กำไรจากอสังหาฯที่ทำให้ “เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์” เลือกทางเดินในสายธุรกิจ

  • Post author:
You are currently viewing กำไรจากอสังหาฯที่ทำให้ “เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์” เลือกทางเดินในสายธุรกิจ

[vc_row][vc_column][vc_column_text][/vc_column_text][vc_column_text]“เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์” ชื่อที่คุ้นหูเป็นอย่างดีต่อกลุ่มนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และในฐานะของแม่ทัพนำทีม Habitat Group (ฮาบิแทท กรุ๊ป) ด้วยตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้บุกเบิกการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้นิยาม LifeStyle Investment ที่เริ่มต้นจาก “พัทยา” Desination สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ที่ในแต่ละปีมีจำนวนนักท่องเที่ยว มากกว่า 10 ล้านคนต่อปี จุดเริ่มต้นของ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ เขาทำธุรกิจในสายไอทีโดยอยู่ฝ่ายการตลาด ก่อนที่จะเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองจนกระทั่งมาพบจุดเปลี่ยนที่ทำเงินและสร้างกำไรในอสังหาฯ เชนจึงตัดสินใจก้าวเข้าสู่เส้นทางอสังหาฯและผันตัวเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

จุดเริ่มต้นที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่…สู่การเป็นผู้ประกอบการพัฒนาโครงการ

[/vc_column_text][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

“ผมเองก็เป็นเหมือนทุกคนแหละ อยากมีคอนโดส่วนตัว พอเริ่มทำงานและมีรายได้ เราก็อยากมีบ้านของเราเอง” คำพูดของ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ ที่เริ่มต้นจากการมองหาที่อยู่อาศัยเพียงแค่ต้องการแยกออกมาอยู่ส่วนตัวจากเด็กที่เติบโตกับครอบครัวมาโดยตลอดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเขาจึงซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของตัวเอง จนมาได้คอนโดมิเนียมแห่งแรกย่านสุขุมวิท 18 ในราคา 4 ล้านกว่าบาท เฉลี่ย 55,000 บาทต่อตารางเมตร ถือเป็นยุครุ่งเรืองของตลาดคอนโดฯ ณ ช่วงเวลานั้น เมื่อเวลาผ่านไปราว 2 ปี อาคารก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เชนจึงแยกตัวออกมาอยู่ที่คอนโดแห่งแรกที่เขาซื้อไว้ ใช้เวลาราว 6-7 เดือนที่อยู่อาศัยในโครงการนี้ จนกระทั่งเขาได้มาพบกับคอนโดแห่งใหม่ย่านสาทร คอนโดมิเนียมที่มีการให้บริการลักษณะคล้ายกับโรงแรมที่ทำให้รู้สึกชอบและถูกใจมากขึ้น จึงตัดสินใจซื้อคอนโดย่านสาทรแห่งนี้เป็นโครงการที่ 2 ในชีวิต พร้อมทั้งประกาศขายคอนโดแห่งแรกที่เขาเคยซื้อไว้ก่อนหน้านี้ จึงเป็นจุดค้นพบจากการขายคอนโดฯแห่งแรกที่ทำกำไรให้กับ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]คอนโดแห่งแรก…จุดค้นพบของการลงทุน

หลังจากประกาศขายคอนโดฯแห่งแรก และมีผู้ซื้อในราคา 7.9 ล้านบาท เฉลี่ยราว 1 แสนบาทต้นต่อตารางเมตร จากเดิมที่ราคาเพียง 55,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้เขาได้กำไรจากการขายคอนโดมิเนียมเกือบเท่าตัว เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ อาศัยอยู่ในโครงการที่ 2 ที่เขาซื้อไว้ได้ราว 6 เดือน และได้เจอกับโครงการใหม่จึงตัดสินใจขายโครงการที่ 2 โดยที่ตอนซื้อมาราคาประมาณ 7 ล้านบาท ขายออกไปในราคา 8 ล้านกว่าบาท ถือเป็นการทำกำไรให้เขาอีกครั้ง จึงเป็นจุดที่เริ่มมองเห็นการลงทุนในอสังหาฯเพื่อทำกำไรให้กับตัวเอง

