กลุ่ม”คูวิจิตรสุวรรณ”ผนึกพันธมิตรรุกอสังหาฯระดับลักชัวรี่

  • Post author:
You are currently viewing กลุ่ม”คูวิจิตรสุวรรณ”ผนึกพันธมิตรรุกอสังหาฯระดับลักชัวรี่
กลุ่มคูวิจิตรสุวรรณ ผนึกกลุ่มฮ่องกง ตั้งบริษัทร่วมทุน “แค๊ปสโตน แอสเสท”ผุดโครงการมิกซ์ยูส เจาะทำเล Non CBD ติดรถไฟฟ้า หวังลดความเสี่ยง-เพิ่มมูลค่าในอนาคต ตั้งเป้าปีละ 1-2 โครงการๆละ 2,000 ล้านบาท  ขณะที่คูน เอสเตทฯล่าสุดร่วมทุนกลุ่มนายน์ เอสเตท ผุดโรงแรม 5 ดาว บนเกาะสมุย มูลค่าลงทุน 3,200 ล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการปลายปีนี้
นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด เปิดเผยภาพถึงรวมตลาดอสังหาฯไตรมาส2 และแนวโน้มครื่งปีหลัง 2562 หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่า กำลังซื้อในระดับไฮเอนด์ ยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอีกมาก ขณะที่ตลาดคอนโดฯโดยรวมผู้พัฒนายังต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะซัพพลาย มีค่อนข้างมาก ส่วนตลาดอื่น เช่น อาคารสำนักงานในพื้นที่รอบนอกใจกลางเมือง (non-CBD location) แต่เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า มองว่ายังมีศักยภาพมาก เพราะซัพพลายใหม่ยังไม่มาก และอาคารสำนักงานเกรดA ในพื้นที่ใจกลางเมือง ราคาพุ่งสูงไปมาก ในขณะที่รูปแบบการทำงานและเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้วัตถุประสงค์ของบริษัทเปลี่ยนไป ไม่ได้ต้องการความหรูหราอลังการของอาคารสำนักงาน แต่เน้นเรื่อง ประโยชน์ใช้สอย เป็นสำคัญ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของพนักงานออฟฟิศที่เปลี่ยนไป จึงเชื่อว่าบริษัทฯจะสามารถพัฒนาอาคารสำนักงานที่นำเสนอรูปแบบของ work space ใหม่ที่ลงตัวกับความต้องการมากขึ้น ส่วนตลาดการท่องเที่ยวเชื่อว่าเมืองไทยมีศักยภาพสูงมากๆ ทั้งกรุงเทพและ resort destination เช่น สมุย ภูเก็ต และพังงา ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ มีสำคัญมากในทุกๆด้านเพราะจะมีผลกับทุกตลาดที่กล่าวมา

ทั้งนี้จากประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตนมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างๆในนามของบริษัท คูน เอสเตท จำกัด ล่าสุดได้ก่อตั้งบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ขึ้นมาเมื่อต้นปี 2562 โดยตนถือหุ้นสัดส่วน 50% และกลุ่มครอบครัวยู จากฮ่องกง ในสัดส่วน50% ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ-โรงแรมระดับไฮเอนด์ทั่วโลก โดยทิศทางการลงทุนของบริษัทฯในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีนี้ จะมุ่งเน้นพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสเป็นหลัก ปีละประมาณ 1-2 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท/โครงการ  เนื่องจากมองว่าหากพัฒนาในรูปแบบของที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวจะมีความเสี่ยงสูง แต่หากพัฒนาในรูปแบบของที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานเกรดบี หรือโรงแรม ในพื้นที่รอบนอกใจกลางเมือง (Non CBD) ติดสถานีรถไฟฟ้า อาทิ ทำเลย่านอารีย์ และเย็นอากาศ เป็นต้น  จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน  แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี2562 นี้

ล่าสุดแค๊ปสโตนฯได้ร่วมทุนกับบริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)ของกลุ่มปัญจทรัพย์ เพื่อพัฒนาโครงการ “ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์” (Tonson One Residence)เป็นคอนโดฯ ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ สูง 29 ชั้น ขนาด 57-387.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 20-170 ล้านบาท หรือ 200,000-500,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 80 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดพรีเซลในวันที่ 9 มิถุนายน 2562 นี้

“เราสนใจพัฒนาโครงการประเภทมิกซ์ยูส แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกโครงการต้องเป็นมิกซ์ยูส ตัวอย่างเช่นโครงการ Tonson One Residence ที่เหมาะกับ super luxury residential development  เราดู highest-and-best use เป็นสำคัญ  เชื่อว่าโครงการประเภทมิกซ์ยูส สามารถใช้ที่ดินในทำเลที่หลากหลายให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อพิจารณาจากความต้องการตลาดในแต่ละทำเล  สำหรับโครงการมิกซ์ยูส ที่ร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารแต่ละส่วนของโครงการมีความสำคัญมาก เช่นการมี hotel operator หรือ retail operator ที่มี best practice ในการบริหารและฐานลูกค้าที่ดี มีผลกับความสำเร็จของโครงการโดยรวมเป็นอย่างมาก เราเลยให้ความสำคัญกับการร่วมทุนที่จะเกิดขึ้นในแง่ของการบริหารจัดการ” นายฐิติวัฒน์ กล่าว

ส่วนคูน เอสเตทฯ ก็จะเป็นทั้งในรูปแบบของการพัฒนาเองและการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับโอกาสในการลงทุน แต่จะเลือกทำเลที่มีศักยภาพสูง หากเป็นการพัฒนากับพันธมิตรต่างๆก็จะตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาพัฒนา1 บริษัทต่อ 1 โครงการ ที่ผ่านมาได้ร่วมทุนกับบริษัท นายน์ เอสเตท จำกัด  พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ควอเตอร์ ได้แก่ ควอเตอร์ ทองหล่อ บ้านเดี่ยวลักเซอรี่ มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท,​ ควอเตอร์ 31 ทำเลในซอยสุขุมวิท 31 จำนวน 20 ยูนิต  และควอเตอร์ 39 ทำเลในซอยสุขุมวิท 39

ล่าสุดยังได้ร่วมทุนกับบริษัท นายน์ เอสเตท จำกัด  ในการพัฒนาโครงการที่ 4  บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณหาดเชิงมน บนที่ดินติดทะเล พื้นที่ 19 ไร่  ด้วยการก่อตั้งบริษัท เชิงมน เรียลเอสเตท จำกัดเพื่อพัฒนาในรูปแบบโรงแรม 5 ดา ขนาดเฉลี่ยประมาณ 80 ตารางเมตร/ยูนิต  โดยพูลวิลล่าส่วนใหญ่เป็น beachfront พูลวิลล่า พื้นที่ 184 ตารางเมตร รวม 138 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จาภายในปลายปี 2562 นี้

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่คูน เอสเตทฯ พัฒนาเอง คือ “คูเปอร์สยาม”ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ บริเวณถนนรองเมือง เป็นคอนโดฯสูง 24 ชั้น ออกแบบห้องสไตล์ Combo Loft  ขนาดตั้งแต่ 30-220 ตารางเมตร จำนวน 188 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ประมาณ 138,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกกว่าคอนโดฯย่านใจกลางเมืองถึง 30% ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่ราคาขายเกิน250,000 บาท/ตารางเมตรเมตร โดยมอบหมายให้บริษัท  ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาโครงการและบริหารงานขาย ซึ่งได้ปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านการก่อสร้างได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในไตรมาส2/2561 และแล้วเสร็จในไตรมาส3/2564

 

 

 

 

 

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing