“กลุ่มฮ่องกง”ขยายฐานลงทุนไทย อัดเม็ดเงินผุดบิ๊กโปรเจกต์บนเกาะช้าง มูลค่า 8 พันล้าน

  • Post author:
You are currently viewing “กลุ่มฮ่องกง”ขยายฐานลงทุนไทย อัดเม็ดเงินผุดบิ๊กโปรเจกต์บนเกาะช้าง มูลค่า 8 พันล้าน
ทุนฮ่องกงพลิกวิกฤติโควิด-19-ความเสี่ยงในพื้นที่เป็นโอกาส ขยายฐานการลงทุนไทยเป็นประเทศที่ 4 อัดเม็ดเงินสด ผุดอควาเรียส เรสซิเดนเซส แอนด์ รีสอร์ท เกาะช้างมูลค่าโครงการประะมาณ 8,000 ล้านบาท ระบุโซนที่อยู่อาศัยเปิดพรีเซลไตรมาส2/64 และโรงแรมพร้อมให้บริการในปี 66 จ่อขยายอีก 3 ธุรกิจในปีนี้-ปีหน้า
นายเอ็ดเวิร์ด ค็อกหว่าฉี
นายเอ็ดเวิร์ด ค็อกหว่าฉี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์คอล เวนเจอร์ แคปิทัล กรุ๊ป นักธุรกิจชาวฮ่องกง ซึ่งดำเนินธุรกิจการลงทุนในหลากหลายประเภท ใน 4 ประเทศหลัก คือ ฮ่องกงเวียดนาม จีน และไทย เปิดเผยว่า จากการที่เคยไปลงทุนธุรกิจในประเทศมัลดีฟส์ แต่เกิดปัญหาการขัดแย้งกับผู้ร่วมทุน จึงได้ยกเลิกการลงทุนในประเทศดังกล่าว และหันไปมองหาการลงทุนในประเทศอื่นแทน จนได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวที่เกาะช้าง จังหวัดตราด จึงได้เห็นโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดตราด มากนัก เพราะอยู่ไกลจากกทม. และมีความเสี่ยงในด้านการลงทุน ประกอบกับช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ยังไม่คลี่คลายมากนัก แต่ตนต้องการโปรโมทความเป็นชุมชนเล็กๆบนเกาะช้าง ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว และชาวโลก  ซึ่งตนได้มีทีมงานที่แข็งแกร่งในการวิเคราะห์ในเรื่องของการลงทุน เพื่อเปลี่ยนวิกฤติโควิด-19 และความเสี่ยงการลงทุน ให้เป็นโอกาส ทั้งนี้จะต้องมีการวางแผนในการจัดการระยะยาว โดยตนมองว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง แต่คิดว่ามีความยิ่งใหญ่พอที่จะพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ขึ้นมาได้

จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งบริษัท อควาเรียส อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Aquarius International Development :AQI) ขึ้นมา เพื่อพัฒนาโครงการ อควาเรียส เรสซิเดนเซสแอนด์ รีสอร์ท เกาะช้างมูลค่าโครงการประะมาณ 8,000 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส

เฟสแรก พัฒนาในรูปแบบของรีสอร์ท ระดับ 6 ดาว ภายใต้แบรนด์เดอเจดีย์ อควาเรียสเกาะช้างเป็นโรงแรมขนาด 200 ห้องพัก และวิลล่า 54 หลัง บริหารงานโดยบริษัท เจเนอรัล โฮเทล แมเนจแมนท์ จำกัด เชนชื่อดังจากประเทศสิงคโปร์  ซึ่งเป็นการลงทุนเอง 100% ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2566

แขกและผู้พักอาศัยจะได้รับบริการเรือรับส่งส่วนตัวไปยัง เอคิว พริวิเลจ บีชคลับ แอนด์ เรสซิเดนเซส” (AQ Privilege Beach Club & Residences) เกาะมันใน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางบนเกาะส่วนตัวสุดพิเศษอย่างแท้จริง ซึ่งประกอบด้วยวิลล่าเพรสซิเดนเชียลสวีท (Presidential Suite Villas) 4 หลัง ท่าจอดเรือส่วนตัว บีชคลับ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้และกีฬาทางน้ำนายเอ็ดเวิร์ด กล่าว

-เฟสที่2 เป็นการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นบุคคลในพื้นที่ โดยเจ้าของที่ดินถือหุ้น 51% และกลุ่มของตนถือหุ้น 49% พัฒนาที่อยู่อาศัยใน 2 รูปแบบ คือพูลวิลล่าเรสซิเดนเซสประกอบด้วยพูลวิลล่า จำนวน 23 หลัง ขนาดตั้งแต่ 1-2 ไร่ ราคาตั้งแต่ 41-100 ล้านบาท

และคอนโดมิเนียมเรสซิเดนเซส เป็นคอนโดฯสูง 3 ชั้น จำนวน 7 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 57-360 ตารางเมตร ราคาเร่ิมต้นที่ 8-40 กว่าล้านบาท จำนวน 99 ยูนิต โดยในส่วนของที่อยู่อาศัยนี้จะเปิดพรีเซลในเดือนเมษายน 2564

-เฟสที่ 3 จะเป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ แต่มีขนาดที่เล็กกว่าในเฟสที่ 2 และมีจำนวนยูนิตที่มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

โควิด-19 ทำให้การลงทุนต่างๆชะลอตัวไปหมดทั่วโลก แต่เราต้องการพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส เพราะโควิด-19 ก็เหมือนโรคต่างๆที่เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไป ซึ่งการพัฒนาโครงการนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารงาน  และประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 4 ที่เราเข้ามาลงทุนเต็มตัว เมื่อปี 2560 ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการปรึกษากับหน่วยงานภาครัฐในกทม.และในพื้นที่จ.ตราด ในการเข้าไปลงทุนโดยเราไม่คาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็จะพยายามพัฒนาให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุดนายเอ็ดเวิร์ด กล่าว

นายเอ็ดเวิร์ด กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนขยายในอีก 3 ธุรกิจ ได้แก่

“AQ Ventures” (เอคิว เวนเจอร์) ธุรกิจเรือยอทช์สุดหรู ซึ่งให้บริการบนเกาะช้างและภูเก็ตโดยผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพแบบครบวงจร รวมถึงการเช่าเรือยอทช์ การขาย และการบริหารจัดการ การซื้อเรือยอทช์ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากทรัพย์สินของตนเอง ซึ่งได้เร่ิมดำเนินการแล้วในบางส่วนในปีนี้

“AQ Food & Beverage” (เอคิว ฟู้ด แอนด์ เบเวอเรจ) ร้านอาหารระดับไฮเอนด์และธุรกิจจัดเลี้ยงที่ อาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม ร้านกูร์เมต์ระดับพรีเมียม ร้านอาหารและบริการจัดส่งอาหาร หลังจากความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น กลุ่มบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัว AQ Gourmet & Dine Stores ในโฮจิมินห์ซิตี้  ประเทศเวียดนาม ในไตรมาสที่ 4/2563 ,กรุงเทพฯ ในไตรมาสที่ 1/2564 และที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในไตรมาสที่ 2/2564

“AQBooking.com” (เอคิวบุ๊กกิ้งดอทคอม) การรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันบนแพลตฟอร์มจองบริการและการท่องเที่ยวออนไลน์ เพื่อแนะนำนักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวระดับพรีเมียม และสิทธิพิเศษเพียงแค่คลิกเดียว พร้อมบริการสะดวกสบายโดย Concierge Service ที่เหนือระดับและแตกต่าง ซึ่งมีแผนที่จะเปิดตัวในปี 2564 เช่นกันแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing