CHEWA ผุด 7 โครงการใหม่ครึ่งปีหลังตามแผน มูลค่า7.2พันล้าน

  • Post author:
You are currently viewing CHEWA ผุด 7 โครงการใหม่ครึ่งปีหลังตามแผน มูลค่า7.2พันล้าน
ชีวาทัยฯเผยครึ่งปีหลัง 62 อสังหาฯไทยยังเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะLTV พ่นพิษกำลังซื้อหด คอนโดฯกระทบสุด ส่งผลผู้ประกอบการนำสินค้าดัมพ์ราคาหวังระบายสต๊อก หวังรัฐบาลชุดใหม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอสังหาฯโต  ครึ่งปีหลังผุด 7 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 7,248 ล้านบาทล่าสุดผนึกคอมแม็กฯ ผู้นำเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ นำระบบ Home Automation เข้าใช้ในโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์”
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด(มหาชน)หรือ  CHEWA เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า ยังคงเผชิญกับความท้าทายค่อนข้างมาก หลังจากมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (loan-to-value :LTV) มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมของการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงไปอย่างมาก เนื่องจากผู้ซื้อยังคงเกิดความสับสนและตกใจมาตรการ LTV อยู่ อีกทั้งนักลงทุนที่ในตลาดก็หายไป รวมถึงลูกค้าชาวต่างชาติที่ชะลอตัวลงด้วย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ตลาดคอนโดมิเนียมที่เริ่มเห็นการขายที่ชะลอตัวลง และผู้ประกอกบการต่างนำสินค้ามาขายในราคาที่ถูกกว่าช่วงพรีเซล กันมากเพื่อระบายสต๊อกออกให้ได้มากที่สุด ทำให้ปัจจุบันชนการแข่งขันด้านราคาของคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับที่สูง แต่ในส่วนของฯบริษัทนั้นจะไม่เข้าไปแข่งขันด้านราคากับ ผู้ประกอบการรายอื่น เนื่องจากสามารถบริหารจัดการสินค้าคงเหลือได้ดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าในหลายๆโครงการได้ชะลอการเปิดตัวโครงการไปบ้าง เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์เชิงรับตามภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยจะเน้นไปที่การให้โปรโมชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเสริมให้กับลูกค้าแทน

ส่วนกลุ่มสินค้าแนวราบนั้นยังมีความต้องการซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโครงการแนวราบระดับราคา 2.5-3 ล้านบาท ที่ลูกค้ายังคงมีการซื้อต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าตลาดสินค้าแนวราบเป็นตลาดที่ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการแข่งขันที่ไม่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯมองว่าปัจจัยที่มีผลในการช่วยฟื้นภาพรวมเองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ฟื้นตัวกลับมาได้นั้นคงจะต้องหวังการกระตุ้นจากภาครัฐที่จะเป็นตัวหนุน ซึ่งยังคงต้องติดตามว่าภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมาบ้างที่ส่งผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายประการ ทั้งมาตรการLTV ที่เข้มงวดมากขึ้น  ความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐฯ  รวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2563 ซึ่งยังคงอยู่ขั้นตอนการวางแผนและยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯได้รับผลกระทบจากการที่ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมีเนียมระดับบน  ทำให้ต้องระมัดระวังในการสรรหาที่ดินที่มีศักยภาพมากขึ้น รวมไปถึงการมองหาที่ดินเพื่อขยายตัวไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ โดยมีแผนการสำรวจข้อมูลการขายและการตลาดในย่านนั้นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้ออย่างละเอียด” นายบุญ  ชุน เกียรติ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในครึ่งปีหลัง 2562  จะมีการเปิดตัวทั้งสิ้น 7 โครงการ รวมมูลค่า 7,248 ล้านบาท โดยไตรมาส3/2562 วางแผนเปิดตัว 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท, 2. โครงการชีวารมย์ นครอินทร์ มูลค่าโครงการ 1,593 ล้านบาท  และ 3. โครงการชีวา บิซ โฮม เอกชัย-บางบอน มูลค่าโครงการ 765 ล้านบาท

ส่วนโครงการที่จะเปิดตัวในไตรมาส4/62 มีจำนวน 4 โครงการ  ได้แก่ 1.โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท, 2.โครงการฮอลล์มาร์ค จรัญ13 มูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท, 3.โครงการชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 903 ล้านบาท, และ4.โครงการ ฮาร์ท สุขุมวิท 36 มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท

และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าโครงการมากขึ้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับบริษัท คอมแม็ก จำกัด(มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญ และผู้นำทางด้านระบบ Intercom, Video Phone, Smart Home System (IoT) ของโลก จากประเทศเกาหลีใต้ เปิดมามากกว่า 50 ปี และมีตัวแทนจำหน่ายสินค้ามากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และ COMMAX ยังมีโรงงานผู้ผลิต Technology and Knowledge เป็นของตัวเอง ทำให้สามารถพัฒนาสินค้าทั้ง Hardware and Software ได้ตามความต้องการของลูกค้าบริษัท พร้อมทั้งยังได้มีรางวัลต่างๆ มากมาย ได้แก่ Reddot Design Award, iF Design Award, Good Design Award, IDEA Design Award  ซึ่งการร่วมมือครั้งเป็นการนำเทคโนโลยี Home Automation เช่น Smart Home Control, Gate Barrier Camera, Bluetooth Lift Control พร้อมฟังก์ชันเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ โดยใช้ต้นทุนประมาณ 70,000-80,000 บาท/ยูนิต และนอกจากโครงการดังกล่าวบริษัทยังได้ร่วมมือกับ COMMAX เพื่อนำเทคโนโลยี Home Automation เข้าไปใช้ในโครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า อีกด้วย

โครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯ สูง 25 ชั้น ขนาด 24.50-44 ตารางเมตร ราคา 2.19 – 5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 95,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 649 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2562 นี้ คาดว่าภายในระยะเวลา 2 วัน จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 60% ด้านการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2563 นี้

ส่วนกลุ่มสินค้าแนวราบนั้นยังมีความต้องการซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโครงการแนวราบระดับราคา 2.5-3 ล้านบาท ที่ลูกค้ายังคงมีการซื้อต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าตลาดสินค้าแนวราบเป็นตลาดที่ยังคงไปได้เรื่อยๆและมีการแข่งขันที่ไม่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าปัจจัยที่มีผลในการช่วยฟื้นภาพรวมเองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ฟื้นตัวกลับมาได้นั้นคงจะต้องหวังการกระตุ้นจากภาครัฐที่จะเป็นตัวหนุน ซึ่งยังคงต้องติดตามว่าภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมาบ้างที่ส่งผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย

อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าในปีนี้ยอดโอนจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 2,880 ล้านบาท โดยมาจากจากยอดโอนคอนโดฯ 1,660 ล้านบาท และยอดโอนโครงการแนวราบ 1,210 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 585 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 406 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 179 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ทั้งหมด

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing