แสนสิริฯมั่นใจตลาดแนวราบยังโตต่อเนื่อง เชื่อมาตรการรัฐช่วยเร่งกระตุ้นกำลังซื้อเร็วขึ้น ล่าสุดเปิดตัว “อณาสิริ บางใหญ่” มูลค่า 1,900 ล้านบาท รองรับดีมานด์ย่านบางใหญ่เป็นโครงการที่4 เฟสแรกยอดขายพุ่งแล้ว 70% คาดปิดขายภายในปลายปี62
นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดแนวราบในช่วงไตรมาส4/2562 ว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อเป็นเรียลดีมานด์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง แม้ว่ามาตรการภาครัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นกลุ่มบ้านระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นดีมานด์และให้คนตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านแฝดและทาวน์โฮม เพราะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้ออยู่เอง ซึ่งแสนสิริเองก็ขานรับมาตรการนี้ด้วยโปรโมชั่น “ให้แรง แซงรัฐ” สำหรับโครงการที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท
สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบของบริษัทฯในไตรมาส4/2562 จะมีทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท จากแผนเปิดตัวโครงการแนวราบทั้งปีที่ 16 โครงการ รวมมูลค่า 22,900 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว สัดส่วน 68% และทาวน์เฮาส์ สัดส่วน 32%
โดยล่าสุดได้เปิดตัว “อณาสิริ บางใหญ่” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 82 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝด ขนาด 35 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นที่3.5-4 ล้านบาท จำนวน 130 ยูนิต และบ้านเดี่ยว ขนาด 50-80 ตารางวา ราคา 4-7 ล้านบาท จำนวน 287 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 เฟสๆแรกมีจำนวนทั้งสิ้น 50 ยูนิต เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย100% ทั้งหมด 25 ยูนิต โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อวันที่ 26-27 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30 ยูนิต หรือประมาณ 70% คิดเป็นมูลค่า 200-250 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2562 จะสามารถปิดการขายในเฟสแรกได้ทั้งหมด มูลค่าการขายประมาณ 250 ล้านบาท
“ในย่านดังกล่าวยังมีดีมานด์ที่สูง ขณะเดียวกันก็มีซัพพลายในระดับราคาเดียวกันค่อนข้างมากรวมกว่า 10 ราย ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการในท้องถิ่น แต่บริษัทมั่นใจในแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่ยอมรับของลูกค้า ที่ผ่านมากทุกโครงการจึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะทำเลบางใหญ่ “อณาสิริ บางใหญ่”ถือเป็นโครงการที่ 4 ของแสนสิริที่เปิดขาย และผลตอบรับดีมาก จนสามารถปิดการขาย sold out ได้อย่างรวดเร็วในทุกโครงการรวมมูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันราคาที่ดินโซนบางใหญ่ หากติดรถไฟฟ้า จะอยู่ที่ 125,000 – 200,000 บาท/ตารางวา ปรับราคาขึ้นมาประมาณ 11% จากปี 2561 ที่ผ่านมา หากเป็นทำเลติดถนนใหญ่ที่ไม่ใช่เส้นรัตนาธิเบศร์ เช่น นครอินทร์, บางใหญ่-บางคูลัด ราคา 80,000 – 85,000 บาท/ตารางวา ปรับราคาขึ้นมาประมาณ 6% จากปี 2561 และทำเลติดถนนรอง เช่น โซนกันตนา ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท/ตารางวา ปรับราคาขึ้นมาประมาณ 11% จากปี 2561
ส่วนที่เหลืออีก 6 โครงการจะทยอยเปิดตัวภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ ได้แก่ เศรษฐสิริ จรัญฯ –ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 23,300 ล้านบาท, บุราสิริ พระราม 2 1,500 ล้านบาท z^และแบรนด์สิริเพลส อีก 4 โครงการ รวมมูลค่า 3,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า หากไม่มีปัจจัยลบต่างๆ คาดว่าบริษัทฯจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดแนวราบ โดยมียอดขายที่มากกว่า 20,000 ล้านบาท/ปี สำหรับในปี 2562 มั่นใจว่ายอดขายแนวราบจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือ 15,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 15,000 ล้านบาทเช่นกัน
ปัจจุบันแสนสิริฯมีโครงการแนวราบทั้งหมด 8 แบรนด์ คือ 1.บ้านแสนสิริ ระดับราคา 70-250 ล้านบาท 2.นาราสิริ ระดับราคา 25-60 ล้านบาท 3.เศรษฐสิริ ระดับราคา 8-20 ล้านบาท 4.บุราสิริ ระดับราคา 8-20 ล้านบาท 5.สราญสิริ ระดับราคา 5-10 ล้านบาท 6.คณาสิริ ระดับราคา 4-6 ล้านบาท 7.อณาสิริ ระดับราคา 2.5-6 ล้านบาท และ8. สิริ เพลส ระดับราคา 1.9-3.5 ล้านบาท