เหมือนด็กที่เห็นของเล่น เมื่อมีของเล่นชิ้นใหม่มาก็อยากได้ ไม่ได้คิดอะไร

ณ ช่วงเวลานั้นเขาซื้อคอนโดเพียงแค่คิดว่าต้องการที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าและดียิ่งขึ้น ลักษณะแบบเด็กที่เห็นของเล่น พอเห็นของเล่นใหม่ที่น่าสนใจกว่าก็อยากได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่นั่นก็เริ่มทำให้เขามองเห็นช่องทางการทำกำไรจากอสังหาฯควบคู่ไปด้วย ที่ได้ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หากขายต่ออสังหาฯก็ยังสามารถทำกำไรให้เกิดขึ้นได้ หรือแม้แต่ปล่อยเช่าก็ยังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า Yield ในตอนนั้น ราว 6%-7% ที่คุ้มเกินค่าผ่อนคอนโด ปล่อยเช่าก็ดี ขายต่อก็ยังทำกำไร เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ จึงเริ่มลงทุนในอสังหาฯอย่างจริงจัง ที่จุดเริ่มต้นเพียง 3 ห้อง ขยายเป็น 5 ห้อง ขยายเป็น 10 ห้อง ระยะเวลาประมาณ 7 ปี (ตั้งแต่ปี 2003-2010) เขาทำการซื้อขายคอนโดไปประมาณ 70-80 ห้อง ทั้งซื้อ โอน ขาย ปล่อยเช่า ที่ทำให้เรียนรู้การเป็น End User จากจุดเริ่มต้นเพื่ออยู่อาศัย…สู่การลงทุนในอสังหาฯ[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]แนะเคล็ดลับการปล่อยห้องเช่าให้เร็วจากเชน ชนินทร์ วานิชวงศ์

เมื่อเริ่มลงทุนในอสังหาฯอย่างจริงจังสิ่งที่ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ ได้เรียนรู้ในการหาผู้เช่าเพื่อให้ห้องสามารถปล่อยเช่าได้เร็วนั่นคือ

ห้องต้องโดดเด่น ไม่ว่าห้องที่ปล่อยเช่าจะไปอยู่บนสื่อไหนก็ตามจะหนังสือพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ ห้องที่จะปล่อยเช่าได้จะต้องเด่นกว่า ต้องออกแบบและดีไซน์ห้องให้มีความน่าสนใจสะดุดตา เมื่อภาพห้องถูกปรากฏขึ้นบนสื่อ ห้องจะโดดเด่นกว่าห้องอื่นที่ปล่อยเช่าในแบบเดียวกันซึ่งผู้เช่ามีตัวเลือกจำนวนมาก การตกแต่งห้องให้โดดเด่นจึงเป็นเสมือนจุดนำสายตาที่ทำให้ผู้เช่าหันมาสนใจห้องนี้และเลือกมองห้องนี้ก่อนเป็นอันดับต้น

แต่งเสร็จไวปล่อยเช่าเร็วกว่า นอกเหนือจากห้องที่ตกแต่งจะต้องโดดเด่นแล้ว ความไวและรวดเร็วในการตกแต่งยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ด้วยตลาดเช่าคอนโดฯมีผู้สนใจอยู่มากพอสมควร ดังนั้นการลงประกาศห้องหรือปล่อยห้องเช่าก่อนเป็นคนแรก ผู้เช่าย่อมเห็นสินค้าก่อนเช่นเดียวกัน ก็จะสามารถปล่อยเช่าได้เร็วขึ้นเนื่องจากห้องพักที่ผู้เช่าสนใจในลักษณะแบบนี้ในตลาดเช่ายังไม่มีมา[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text][/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]หลังจากที่ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ เรียนรู้ผ่านการเป็น End User นักลงทุนในอสังหาฯอย่างเต็มตัวที่ทำกำไร พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆในภาคธุรกิจอสังหาฯ ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาในปี 2553 ธุรกิจไอทีเติบโตขึ้นและเข้าตลาดหลักทรัพย์เขาจึงแยกตัวออกมาเพื่อดำเนินธุรกิจที่ชอบจาก passion ของตัวเอง ในปี 2555 เชนจึงก่อตั้ง Habitat Group (บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด) ขึ้น[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]นำ Habitat Group ก้าวเข้าสู่เส้นทางอสังหาฯ

“แต่ผมรู้แค่ว่า…แบบนี้ขายได้ ถ้าเป็นแบบนี้ขายไม่ได้ เพราะผมเริ่มมาตั้งแต่ปลายทาง เริ่มจากคนที่เงินน้อยแล้วไปไล่ซื้อคอนโด ทุกตัวที่ผมซื้อ ผมขายออกมาทำกำไรหมด ไม่ติดมือแม้แต่ห้องเดียว”

Habitat Group บริษัทที่ก่อตั้งโดย เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ ผู้ซึ่งไม่ได้เริ่มธุรกิจจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างกัน หลายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาฯจะเริ่มต้นจากกิจการก่อสร้าง การเป็นเจ้าของที่ Supply Chain การนำเข้าวัสดุต่างๆ บริษัทฯส่วนใหญ่จะมีขาบางขาที่เกี่ยวข้องระหว่างกัน แต่สำหรับ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ การเริ่มต้นในธุรกิจอสังหาฯ รู้เพียงแค่ว่าแบบนี้ขายได้…แบบนี้ขายไม่ได้ การเริ่มต้นจากปลายทาง จากคนเงินน้อยที่ไปไล่ซื้อคอนโด ทุกโครงการที่ซื้อ-ขาย ทำกำไรให้กับเขาทุกโครงการ ไม่ติดมือแม้แต่ห้องเดียว จึงเป็นจุดกำเนิดจากประสบการณ์การลงทุนกว่า 10 ปี สู่การพัฒนาโปรดักส์ โปรเจ็กต์ ที่พัฒนาโครงการออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภค “ด้วยความที่ผมเป็นนักลงทุน มีแนวคิดแบบไหน ชอบอะไร เพราะอะไร เราจึงเอาแนวคิดแบบนั้นมาใส่ด้วย จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ เราสร้างมาและเราให้บริษัทในเครือมาบริหารการเช่า ก่อให้เป็นBusiness Model ในรูปแบบหนึ่ง” คุณชนินทร์ กล่าว[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]หนึ่งใน Player ที่สร้างความแตกต่างสำหรับ Need Market บนเส้นทางสายอสังหาฯโดย ฮาบิแทท กรุ๊ป เริ่มก้าวเข้าสู่สังเวียนภายใต้นิยาม Lifestyle Investment เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็น Player หนึ่ง ในสมรภูมิอันแดงเดือดของตลาดอสังหาฯที่แข่งขันกันด้วยราคา สำหรับเชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ แล้วเขาอยากสร้างกฎเกณฑ์ กติกา ในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างออกไปจากผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันโดยตรง การสร้าง Segment ใหม่ และบริษัทฯกลายเป็น Market Vendor ถือเป็นสิ่งที่สนุกมากกว่า ทำให้เกิดการคิดในสิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิม และกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนักลงทุน[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

