“แอสเซทไวส์ฯ” เดินหน้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังนำเงินมาชำระหนี้ และเป็นทุนหมุนเวียนรับแผนการลงทุนลงทุนในอนาคต ล่าสุดผุดคอนโดฯโครงการ “โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” มูลค่าเฟสแรกกว่า 1,790 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายช่วง 4-6 เดือน กว่า 50% ปี 2563 มั่นใจรับรู้รายได้ตามเป้า 3,500 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้ชื่อ “บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 อีกทั้งยังได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 206 ล้านหุ้น ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มจาก 555 ล้านบาท เป็น 761 ล้านบาท และเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท เพื่อใช้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงิน ดังนี้
1) เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการ Modiz รามคำแหง, Modiz Launch, Baan Puri Puri ลาดพร้าว 41 (โฮมออฟฟิศ), Baan Puri Puri พัฒนาการ (ทาวน์โฮม), และโครงการ Mingle
2) เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จากข้อมูลที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯที่ระบุในร่างหนังสือชี้ชวน(Filing) ณ 31 ธันวาคม 2562 และ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มบริษัทฯมีเงินกู้ยืมระยะยาวรวม 3,494.39 ล้านบาท และ 3,617.15 ล้านบาท ตามลำดับ โดยเป็นภาระหนี้จากวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินของกลุ่มบริษัท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัท
3) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
กลุ่มบริษัทฯมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตจำนวน 5 โครงการ ที่ระบุในร่างหนังสือชี้ชวน(Filing)แบ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัย 4โครงการมูลค่า โครงการรวมประมาณ 6,703 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1โครงการพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ ดังนี้
- โครงการ Modiz รามคำแหง คอนโดมิเนียม High Rise ติด MRT สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรามคำแหง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 4,800 ล้านบาท
- โครงการ Modiz Launch คอนโดมิเนียม High Rise ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มูลค่า โครงการรวมประมาณ 1,286 ล้านบาท
- โครงการ Baan Puri Puri ลาดพร้าว 41 (โฮมออฟฟิศ)โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น มูลค่าโครงการรวมประมาณ 87 ล้านบาท
- โครงการ Baan Puri Puri พัฒนาการ (ทาวน์โฮม)ทาวน์โฮม 3 ชั้น มูลค่าโครงการรวมประมาณ 530 ล้านบาท
- โครงการ Mingle คอมมูนิตี้ มอลล์ ด้านหน้าโครงการ Kave Town พื้นที่เช่า1,979 ตารางเมตร (ตร.ม.)
สำหรับโครงการที่รามคำแหงบนพื้นที่กว่า 7 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส ๆแรกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้น 1 อาคาร และ Lifestyle Retails 9 ยูนิต พื้นที่กว่า 2 ไร่ ภายใต้ชื่อ “โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” มีจำนวน 546 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 23.38-45.99 ตร.ม.ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,790 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งจะเปิดขายพรีเซลล์ในวันที่ 1 สิงหาคม 2563 นี้ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายในช่วง 4-6 เดือนที่ประมาณ 50% ส่วนเฟส 2 พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูงกว่า 45 ชั้น จำนวน 1,100 ยูนิต
โครงการ“โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” ออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “SYNCHRONIZE YOUR LIVING เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิตที่เป็นคุณ” โดยใช้หลัก The Next Normal Living เพื่อให้เกิดเทคโนโลยี หรือ สิ่งใหม่ ๆ ที่ผสมผสานกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป และนำมาต่อยอด ผ่านแนวคิดทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
1) Multi-Living Space New Normal เพิ่มคุณภาพในการอยู่อาศัย ด้วยการสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่ส่วนกลางที่มีความหลากหลาย และครอบคลุม ไลฟ์สไตล์ รวมมากกว่า 25 โซน เพื่อตอบรับในทุกกิจกรรมของการใช้ชีวิต
2) Residence Utilization จากการศึกษาวิเคราะห์ว่า ผู้พักอาศัยในโครงการฯ มีความต้องการที่เพิ่มเติมมากขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรรค์ Health Station เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยให้ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตเพื่อให้ลูกบ้านของแอสเซทไวส์ได้มีสุขภาพที่ดี บนพื้นฐานของความรวดเร็ว และสะดวกสบาย
3) Virtual Community ที่ศึกษาจากพฤติกรรมการปรับตัวของผู้คนในปัจจุบัน จึงได้คิดค้นการนำแอพพลิเคชั่น หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้า เช่น การนำ Telemedicine มาบริการภายในโครงการ เป็นต้น
นายกรมเชษฐ์ ยังกล่าวว่าทำเลย่านรามคำแหง เป็นทำเลที่มีดีมานด์ค่อนข้างสูงโดยในปี 2562 ที่ผ่านมา โครงการคอนโดมิเนียมมีจำนวนยูนิตขายสะสมสูงถึง 12,370 ยูนิต จากจำนวนที่เปิดขายทั้งสิ้น 14,750 หน่วย และมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 98,323 บาทต่อตร.ม. ซึ่งทำให้ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวขึ้นอยู่ในอัตรา 7.2% ต่อปี และมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยระหว่าง 10,000 – 12,000 บาท ต่อเดือน และมี Capital Gain อยู่ที่ 8%
สำหรับในปี 2563 นี้ บริษัทฯตั้งเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกของปีนี้มีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักกว่า 590 ล้านบาท คาดสิ้นปีน่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
ณ 31 ธันวาคม 2562 และ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มบริษัทฯมีสินทรัพย์หลักที่ใช้ในการประกอบธุรกิจเท่ากับ 6,081.81 ล้านบาทและเท่ากับ 7,161.95 ล้านบาท(ตามลำดับ)ประกอบด้วย (1) สินค้าคงเหลือ (2) เงินมัดจำค่าที่ดิน (3) อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (4) ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และ (5) สินทรัพย์ไม่มีตัวตน โดยมีรายละเอียดสรุปดังนี้
เงินมัดจำ
ในปี 2562 กลุ่มบริษัทฯเปิดขายโครงการทาวน์โฮม 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ได้แก่
- โครงการ บ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 (ทาวน์โฮม) ซอยลาดพร้าว 41 จำนวน 15 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 163 ล้านบาทดำเนินการโดย ABJV
- โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ ถนนประชาชื่น จำนวน 626 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,103 ล้านบาท
- โครงการ Ivory รัชดา 32 ซอยรัชดา 32 จำนวน 204 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 520 ล้านบาท
- โครงการ Modiz Collection บางโพ (High Rise) ถนนประชาราษฎร์ จำนวน 235 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,230 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่ 2 – 4 ดำเนินการโดย Estate Q
- โครงการ Kave TU เฟส 1 ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 1,016 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,798 ล้านบาท ดำเนินการโดย TU Property