเตจ ในชื่อ The ESSE Asoke (ดิ เอส อโศก)
โครงการ The ESSE Asoke เป็นโครงการคอนโดระดับ Luxury ที่เริ่มต้นดีตั้งแต่ชื่อโครงการ คำว่า ESSE ไม่ได้เป็นแค่คำพ้องเสียงกับชื่อย่อ S ของบริษัทเท่านั้น ในภาษาละตินยังมีความหมายว่าความมีคุณค่า ความมีเอกลักษณ์ อีกด้วย ซึ่งก็จริงตามชื่อเลยค่ะ ทำเลโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ทรงคุณค่าอย่างถนนอโศกมนตรี และรูปแบบโครงการที่ทำออกมาได้โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา
โครงการ The ESSE Asoke ตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรี ห่างจาก MRT สุขุมวิท เป็นระยะทาง 500 เมตร ที่ดินผืนล้ำค่าที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น “สิงห์เบียร์เฮ้าส์” สถานที่ที่ใครหลายคนรู้จักดีริมถนนอโศกมนตรี ถูกส่งต่อ เพื่อต่อยอดพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองระดับ Luxury
การเดินทางครอบคลุมทุกคมนาคม สะดวกสบายทั้งระบบ รถ ราง เรือ ถนนอโศกมนตรี เป็นถนนเส้นสั้นๆ ยาวประมาณ 1.3 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่จุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิท กับถนนรัชดาภิเษก หรือที่เรียกว่าแยกอโศกมนตรี มีสถานี MRT สุขุมวิท และ BTS อโศก ตัวถนนจะยาวไปจนถึง แยกอโศก-เพรชบุรี ซึ่งเป็นจุดขึ้นลงของสถานี MRT เพชรบุรี และ Ariport Rail Link สถานีมักกะสัน รวมทั้งท่าเรือสะพานอโศก ตัวโครงการจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองแยก หมายความว่าคุณจะเลือก เดินทางโดยใช้เส้นทางไหนก็ได้
ถ้าคุณมีไลฟ์สไตล์หรูหรา จะขับรถออกจากบ้านไปทำงาน หรือในวันที่เร่งรีบ มีขนส่งมวลชนสาธารณะระบบราง ถึง 3 สาย ที่รองรับคุณอยู่ หรือหากคุณมีไลฟ์สไตล์ชิคๆ เก๋ๆ ก็มีท่าเรือ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเช่นกัน
ทำเลย่านอโศก เป็นทำเลที่ทุกคนรู้จักกันดี แวดล้อมไปด้วย Office Building, ร้านอาหารมีให้เลือกหลากหลาย สถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ, โรงพยาบาลชั้นนำอย่างบำรุงราษฎร์, ศูนย์การค้าที่ทุกคนต้องรู้จักอย่าง Terminal 21 และยังเป็นย่านที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สาธารณะสีเขียวถึงสองแห่ง คือสวนเบญจกิติและ เบญจสิริ
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ศูนย์การค้า Terminal 21
อุทยานเบญจสิริ
ข้อมูลโครงการเบื้องต้น
Project : The Esse Asoke
Developer : Singha Estate
Tenure : Freehold
Area : 2-2-73.7 ไร่
Location : ถ.อโศกมนตรี
Total Floors : 55 Fl.
Construction Finished : May 2019 (พ.ค. 2562)
UNIT TYPE Total units : 419 units
- 1 Bedroom ขนาด 37.0 -53.0 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 75.5 – 84.0 ตร.ม.
