แมกโนเลียฯเผย โควิด-19 ไม่กระทบการทำงาน Work From Home เดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินค้าต่อเนื่อง เชื่อหลังวิกฤติความคิดด้านการซื้อที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนไป ผู้บริโภคหันซื้อบ้านชานเมืองมากขึ้น ระบุ “เดอะ ฟอเรสเทียร์” บิ๊กโปรเจกต์ มูลค่า 125,000 ล้านบาท ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ต้องทำงานแบบ Work From Home : WFH นั้น ทางMQDC ก็มีวิสัยทัศน์ในเรื่องการ Work Anywhere มานาน ทำให้การทำงานของ MQDC มีระบบและกระบวนการทำงานรองรับการทำงานแบบ Work From Home เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ต้องมีการ Lockdown บริษัทฯ จึงไม่ต้องปรับตัวและได้รับผลกระทบมากในเรื่องดังกล่าวมากนัก อีกเรื่องที่มุ่งแน้น คือ การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และ MQDC ยังคงมุ่งมั่นเน้นการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และโครงการอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องคุณภาพและการสร้างมูลค่า ถือเป็น DNA ที่อยู่ในทุกโครงการของ MQDC อยู่แล้ว
ทั้งนี้จากวิกฤติโควิด-19ในครั้งนี้ ทาง FutureTales Lab ของ MQDC ก็ได้มีการออกงานวิเคราะห์ออกมาในเรื่อง ชีวิตหลังโควิด-19 ที่จะมีการเปลี่ยนไปจากเดิม โดยประเด็นหนึ่งคือ ความคิดด้านการซื้อที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนไป จากเดิมที่อยู่แต่ในเมือง โดยยึดการเดินทางแนวทางใกล้รถไฟฟ้าเป็นปัจจัย แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการทำงานในอนาคต สามารถทำงานที่บ้านได้ จึงจะปรับแนวคิดเป็นบ้านนอกเมือง แต่มีพื้นที่มากขึ้น มีสวน มีธรรมชาติ มีการปรับเปลี่ยนบ้านพักตากอากาศมาใช้อาศัยประจำแทน
อย่างไรก็ตามแม้เมื่อเกิดวิกฤติโควิด – 19 MQDC ยังมุ่งเดินหน้าต่อด้วยความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาวและเชื่อว่า รัฐบาลยังคงผลักดันในเกิดเมกะโปรเจกต์ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) การปรับแผนงานโดยส่วนใหญ่จะเป็นการปรับแผนระยะสั้นมากกว่าแผนระยะยาว เช่น การเปิดตัวโครงการใหญ่ก็จะชะลอไปเปิดต้นปีหน้า แต่การเปิดขายโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันคงดำเนินต่อไป จากผลงานของรัฐบาลและสาธารณสุขไทย ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก และความร่วมมือร่วมใจ ความมีวินัยของคนไทย ที่ได้แสดงให้ชาวโลกประจักษ์ รวมถึงความมีน้ำใจ ความแบ่งปันของคนไทย เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยให้ประเทศไทยจะเป็นที่น่าที่ลงทุนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะปัจจัยสำคัญตัวนึงที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์โควิด-19 สำหรับในการเลือกลงทุนในประเทศใดของนักลงทุนต่างชาติ คือความปลอดภัย และระบบสาธารณสุข
“ทาง MQDC ของเราก็เคยผ่านปัญหาในสมัยวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งมาแล้ว ทำให้เราบริหารงานด้วยความระมัดระวังมาตลอดเวลา ดังนั้นปัญหาจากวิกฤติในโควิด-19 ในครั้งนี้จึงไม่ได้ทำให้เราหยุดที่จะเดินหน้าต่อ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นมุมมองของ MQDC ต่อการทำธุรกิจ โดยมีการคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินชีวิต ซึ่งก็สอดคล้องกับชีวิตแบบ New Normal จากนี้ไป”นายวิสิษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้หลังจากที่เปิดตัวโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียร์ (THE FORESTIAS) ที่มีมูลค่าโครงการถึง 125,000 ล้านบาท โดยหลังจากวิกฤตโควิด – 19 จะต้องคิดไปถึงคุณภาพชีวิตจนถึงสุขภาพ และความสุขของผู้อยู่อาศัย เพราะผู้คนจะพิถีพิถันในการดำเนินชีวิตมากขึ้น แนวคิดของ THE FORESTIAS คือ “เมืองคู่ป่า” ที่แรกในโลก สิ่งนี้เป็นครั้งแรกในโลก ที่ผืนป่าขนาดใหญ่ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมือง เพื่อนำธรรมชาติ กลับเข้าสู่ชุมชนและพื้นที่ที่เป็นเมือง อีกทั้ง โครงการ THE FORESTIAS เป็นการดำเนินโครงการตามปรัชญาของ MQDC ที่มุ่งเน้นเรื่องสร้างสรรค์โครงการที่ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ตามแนวคิด “For All Well – Being”
ในโครงการ THE FORESTIAS จึงถูกพัฒนา แบบ Mixed-Use Lifestyle ทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ สถานศึกษา อาคารนวัตกรรม พื้นที่สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้และสร้างสรรค์ของครอบครัว ที่สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม ได้แก่ คอนโดมิเนียมแบรนด์ Whizdom กลุ่มคอนโดมิเนียมแบรนด์ Mulberry Grove ที่อยู่อาศัยแบรนด์ Mulberry Grove Villas กลุ่มที่อยู่อาศัยแบรนด์ The Aspen Tree และยังมีที่อยู่อาศัยและโรงแรมจากแบรนด์ระดับโลก คือ กลุ่มที่อยู่อาศัยแบรนด์ Six Senses โรงแรมแบรนด์ Six Senses และอื่นๆ
“เราตั้งใจที่จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมนี้ให้ไปสู่คุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีขึ้น For All Well-Being โดยเราให้ความสำคัญกับการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยร่วมกับพาทเนอร์ระดับโลก เพื่อหาปัจจัยที่จะสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้คนมีความสุข ซึ่งกลายเป็นว่าสิ่งที่ MQDC ทำอยู่จากผลงานวิจัยและศึกษา สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal หลังโควิด-19 ที่คนหันมาใส่ใจในรายละเอียดกับการใช้ชีวิตมากขึ้น”นายวิสิษฐ์ กล่าว
เมื่อเกิดวิกฤตโควิด – 19 สิ่งแรกที่ MQDC คำนึงถึงคือ ความปลอดภัยของลูกบ้านในทุกโครงการและสมาชิกองค์กรของเราทุกคน MQDC ได้ดำเนินการจัดตั้งมาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยและอุ่นใจให้กับทุกคน มีทั้งมาตรการดูแลลูกบ้าน มาตรการดูแลสมาชิกองค์กรรวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่โครงการ และในส่วนของสำนักงานและสำนักงานขายโครงการของ MQDC มีมาตรการในการทำความสะอาดตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และยังมีมาตรการในการดูแลพันธมิตรคู่ค้าด้วย เช่น เจ้าหน้าที่งานก่อสร้าง ได้ออกกฎเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงอย่างเข้มงวด เป็นต้น