พร็อพเพอร์ตี้กูรูชี้หลังโควิด-19เทคโนโลยีจะมีบทบาทมากขึ้นต่อวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบสนองและการเข้าถึงต่อพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ระบุดีมานด์ของชาวต่างชาติยังคงสนใจธุรกิจอสังหาฯไทยเพียงแต่รอการเปิดประเทศเพื่อการเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมต่างๆที่สะดวกขึ้น พร้อมทั้งเตรียมจัดงาน Property Asia Real Estate Summit 2020 (ARES 2020) ประจำปี 2563 ในรูปแบบ Virtual เป็นครั้งแรก
การแพร่ระบาดของไวรัสวิด-19 ที่นอกจากส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ ธุรกิจและการดำเนินกิจการ ยังนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงและการใช้ชีวิตในแบบวิถีใหม่ (New Normal) ที่กำลังถูกกล่าวขานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน รวมถึงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องมีปรับเปลี่ยนวิธีการหลายๆอย่างตั้งแต่ การออกแบบ การก่อสร้าง รวมถึงวิธีการขายเพื่อเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดและเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ เทคโนโลยีจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยมีไวรัสโควิด-19 ต้นเหตุที่ทำให้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีถูกนำมาใช้ให้เร็ววันยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหม่มากนักเพราะปัจจุบันมีการผนวกการใช้งานเข้าด้วยกันตั้งแต่ระบบ Smart Home ที่สามารถออกคำสั่งได้ด้วยเสียงในการเปิด-ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆภายในบ้าน และกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายแต่ก็มาพร้อมราคาที่มีมูลค่าสูงด้วย แต่ในอีกไม่นานเทคโนโลยีเหล่านั้นจะกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่และเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย และนอกจากนี้ยังคงมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนก็ตามสามารถเลือกสรรสินค้าผ่านการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์
มร. จูลส์ เคย์ กรรมการผู้จัดการ PropertyGuru Asia Property Award & Event เปิดเผยว่า เทคโนโลยีทีถูกนำมาใช้แล้วในอสังหาริมทรัพย์คือ ระบบ Augmented Reality (AR) เป็นวิธีการรวมวัตถุเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งภาพและวิดีโอหรือเสียงที่ประมวลผลผ่านคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ เช่น มือถือ แท็บเล็ท เททคโนโลยี AR จึงเป็นเพียงการสอดแทรกเทคโนโลยีเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง ผ่านการดูห้องตัวอย่างหรือภาพโครงการ
ระบบที่กำลังจะถูกนำมาใช้ต่อจากนี้คือ Virtual Reality (VR) เทคโนโลยีที่พยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งแวดล้อมคือการสร้งสภาพแวดล้อมขึ้นมาใหม่เลียนแบบธรรมชาติและสามารถมองเห็นได้ทั้งภาพและเสียงถือเป็นเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นในลักษณะแบบของโลกเสมือน ซึ่งอาจทำให้สำนักงานขายอาจไม่จำเป็นอีกต่อไปหากเทคโลยี VR ถูกนำมาใช้งาน
นอกจากนี้เทคโนโลยีทางด้านการเงิน ระบบตรวจสอบการยื่นกู้ธนาคารที่เพียงแค่ส่งฐานข้อมูล (Data) ส่วนบุคคลเข้าสู่ระบบสามารถตรวจสอบและแจ้งให้ผู้รับบริการทราบได้ทันทีว่าสถานะการขอกู้นั้นมีผลเป็นอย่างไร
รวมทั้ง Robot หุ่นยนต์ ที่ตอบโต้คำสั่งจากการสั่งการ จะเห็นได้จากหลายๆโครงการที่มีการใช้งานบ้างแล้วที่ช่วยลดปัญหาในเรื่องของการสัมผัสระหว่างบุคคลกับบุคคลลง โดยใช้งานหุ่นยนต์ผ่านระบบคำสั่งเสียง
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของพร็อพเพอร์ตี้กูรูชี้ให้เห็นว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังเป็นไปอย่างช้าๆ “ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติขึ้นจะส่งผลให้พฤติกรรมของคนเกิดการ Save Investment จากการลงทุนในอสังหาฯ ในปี 2564 ธุรกิจอสังหาฯจะค่อยๆกลับมาฟื้นตัว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือความคาดหวังของผู้บริโภค เช่นต้องการพื้นที่มากขึ้น ต้องการพื้นที่เปิดหรือมีระยะห่างมากขึ้น เป็นต้น ถือเป็นเทรนด์หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของผู้บริโภค” มร. จูลส์ เคย์ กล่าว
ในขณะที่อสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเป็นที่ต้องการของนักลงทุนชาวต่างชาติ แต่ยังคงติดปัญหาในเรื่องของการเดินทางเข้าภายในประเทศ กว่า 30% ของนักท่องเที่ยวที่ซื้ออสังหาฯไทยยังคงมีดีมานด์ เพียงแต่รอการเปิดให้เดินทางเข้าประเทศเท่านั้น นอกจากนี้การดูแลสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีของประเทศไทยถือเป็นจุดเชื่อมั่นต่อนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาไทยกลับมาฟื้นตัว
ล่าสุดบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ กูรู จำกัด (PropertyGuru) บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เตรียมจัดงาน Property Asia Real Estate Summit 2020 (ARES 2020) ประจำปี 2563 ในวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ภายใต้แนวคิด “Spirit of Innovation” จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม ผ่านการแลกเปลี่ยนใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความยั่งยืน (Sustainability) เทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) และเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์แพลตฟอร์มผ่าน Virtual Asia Real Estate Summit 2020 ในรูปแบบเสมือนจริงเป็นครั้งแรก ราคาของบุคคลทั่วไปที่ 400 เหรียญดอลล่าสหรัฐ และสำหรับบุคคลากรทางการศึกษาในราคา 50 เหรียญดอลล่าสหรัฐ