กลุ่มฑีฆาก่อสร้างฯ แตกไลน์ธุรกิจ ตั้งบริษัทลูก“ทีฆา เรียลเอสเตท”รุกอสังหาฯเต็มตัว มั่นใจประสบการณ์รับเหมาก่อสร้างคุมต้นทุนก่อสร้างได้ถึง10% เผยทิศทางธุรกิจเน้นพัฒนาแนวราบ ราคา 3-7 ล้านบาท นำร่อง“ดิเอสเซนส์”ชัยพฤกษ์–วงแหวน มูลค่า 950 ล้านบาท มั่นใจปิดขายทั้งโครงการในปลายปี 64 ตั้งเป้า 5 ปี ผุด3 โครงการๆละ 700-1,000 ล้านบาท กระจายพื้นที่รอบกทม. อนาคตสนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯหวังนำเงินทุนหมุนเวียน
นายพีระวัฒน์ วานิชวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้แตกไลน์ธุรกิจจาก บริษัท ฑีฆา ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมานานกว่า 35 ปี ด้วยการก่อตั้งบริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท จำกัดเมื่อปี 2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯอย่างเต็มตัว โดยเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก แม้ว่าในช่วงนี้สภาวะเศรษฐกิจ และภาพรวมอสังหาฯจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ด้วยประสบการณ์ในการรับเหมาก่อสร้างมานาน ทำให้รู้ขั้นตอนการผลิตและก่อสร้างได้เป็นอย่างดี ประกอบกับอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ดี แม้ว่าจะใช้เงินลงทุนสูงก็ตาม หากสามารถบริหารจัดการได้ดี ก็จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นถึง10% จึงถือเป็นช่องทางในการขยายและต่อยอดธุรกิจ
โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาฯของบริษัท จะเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ระดับราคา 3-7 ล้านบาท กระจายในย่านชานเมืองกรุงเทพฯโดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพ และมีดีมานด์รองรับ เพื่อพัฒนาโครงการที่สามารถตอบโจทย์ได้ดี ซึ่งอาจจะแบ่งแยกแบรนด์ตามเซกเมนต์ที่พัฒนา คือ บ้านเดี่ยว ,ทาวน์เฮาส์ และ บ้านแฝด เพื่อสร้างการรับรู้จดจำ และเป็นที่ยอมรับโดยเน้นจุดแข็งด้านพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพการบริการทั้งก่อนและหลังการขายการ ช่วยเหลือลูกค้าเรื่องสินเชื่อ ด้วยการช่วยตรวจสอบกลั่นกรองให้ในเบื้องต้นก่อนที่จะยื่นให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้ลดการถูกปฏิเสธสินเชื่อได้น้อยลง
“แม้ว่ากลุ่มฑีฆาก่อสร้างฯจะมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโครงการอาคารสูงแต่การที่ขยายไลน์ธุรกิจมาพัฒนาโครงการอสังหาฯ และเน้นเฉพาะแนวราบนั้นเพราะก่อสร้างได้เร็ว สามารถนำเงินทุนมาหมุนเวียนได้เร็วกว่าการก่อสร้างโครงการอาคารสูง อีกทั้งลูกค้าที่ซื้อโครงการแนวราบส่วนใหญ่จะเป็นเรียลดีมานด์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง” นายพีระวัฒน์ กล่าว
สำหรับโครงการแรกที่บริษัทฯเริ่มพัฒนาคือ โครงการ“ดิเอสเซนส์” (THE ESSENCE) ชัยพฤกษ์–วงแหวน ตั้งยู่บนพื้นที่ 46 ไร่ ทำเลบ้านกล้วย–ไทรน้อย พัฒนาในรูปแบบของ ทาวน์เฮาส์ขนาด 16.5-22 ตารางวาราคา 1.55-2.2 ล้านบาท และบ้านแฝด ขนาด 35-50 ตารางวา ราคา 2.89-3.3 ล้านบาท จำนวน 400 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 950 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟสๆละ 100 กว่ายูนิต โดยได้เปิดการขายเฟสที่1 เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 50% ส่วนเฟสที่ 2 จะเปิดการขายในต้นปี 2563 และเฟสที่ 3 เปิดขายในปลายปี 2563 คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปลายปี 2564
“ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้ เรามีแผนที่จะพัฒนาโครงการแนวราบรวมประมาณ 3 โครงการ แต่ละโครงการมีมูลค่าประมาณ 700-1,000 ล้านบาท หากเป็นย่านนนทบุรี ก็จะไม่เกินวงแหวนรอบนอก หรือหากเป็นโซนรามอินทรา ก็จะไม่เกินห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และหากเป็นทำเลบางนา ก็จะไม่เกินย่านกิ่งแก้ว เป็นต้น”นายพีระวัฒน์กล่าว
ในอนาคต 5-10 ปี มีแผนที่จะนำบริษัทฯข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากมองว่าอสังหาฯเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนค่อนข้างสูง ซึ่งหากสามารถเข้าไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วก็จะสามารถระดมทุนได้หลายรูปแบบ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์ฯในอนาคตจึงจะสามารถสรุปได้ว่าจะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai)
นายพีระวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม ถึงการดำเนินธุรกิจของฑีฆาก่อสร้างฯว่า ในปีที่มาผ่านมีมูลค่าการรับงานประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท จาก 5-7 โครงการแบ่งเป็นงานจากภาคเอกชนสัดส่วน 80% ซึ่งมีทั้งงานก่อสร้างคอนโดมิเนียม,อาคารสำนักงานรวมไปถึงโรงแรมครอบคลุมพื้นที่ในกทม.-ปริมณฑล–ต่างจังหวัด และงานจากภาครัฐ 20% ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เป็นต้น