อรินสิริฯเผยแผนหลังเทรดเข้าตลาดmai เล็งหลังปี65 ขยายไลน์ธุรกิจสร้างรายได้ระยะยาว พร้อมลดสัดส่วนธุรกิจเพื่อการขายเหลือ 70% ยอดรับรู้รายได้ปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์1 อสังหาฯภาคตะวันออก
นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ARIN เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรีว่า เป็นจังหวัดที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตขึ้นเป็นอันดับ1ในภาคตะวันออก มีการขยายตัวของจีพีดีค่อนข้างสูง เป็นเมืองท่าที่สำคัญ มีความหนาแน่นของประชากรและประชากรแฝงมากกว่า 3.5 ล้านคน เนื่องจากชลบุรีและบริเวณโดยรอบ มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นมากมาย และมีการซื้อที่ดินเพื่อขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมตามนโยบายการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(Eastern Economic Corridor:EEC) และไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนเข้ามาบริหารประเทศ ก็ต้องสานต่อนโยบายของการลงทุนในEEC ขณะเดียวกันราคาที่ดินในจังหวัดชลบุรี มีการปรับตัวค่อนข้างสูง โดยทำเลติดถนนราคาอยู่ที่ 20 ล้านบาท/ไร่ หรือปรับขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 50-60% ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราการเติบโตของภาคอสังหาฯเริ่มขยายไปทำเล อ.พานทอง อ.บ้านบึง และ อ.พนัสนิคม แล้ว
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)แล้ว มีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในระยะยาวได้มากขึ้น เนื่องจากชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย จากปัจจุบันที่มีรายได้จากอสังหาฯเพื่อการขาย 100% โดยตั้งแต่อรินสิริฯดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2549 รวมระยะเวลา 14 ปี พัฒนามาแล้ว 20 โครงการ มูลค่าการขายกว่า 4,000 ล้านบาท ในอนาคตหลังปี 2565 จะลดสัดส่วนรายได้จาการขายเหลือ 70% และเพิ่มรายได้ประจำให้อยู่ในสัดส่วนที่ 30% ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล ซึ่งอาจจะเป็นในรูปแบบของการสวอปหุ้น หรือการเทกโอเวอร์ธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาว ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ รวมไปถึงตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำภาคธุรกิจอสังหาฯในภาคตะวันออก โดยจะมียอดรับรู้รายได้ปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดรับรู้รายได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
“เราถือว่าเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯรายแรกในภาคตะวันออก ที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหลังเทรดแล้วเรามีแผนที่จะขยายไลน์ไปยังธุรกิจอื่นในยุค4.0-5.0 ที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภค บริโภค และต้องเป็นโมเดลที่ทำให้ผู้บริโภคในภาคตะวันมีส่วนร่วมด้วย”นายสุชาติ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯยังมองหาและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ จากที่ปัจจุบันโครงการและแบรนด์ของ “อรินสิริ” เป็นที่รู้จักในวงกว้างภายในจังหวัดชลบุรี แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาดในพื้นที่ถึง 30-40% แต่ก็ไม่กระทบด้านยอดขายของบริษัทฯแต่อย่างใด เนื่องจากมีจุดแข็งด้านความชำนาญในพื้นที่มานาน ต้นทุนที่ดินในการพัฒนาโครงการต่ำกว่าคู่แข่ง การก่อสร้างที่ยังเน้นก่ออิฐฉาบปูนแบบเดิม แต่เพิ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้านการก่อสร้างเข้าไป โดยไม่คิดเอาเปรียบผู้บริโภค ขณะเดียวกันราคาขายก็ไม่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายใหญ่แต่อย่างใด ทำให้แบรนด์ของ “อรินสิริ”ยังแข็งแกร่ง
นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตบริษัทฯยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราต่อเนื่องถึงถนนบางนา เนื่องจากทำเลดังกล่าวมีศักยภาพและการเติบโตของกำลังซื้อ รวมถึงยังได้รับประโยชน์จากนโยบายEEC ส่วนการลงทุนในพื้นที่กทม.หากมีโอกาสในการได้ที่ดินในราคาไม่สูงมากนัก และอยู่ในทำเลศักยภาพ บริษัทฯก็พร้อมที่จะเข้าไปพัฒนาเช่นกัน
สำหรับในปี 2562 บริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัว 4 โครงการใหม่ รวมมูลค่าประมาณ 2,179 ล้านบาท ซึ่งมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมด ได้แก่
1.โครงการอรินสิริ บีช @ บ้านฉาง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 31 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว จำนวน 148 ยูนิต ราคา 3-4 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 542.70 ล้านบาท โดยจะเปิดขายในไตรมาส2/2562
2.โครงการ อรินสิริ แคมปัส พัฒนาในรูปแบบอาคารชุดพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร มูลค่าโครงการ 305.03 ล้านบาท
3.โครงการ อรินสิริ เมาท์เท่น พัฒนาในรูปแบบทาวน์โฮม จำนวน 302 ยูนิต มูลค่าโครงการ 546.12 ล้านบาท เปิดขายไตรมาส3/2562
4.โครงการอรินสิริ บีชคอนโด 1,2 บริเวณอาคารชุดพักอาศัย สูง 14 ชั้น 2 อาคาร ซึ่งเป็นการพัฒนาคอนโดฯไฮไรส์ครั้งแรกของบริษัท มูลค่าโครงการรวม 1,600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามคาดว่าในปี 2562 บริษัทฯจะมีผลประกอบการเติบโตจากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 380.14 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 119.38 ล้านบาท กำไรสุทธิ 26.05 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 31.41