AP โชว์รายได้และกำไรไตรมาส 3 /2563 พุ่ง 55.4 % และ 134.6 % จากปีก่อน

  • Post author:
You are currently viewing AP โชว์รายได้และกำไรไตรมาส 3 /2563 พุ่ง 55.4 % และ 134.6 % จากปีก่อน

บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)หรือ AP  ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯถึงผลการดําเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี2563 ว่ามีรายได้ 9,150 ล้านบาท และกําไรสุทธิ 1,451 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน55.4 % (จาก 5,886 ล้านบาท) และ 134.6 % (จาก 618 ล้านบาท)ตามลําดับ โดยมีสาเหตุหลักดังต่อไปนี้

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ (ไม่รวมโครงการร่วมทุน) อยู่ที่ 8,900 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17.4 % จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 59.1 % จากปีก่อน) และมีรายได้ค่าบริการและค่าบริหารจัดการอยู่ที่ 250 ล้านบาท ทําให้รายได้รวมในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 อยู่ที 9,150 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17.4 % จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 55.4 % จากปีก่อน) ส่งผลให้รายได้สะสมสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 22,341 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 21.2 % จากปีก่อน)

 แนวราบ: หลังจากที่ไตรมาสที่แล้วรายได้จากสินค้าแนวราบสามารถทําสถิติสูงสุด ในไตรมาสที่ 3 ปี2563 รายได้จากสินค้าแนวราบก็สามารถทําสถิติสูงสุดได้ใหม่อีกครั้ง โดยมีรายได้อยู่ที่ 7,013 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 48.6 %จากปีก่อน) ซึ่งเป็นผลมาจากการมียอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีคุณภาพ และยอดจองที่แข็งแกร่งทั้งจากโครงการที่เปิดขายใหม่และโครงการที่มีอยู่เดิม ดังนั้นรายได้สะสมสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 จึงเติบโตขึ้นมากมาอยู่ที่18,149 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.2 %จากปีก่อน

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 มีโครงการแนวราบที่เริ่มโอนกรรมสิทธิใหม่จํานวน  8 โครงการ (บ้านเดียว 3โครงการ และทาวน์เฮ้าส์ 5 โครงการ)โดยทั้งหมดเป็นโครงการที่เปิดขายใหม่ภายในไตรมาส  ได้แก่ 1) โครงการDistrict เทพารักษ์, 2) โครงการPleno รัตนาธิเบตร์ – บางใหญ่, 3) โครงการบ้านกลางเมือง TheEdition สาทร – สุขสวัสดิ, 4) โครงการPleno ศรีนครินทร์- เทพารักษ์ , 5) โครงการPleno สุขสวัสดิ- ประชาอุทิศ,6) โครงการThe City พระราม 2 – พุทธบูชา, 7)  โครงการThe Palazzo ปินเกล้า และ 8) โครงการCentro ราชพฤกษ์ – สวนผัก 2

คอนโดมิเนียม: รายได้จากคอนโดมิเนียมในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที 1,887 ล้านบาท(เพิ่มขึ้น121.8%  จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 115.4%  จากปีก่อน) จากการโอนที่แข็งแกร่งของโครงการ Aspire อโศก – รัชดา ซึ่งเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยสามารถโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 36.0%  ของจํานวนยูนิตทั้งหมด (คิดเป็น 369 ยูนิต) หรือเกินกว่าครึ่งของรายได้จากคอนโดมิเนียมของเอพี

นอกจากนี้โครงการ Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ และ โครงการAspire สุขุมวิท -อ่อนนุช เฟส 1 ยังมีความคืบหน้าในการโอนกรรมสิทธิ์โดยโอนได้ประมาณ 15% ภายในไตรมาสเดียวทําให้ทั้งโครงการมียอดโอนกรรมสิทธิ์สะสมไปแล้ว  87.5 %และ 36.5 % ตามลําดับ

โดยสรุปแล้วรายได้จากคอนโดมิเนียมสะสมสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 3,457 ล้านบาท(เพิ่มขึ้น 3.5 %จากปีก่อน)ยังคงระบายสินค้าคงเหลือจากโครงการที่มีอยู่ตั้งแต่ต้นปีสามารถปิดการโอนกรรมสิทธิ์โครงการพร้อมอยู่ของเอพีไปแล้วทั้งหมด 5 โครงการ ได้แก่โครงการ Vittorio (ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ), โครงการ Aspire อุดรธานี (ไตรมาสที่ 2 ปี 2563), โครงการAspire สาทร – ตากสิน เฟส 3 (ไตรมาสที 2 ปี 2563), โครงการ Aspire งามวงศ์วาน (ไตรมาสที 3 ปี 2563) และ โครงการ Coo พิษณุโลก(ไตรมาสที 3 ปี 2563)

นอกจากนี้คาดว่าจะสามารถปิดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องที่ยังคงค้างโอนทั้งหมดของโครงการ Aspire เอราวัณ เฟส 1 ได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2563 อัตรากําไรขั้นต้น ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 เพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 31.4 % (เพิ่มขึ้น1.8 %จากไตรมาสก่อน และลดลง 3.7% จากปีก่อน) โดยอัตรากําไรขั้นต้นของอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 30.0 %ในทํานองเดียวกันอัตรากําไรขั้นต้นสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 31.5% (ลดลง 2.2 % จากปีก่อน)

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 บริษัทฯควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อรายได้ที่ 21.0%  (ลดลง 0.2 % จากปีก่อน) หรือคิดเป็นมูลค่า 1,918 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงทําให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้สําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 20.5 (ลดลง 0.6% จากปีก่อน) เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารครอบคลุมการดําเนินงานของโครงการร่วมทุน เมื่อคิดรวมรายได้ 51 % จากโครงการร่วมทุน อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้สําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 17.7 % (ลดลง 2.2 %จากปีก่อน)

รายได้จากโครงการร่วมทุน ( 100% ) ทํารายได้สูงสุดในไตรมาส 3 ปี 2563 อยู่ที่ 6,068 ล้านบาท(เพิ่มขึ้น 13.5 % จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 1,200.3 % จากปีก่อน) ส่งผลทําให้รายได้จากโครงการร่วมทุนสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 12,837 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 215.0 % จากปีก่อน) ในทางทิศทางเดียวกัน “ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า” ทําสถิติสูงสุดรายไตรมาสมาอยู่ที่ 776 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 16.8 % จากไตรมาสก่อน) ทําให้ “ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า” สําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2563 อยู่ที่ 1,550 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 256.7 % จากปีก่อน)ไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 จึงเป็นอีกไตรมาสที่เอพีมีผลประกอบการที่โดดเด่นโดยทําสถิติสูงสุดอยู่ที่ 1,451ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19.4 % จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 134.6 % จากปีก่อน) และอัตรากําไรสุทธิอยู่ที่ 15.9 %เพิ่มขึ้น 5.4 % จากปีก่อน) ดังนั้นจึงทําให้กําไรสุทธิสะสมสําหรับงวดเก้าเดือนของปี2563 อยู่ที 3,283 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 50.4 % จากปีก่อน)

preeya tednok

ปุ่น ปรียา เทศนอก ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว prop2morrow ผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชนด้านอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ปี