“กอบศักดิ์”เผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความท้าทายหรือแย่กว่าคาดการณ์ จากปัจจัยภายนอก ส่งผลภาคอสังหาฯชะตัวตาม เตรียมเรียกผู้ประกอบการอสังหาฯร่วมหารือภายใน 1-1.5 เดือนนี้ หวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน-ผู้บริโภค ปลดล็อกเศรษฐกิจฟื้นตัว ดันจีดีพีปี62โต 3% บวกลบ
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยในงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41” ซึ่งจัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระหว่างวันที่ 12 – 15 กันยายน 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกขณะนี้มีความท้าทายและอาจแย่กว่าที่คาดการณ์ กระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคและเศรษฐกิจไทย โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งการจัดงานดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ได้หารือกับผู้ประกอบการอสังหาฯว่าในเบื้องต้นจะมีมาตรการในการช่วยเหลือทุกฝ่ายและสามารถเดินหน้าอย่างไรได้บ้าง เพราะอสังหาฯเป็นธุรกิจใหญ่ที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทยมาก มีหลายภาคธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมีผู้ประกอบการช่วยเหลือ โดยในปี 2562 ก็มีความท้าทายทางเศรษฐกิจมากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ,สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมไปถึง การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งอสังหาฯก็ได้ผลกระทบจากเรื่องดังกล่า
มาตรการในช่วงแรกที่รัฐบาลได้ดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายว่าเศรษฐกิจไทยสามารถเดินหน้าไปได้ ซึ่งได้ทุ่มงบไปแล้ว 300,000 ล้านบาท เพื่อส่งสัญญาณว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังจะกลับมาอีกรอบแล้ว และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างๆก็จะดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกๆด้านต่อไป
“รัฐบาลให้ความใส่ใจในภาคธุรกิจอสังหาฯพอสมควร เพราะถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม หลังจากนั้นก็จะไปแกะปัญหาในแต่ละภาคส่วน เพื่อดึงต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้มากขึ้น โดยเฉพาะชาวฮ่องกง ที่แม้ว่าจะมีปัญหาในประเทศ แต่ก็ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ต้องกระตุ้นให้ประเทศไทยมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น เป็นต้น”ดร.กอบศักดิ์ กล่าว
ดร.กอบศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า อีกประเด็นที่สำคัญในการจะหารือกับผู้ประกอบการอสังหาฯ คือการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (Loan to Value :LTV)ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งประชาชนมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แต่กู้ไม่ได้ เพราะสถาบันการเงินไม่อนุมัติ คาดว่าจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือและพยายามผลักดันออกมาให้ทันภายในสิ้นปี 2562นี้ โดยอาจจะเป็นมาตรการที่ผ่านธนาคารของรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคักและมีการแข่งขันมากขึ้น
ในส่วนของการร่วมหารือกับ 3 สมาคมนั้นคงใช้ระยะเวลาหลังจากนี้ประมาณ 1-1.5 เดือน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเห็นมุมมองและให้ความช่วยเหลือภาคอสังหาฯให้ขับเคลื่อนไปได้ อาทิ มาตรการที่เพิ่มความต้องการซื้อ การปลดล็อกภาระที่ไม่สมควรของผู้ประกอบการและผู้บริโภค เป็นต้น หลังจากนั้นจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
“ที่ผ่านมาได้คุยกับภาคเกษตร เอสเอ็มอี ส่งอออก ท่องเที่ยว ก่อสร้าง และการลงทุนจากต่างประเทศ หลังจากนั้นก็จะหารือที่เซกเมนต์อสังหาฯ ซึ่งมั่นใจว่าหากภาครัฐและเอกชนร่วมแรงร่วมใจกันได้จะช่วยปลดล็อกเศรษฐกิจไทยให้เดินไปข้างหน้าได้ โดยอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 2.7-3.2% และจากมาตรการต่างๆ ที่ออกมาน่าจะผลักดันให้จีดีพีในปีนี้เติบโตได้ที่ 3% บวกลบ”ดร.กอบศักดิ์ กล่าวในที่สุด