กลุ่มบันยันฯเผยภาพรวมตลาดอสังหาฯหัวหิน หลังรัฐบาลปลดล็อก โควิด-19 ส่งผลคนไทย–ต่างชาติมุ่งท่องเท่ียวเป็นจังหวัดต้นๆ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมฟื้นตัว เป็นอันดับ1 ในประเทศมั่นใจเหมาะมองหาเป็นบ้านหลังที่สอง ระบุราคาที่ดินใน “บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” ปรับตัวสูงถึง 150% เทียบช่วง 10 ปี เตรียมจัดงาน Open House รอบสอง 11-13 ส.ค.63นี้ หวังดึงกำลังซื้อในประเทศ

นายเชิ้ท คว้อนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บันยัน ไทยแลนด์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการท่องเที่ยว ที่โรงแรมไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้หลังการปิดประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่ เช่น ภูเก็ตและเกาะสมุย แต่ก็ส่งผลให้เกิดประโยชน์อย่างมากสำหรับหัวหิน เนื่องจากมีการจับตามองจุดหมายปลายทางมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยการท่องเที่ยวหัวหินเป็นตลาดที่นิยมในประเทศมากถึง 74% ในปี 2562 ข้อมูลล่าสุดจากC9 Hotelworks คาดว่า ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2563 โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมามีการทำธุรกรรมในประเทศครั้งแรกสำหรับวิลล่าพิเศษในอสังหาริมทรัพย์ให้กับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยระยะยา ขณะนี้อสังหาฯใน “หัวหิน” กำลังเติบโตตามภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง จาก “ศักยภาพ” และความสามารถในการ “ขับเคลื่อน” ที่ดึงดูดตลาดในประเทศเป็นอย่างมากจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การขยายถนนจะแล้วเสร็จในปี 2565 โดยใช้ทางหลวงหกเลนตลอดทางจากกรุงเทพฯ ลดเวลาเดินทางลงเหลือสองชั่วโมง มีการสร้างระบบรถไฟรางคู่โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีเดียวกัน ซึ่งจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ให้สั้นลงและการขยายสนามบินนานาชาติมูลค่า 350 ล้านบาทจะเสร็จสิ้นภายในปี 2566 เพื่อให้สายการบินในภูมิภาคสามารถบินตรงสู่หัวหินได้
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในหัวหิน หลังโควิด-19 เริ่มเบาบางลง ทำให้หลังจากที่รัฐบาลปลดล็อกแล้วทำให้หัวหินเป็น Destination ของคนไทยและต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จึงทำให้ภาคธุรกิจโรงแรมในหัวหิน ฟื้นตัวได้เป็นอันดับ1 ของประเทศ และยังเหมาะที่จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่2 ซึ่งในส่วนที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ “บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” ปัจจุบันปรับตัวขึ้นสูงถึง 150% เมื่อเทียบกับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 14.4 ล้านบาท
โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับแผนดึงกำลังซื้อในประเทศไทยด้วยการจัดงาน Open House ขึ้นที่โครงการ “บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” ปรากฏว่ามีชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และอยู่ในการตัดสินใจ ดังนั้นในช่วงวันที่ 11-13 สิงหาคม 2563 บริษัทฯได้เตรียมจัดงาน Open House ขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อกระตุ้นยอดขาย
โดยโครงการ “บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 93 ไร่เศษ มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ขนาดตั้งแต่ 200 ตารางวา ถึง 2 ไร่ ราคาตั้งแต่ 11.9-80 ล้านบาท จำนวน 102 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยจะแบ่งการขายใน 2 รูปแบบ คือแบบ Freehold ราคาที่ดินเฉลี่ย 44,000 บาท/ตาราวา หากเป็นชาวต่างชาติจะซื้อในรูปแบบของ Leasehold เช่าระยะยาว 90 ปี โดยราคาที่ดินเฉลี่ย 36,000 บาท/ตารางวา ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายรวมกว่า 50 ยูนิตส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างชาติ มีลูกค้าคนไทยเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น
ส่วนโครง “บันยัน เดอะ รีสอร์ท หัวหิน”ที่ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการในรูปแบบของโรงแรม แต่เนื่องจากบริษัทต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารธุรกิจ จึงได้ปิดการให้บริการในรูปแบบโรงแรมไปเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บันยัน วิลเลจ” ซึ่งมีทั้งหมด 80 ยูนิต แต่นำมาปรับเป็นที่อยู่อาศัยปล่อยเช่าระยะยาว จำนวน 40 ยูนิต ระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 25,000 บาท/เดือน ขณะนี้มีลูกค้าเช่าแล้ว 25 ยูนิต ระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือนถึง 1 ปี โดยเป็นชาวต่างชาติ สัดส่วนถึง 70% ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป และอีก30% เป็นลูกค้าคนไทย