- Penthouse ขนาด 104.5 – 195.5 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท (25/02/2017)
ผังอาคาร โครงการ The ESSE Asoke
THE ESSE ASOKE ตกแต่งด้วยแนวคิด Iconic Elegance ในรูปแบบของสถาปัตยกรรมสไตล์ Contemporary Luxury และสำหรับ Landscape ออกแบบภายใต้แนวคิด Green Elegance and Luxury Space ซึ่งมีความเรียบง่าย แต่มีความหรูหราเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบของสถาปัตยกรรม ต่อเนื่องกันไปทั้งโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน เติมเต็มชีวิตทุกมิติ
- ที่จอดรวม : 102% with super car & super bike parking
- The ESSE Court1,000 sq.m. garden
- Sculpture court
- Sky panoramic pool with kids pool ,lap pool and jacuzzi
- Gym & Golf simulation
- Residences lounge
- Reading chamber
- Skyscraper deck
ความโปร่งโล่งสบายของ Grand Lobby ที่มีความสูงถึง 7.5 เมตร
โครงการ Set back อาคารไปถึง 40 เมตร ทำให้เกิดพื้นที่สีเขียวด้านหน้า THE ESSE COURT กว่า 1,000 ตารางเมตร
สระว่ายน้ำพาโนรามิคพร้อมสระเด็ก สระว่ายน้ำทวนน้ำ และจากุชชี่ ชั้น 33
และในชั้นเดียวกันนั้นเอง ฟิตเนส พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน ดีไซน์ด้วยกระจกสูงให้คุณรับวิวเมืองย่านอโศกไปตลอดการออกกำลังกาย
และชั้น 43 The Esse resident Lounge พื้นที่พักผ่อนสำหรับลูกบ้านให้ความเป็นส่วนตัว พร้อมรับวิวในชั้นที่สูงที่สุด เปิดมุมมองรอบทิศ
สำหรับโครงการ The Esse Asoke โดย Singha Estate ตอนนี้ปิดยอดขายไปแล้วกว่า 80% สำหรับเพื่อนๆที่เล็งโครงการนี้ไว้ ก็ยังมีห้อง type 2 ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ที่ยังมีให้จับจองกันอยู่ รีวิวนี้ P2M เลยนำภาพห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนมาฝากกันค่ะ
2 ห้องนอน ขนาด 75.5 ตารางเมตร
เปิดประตูห้องเข้าไป พื้นที่โซนแรกจะเป็น pantry มองเข้าไปเชื่อมต่อกับพื้นที่ Dining และ living area
ด้านซ้ายมือของยูนิต จะเป็นห้องนอนเล็กข้อดีของการวางห้อง layout แบบนี้คือจะได้ความ Private เพราะห้องนอนใหญ่ กับห้องนอนเล็กอยู่แยกกัน
ห้องนอนเล็กจะเชื่อมกับห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ใช้สำหรับรับแขกด้วย โดยมีประตูเข้าได้จากอีกฝั่งหนึ่ง
มองพื้นที่ส่วน Pantry กับแบบชัดๆ มี Iceland ให้ตรงกลาง พร้อมกับตู้เย็น 20 คิวให้มาเลยพร้อมกับห้อง
เกาะกลาง นอกจากมีฟังก์ชันให้สำหรับเตรียมอาหาร และนั่งทานอาหารได้แล้วยังมีชั้นให้เก็บข้าวของได้มากโข
เตาเป็นแบบ 4 หัว มากพอให้คุณอุ่นซุปหรือแกง พร้อมๆกับการปรุงอาหารอื่นๆไปด้วย
ซิงค์ล้างจานสองอ่าง สำหรับเพื่อนๆที่เข้าครัว คงทราบที่ว่าการมีซิงค์ 2 อ่างง่ายและสะดวกสบายกับการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง
ถัดเข้ามาจากพื้นที่ส่วนที่เป็นครัว เป็น living area ซึ่งอยู่ติดหน้าต่าง ข้างๆเป็นพื้นที่โซนรับประทานอาหาร และระเบียง
ระยะระหว่างโซฟาและทีวีกว้างขวาง ถ้าคุณเลือกทีวี แนะนำอยู่ที่ขนาด 40-50 นิ้วกำลังเหมาะค่ะ
พื้นที่นั่งรับประทานอาหาร ห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นไอเดียนั่งได้ 4 ที่แบบสบายๆ ยุคนี้มีเฟอร์นิเจอร์หลายแบบที่มีฟังก์ชันหลากหลาย เวลาไม่ใช้ก็พับเก็บได้ คุณอาจไปลองเลือกเดินหาเฟอร์นิเจอร์ที่กะทัดรัด เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ยูนิตพักอาศัยของคุณ
ห้องนอนใหญ่ Master bedroom กว้างขวางมากขนาดวางเตียงคิงไซท์ 6 ฟุตก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้โดยรอบ
