เครือ ว่องไววิทย์ฯ เผยโครงการ “เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์” สร้างเสร็จสมบูรณ์ 100 % พร้อมส่งมอบลูกค้าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 นี้เป็นต้นไป
นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด บริษัทในเครือ ว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์” ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมส่งมอบห้องชุดให้ลูกค้ากลุ่มแรกในเดือนตุลาคม 2561 นี้เป็นต้นไป โดยเป็นคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกของบริษัทฯ มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาท ติดสถานี BTS สำโรง และเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เส้นลาดพร้าว-สำโรงในอนาคต ได้ที่สถานีเทพารักษ์ เปิดขายตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 ปัจจุบันเหลือขายเพียง 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท เป็นราคาที่ขายต่ำกว่าคู่แข่ง 10% เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าซื้อแล้วสามารถปล่อยเช่าต่อได้
โครงการ “เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์” มีทั้งหมด 3 อาคาร ประกอบด้วย อาคาร A สูง 39 ชั้น รวม 1,035 ยูนิต อาคาร B สูง 30 ชั้น รวม 542 ยูนิต และ Low Rise อาคาร C สูง 7 ชั้น จำนวน 144 ยูนิต รวมอาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร รวมที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันประมาณ 43 % สำหรับรูปแบบห้อง แบ่งเป็น Studio 28 ตารางเมตร 1 Bedroom 35 – 45 ตารางเมตร 2 Bedrooms 52 – 53 ตารางเมตร และ ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
?จุดเด่นของโครงการ
-ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS และอีก 3 ปีเชื่อมกับสายสีเหลือง
-โครงสร้างเหล็กที่ทำตัวโครงสร้างอาคารแข็งแรง ใช้วัสดุก่อสร้างที่ดี มีคุณภาพ เนื่องจากเป็นครอบครัววิศวกรเลยให้ความสำคัญกับ “เอ็นจิเนียริ่ง” มากกว่า “คอสเมติค” เพราะทรัพย์สินต้องวัดกั
?การลงทุน-ลูกค้าเป้าหมาย
-ขายต่ำกว่าราคาคู่แข่ง 10% เพื่อให้นักลงทุนสามารถปล่อยเช่าในอนาคตได้ และมีการสร้างออนเซนเพื่อเอาใจผู้เช่าชาวญี่ปุ่น
-มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าอายุ 30-40ปีเป็นคนรุ่นใหม่ เน้นคนในพื้นที่ และในกทม.
ปัจจุบันเหลือ 200 ยูนิต ขนาดห้องดังนี้
-28 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 2.8 ล้านบาท(หมดแล้ว)
-35 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 3 ล้านบาท
-52 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท
-67 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท (หมดแล้ว)
นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ประกอบด้วย โถงล็อบบี้ขนาดใหญ่ บริเวณ ชั้น 6 สระว่ายน้ำระบบเกลือ 2 สระ ขนาด 12 x 28 เมตร (อาคาร A) 12 x 30 เมตร (อาคาร B) และสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 เมตร ห้องออกกำลังกาย สวนหย่อมรอบโครงการ สนามแบดมินตัน 2 สนาม ห้องไดร์ฟกอล์ฟ ห้องอเนกประสงค์ ลิฟท์โดยสารความเร็วสูง ที่อาคาร A และ B 4 ตัว/อาคาร และที่อาคาร C และ D 2 ตัว/อาคาร Service Lift 1 ตัว/อาคารระบบความปลอดภัย CCTV/Face recognition building access/ Smart digital Kevo door lock /License plate reader parking system เป็นต้น
โครงการดังกล่าว เน้นเจาะกลุ่มคนในพื้นที่ ซื้อที่อยู่อาศัยรองรับครอบครัวขยาย รวมถึงกลุ่มคนทำงาน-นักลงทุน ที่ส่วนใหญ่เงินเดือนประมาณ 50,000 บาทเป็นต้นไป พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 150 ล้านบาท สำหรับตกแต่ง “Sky Lounge/Sky deck บนชั้น 39 พร้อม Onsen และสวนลอยฟ้า” บนชั้นดาดฟ้าให้กับลูกบ้านในโครงการฯ เพื่อขึ้นไปชมวิวรอบทิศ