สถาพร เอสเตทฯ เผยภาพรวมตลาดอสังหาฯแนวราบไตรมาส4/63 เร่ิมฟื้นตัว ยอดเข้าเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้น ระบุย่านรังสิต บ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาทยังมีความต้องการ ส่วนแลนด์ลอร์ดเร่ิมทยอยนำที่ดินแปลงใหญ่เร่ขาย หวั่นการเมืองวุ่นทำตลาดอสังหาฯชะลอตัว รับโควิด-19 พ่นพิษ ปรับลดเปิดตัวแค่ 2 โครงการ ล่าสุดเตรียมเปิดตัว “ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ดรังสิต–วงแหวน” นำบ้าน 16 ยูนิต อัดแคมเปญขายราคาพิเศษ ก่อนปรับราคาขายตามสภาวะตลาด

นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯไตรมาส4/2563 ว่า ดีมานด์เริ่มให้ความสนใจกลับมามองหาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นสังเกตจากยอดการเข้าเยี่ยมชมโครงการแนวราบที่เริ่มมีมากขึ้น บางทำเลที่มีซัพพลายน้อยก็ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น สำหรับทำเลย่านรังสิต–วงแหวน พบว่าดีมานด์ยังมีพอสมควร โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาท เป็นราคาที่ลูกค้ายังรับได้ ด้านราคาที่ดินย่านรังสิตปีนี้ยังทรงตัว แต่มีแลนด์ลอร์ดบางรายเริ่มนำที่ดินแปลงใหญ่ออกมาปล่อยขาย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในซอย ราคาประมาณ 5-6 ล้านบาท/ไร่ หากติดถนนใหญ่(แปลงขนาด 100 ไร่)ราคาอยู่ที่ประมาณ10-12 ล้านบาท/ไร่ ส่วนสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ค่อนข้างมีความกังวลเช่นกันว่าจะมีผลกระทบต่อยอดซื้อขายที่อยู่อาศัย ซึ่งคงต้องรถดูสถานการณ์ในสัปดาห์นี้อีกครั้งหนึ่ง ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2563 นี้ เดิมจะเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ากว่า 4,600 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ต้องเลื่อนการเปิดตัวโครงการ “เดอะ คราวน์พระราม4” ออกไปในต้นปี 2564 แทน
สำหรับ 2 โครงการที่เปิดตัวในปีนี้ คือ โครงการ “อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ครึ่ง พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 18-26 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่4.39-9 ล้านบาท จำนวน 86 ยูนิต มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายกว่า 10 ยูนิต
ส่วนอีก 1 โครงการคือ “ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต–วงแหวน” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 72 ไร่เศษ จากทั้งหมด 99 ไร่ บริเวณรังสิต คลอง 5 เดิมมีแผนจะพัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวแต่ได้ปรับรูปแบบ เปิดตัวบ้านเดี่ยวก่อน แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส ขนาด 50-80 ตารางวา ราคา 5.9-10 ล้านบาท รวม 335 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ซึ่งแผนเดิมจะเปิดตัวในไตรมาส3/2563 ที่ผ่านมา แต่ได้เลื่อนมาเปิดตัวในไตรมาส 4/2563 แทน โดยเฟสแรกมีจำนวน80 ยูนิต และกำหนดเปิดพรีเซลในวันที่ 17-18 ตุลาคม 2563 ซึ่งได้จัดโปรโมชั่น นำบ้านจำนวน16 ยูนิต มาขายในราคาพิเศษ คาดว่าจะได้รับการตอบรับดีจากดีมานด์ ส่วนบ้านแฝดเลื่อนการเปิดตัวไปในปี 2563
“เดิมเรามีแผนที่จะเปิดขายบ้านเดี่ยวในระดับราคา 6-12 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการปรับลดราคาลงเหลือ 5-10 ล้านบาท แต่ขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยเท่าเดิม ซึ่งมีเพียง16 ยูนิตเท่านั้นที่นำมาจัดโปรชั่น หลังจากจากนั้นก็จะค่อยๆปรับราคาขึ้นมา ทั้งนี้ต้องดูสภาวะเศรษฐกิจด้วย” นายสุนทร กล่าว
ด้านโครงการ“เดอะ เชดด์ สาทร 1” (The SHADE Sathon 1)ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง บริเวณสาทร ซอย 1 พัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ขนาด 28-60 ตารางเมตรราคา 3.69-7 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 130,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 278 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดพรีเซลไปเมื่อปลายเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 800-900 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ประมาณไตรมาส2/2564 ด้านการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณไตรมาส1/2564