รวมทั้งปลายเตียงยังเหลือที่ว่างให้วางทีวี หรือคุณจะบิ้วท์อินทำที่เก็บของเพิ่มอีกก็ได้
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เป็นแบบ Sexy Baht มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ดีสำหรับนักลงทุนปล่อยเช่าที่อยากได้ลูกค้าเป็นชาวญี่ปุ่น แม้ย่านอโศกจะไม่ใช่ย่านที่มีคนญี่ปุ่นเยอะ อย่างพร้อมพงษ์ นานา แต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง เพราะอโศกเป็นย่านที่มี office building อยู่มาก
อ่างล้างหน้า 2 ฝั่งสำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย
พร้อมกระจกสูงเต็มบาน
ฝั่งตรงข้ามเป็น Shower Box มาพร้อมกับ Rain Shower ทรงสี่เหลี่ยม
พื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 2 เมตรคูณ 2 เมตร
และขอปิดท้ายรีวิวห้องตัวอย่าง แบบ 2 ห้องนอนนี้ ด้วยป้ายหน้าโครงการสวยๆ จาก สิงห์เอสเตจค่ะ
นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มักรู้กันอยู่แล้วว่า ปัจจัยที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกในการเลือกคอนโด คือ LOCATION และต้องยอมรับในเรื่องของทำเลของโครงการนี้เลยว่า เป็น Prime Area ที่ปัจจุบันทำเลในย่านนี้แทบไม่เหลือที่ดินให้พัฒนาโครงการอสังหาฯได้อีกแล้ว รวมทั้งที่ดินแปลงนี้เอง ก็เป็นแปลงที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเหมือนที่ดินมรดกของสิงห์ เอสเตจ ด้วยทำเลที่เป็นย่านอโศก ทั้งแหล่งงานและไลฟ์สไตล์ครบครัน การเดินทางสะดวกสบาย เลือกเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงการออกแบบอาคารให้เป็น Single Corridor ทำให้รู้สึก Private มากที่สุด ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้ดีเยี่ยม
ในมุมมองความคุ้มค่าของการลงทุน 4-5ปีก่อนหน้านี้ ทำเลย่านอโศกจะเปิดขายโครงการในราคาเฉลี่ย 150,000 บาท/ตารางเมตร ในขณะที่ปัจจุบัน บางโครงการเฉลี่ย 250,000 บาท/ตารางเมตร แม้จะมีโครงการเปิดขายมากมายในช่วง 4-5 ปี นี้แต่อัตราการขายก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี บางโครงการถึง 90% อย่าง The ESSE Asoke ตอนนี้ Sold Out ไป 80% แล้ว
จากข้อมูลที่กล่าวมานี้ ทำให้บอกได้ว่าย่านนี้ยังเป็นย่านที่มีความต้องการของตลาดคอนโดสูง เมื่อของหายากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแทบไม่มีที่ดินแปลงไหนให้พัฒนาได้อีกแล้ว แต่ความต้องการยังมีอยู่ทำให้ราคาจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นหลักของกลไกตลาดที่เข้าใจง่ายๆ และยังเป็นเหตุผลที่ตอบคำถามให้กับนักลงทุนแบบระยะยาวถือครอง 5-10 ปีอีกด้วย สำหรับนักลงทุนปล่อยเช่าโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted คุณอาจจะต้องไปเดินเลือกเฟอร์นิเจอร์นิดหน่อยเพื่อให้ปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น แต่โครงการติด Wallpaper และให้ม่าน รวมทั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว รายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ สามารถเพิ่มมูลค่าให้ห้องปล่อยเช่าของคุณ ซึ่งโครงการเตรียมไว้เรียบร้อย โดยที่คุณต้องไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับราคาเช่าในย่านอโศก ห้อง 1 Bedroom ขนาด 45-50 ตารางเมตร จะอยู่ที่ 35,000-40,000 บาท และ ห้อง 2 Bedrooms จะอยู่ที่ 65,000-80,000 บาทต่อเดือน ทำให้ Rented Yield จะอยู่ที่ประมาณ 4-6% ต่อปี
ด้วยศักยภาพในทุกๆด้านที่กล่าวมาทำให้ The ESSE Asoke จาก สิงห์ เอสเตจ เป็นโครงการที่ยั่วยวนทั้งน่าลงทุน และจับจองเป็นเจ้าของ
ข้อมูลเพิ่มเติม 1221 หรือ คลิก เพื่อเข้าสู่เว็บไซท์โครงการ