จากเรื่องที่ไม่รู้…กลายเป็น “ต้องเรียนรู้” เมื่อเริ่มต้นธุรกิจอสังหาฯ

[/vc_column_text][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]การเริ่มต้นบนเส้นทางสายอสังหาฯภายใต้ความ “ไม่รู้” ในการดำเนินธุรกิจ ในช่วงแรกเกิดขึ้นจากการลองผิดลองถูกมาตลอด เริ่มจากการกู้ธนาคารที่เมื่อก่อนเคยกู้เพียงแค่ 5-10 ล้านบาท เพื่อซื้อเพียงห้องพักอาศัย แต่เมื่อก้าวสู่การพัฒนาโครงการต้องใช้เงินเป็น 100 ล้านบาท ที่ต้องมาทำแผนธุรกิจในการยื่นกู้ เมื่อได้เงินกู้มาแล้วเข้าสู่การพัฒนาโครงการและการก่อสร้าง การใช้ผู้รับเหมาก็เป็นอีกปัญหาซึ่งลองผิดลองถูกมาเช่นกันทั้งจากผู้รับเหมารายเล็ก ผู้รับเหมาในท้องถิ่น ที่โดนโกงบ้าง ทิ้งงานบ้าง หรือแม้แต่ล่าช้ากว่ากำหนด จนสุดท้ายจึงเลือกใช้ผู้รับเหมาจากรุงเทพที่มีความเป็นมืออาชีพ หลังจากการก่อสร้างเสร็จ โครงการเข้าสู่งานขาย ที่ต้องมาหาคิดหาวิธีในการขายสินค้ากว่า 80 หลัง การทำการตลาดเพื่อให้สินค้าขายได้ แม้จะรู้ว่าโปรดักส์แบบนี้ขายได้แน่นอนแต่ไม่สามารถทำเพียงคนเดียว จึงเริ่มมองหาที่ปรึกษาและเอเจนซี่มาช่วยสู่การฟอร์มทีม และกว่าจะได้คนที่ใช่และเป็นทีมเวิร์คก็ต้องใช้เวลา ทุกอย่างจึงเป็น Challenge ที่ทำให้ “ต้องเรียนรู้” ทั้งหมด อีกโจทย์ที่ยากมากคือเรื่องของการบริหารเงินสด ดังนั้นกว่า 8 ปี สำหรับโครงการแรกจึงเป็นช่วงเวลาที่เหนือยและยากที่สุดที่เริ่มก้าวสู่ทางเดินบนถนนอสังหาฯสายนี้ หลังจากจบโครงการแรกทีมงานก็เริ่มมีประสบการณ์และเติบโตขึ้นจากการเรียนรู้ โดยโครงการแรกที่ ฮาบิแทท กรุ๊ป พัฒนามีชื่อว่า The View Jomtien Pool Villa จำนวน 80 หลัง[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

ก้าวสำคัญของ ฮาบิแทท ยืนหยัด จุดเปลี่ยน หรือทรงตัว

[/vc_column_text][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]ยืนหยัดในอุดมการณ์การพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้มองเพียงตัวเลขและเป้ายอดขายที่มีมูลค่าสูงแต่สูญเสีย Passion ในการทำงาน เพราะเมื่อสูญเสีย Passion ในการทำงานทุกอย่างจะกลายเป็นการทำงานในแบบเครื่องจักร ตัวเลขจะถูกมองเป็นหลัก ทำให้ Passion ของ Owner เริ่มหายไป สำหรับเชน ชนินทร์ วานิชวงศ์แล้ว เขายังคงอยากสนุกกับการทำงานมากกว่าซึ่งเชื่อมั่นว่าโมเดลในธุรกิจของบริษัทฯยังคงเติบโตไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายเป็นหลักหมื่นล้านเหมือนกับบริษัทใหญ่ เพียงแค่หลักพันล้านก็ถือว่าเพียงพอ รวมทั้งการมองหาตลาดแนวราบที่สร้างโปรดักส์เพิ่มสำหรับการบริหาร Cash Flow ยังคงอยู่ในช่วงการศึกษาที่บริษัทจะต้องขยายการลงทุนเพื่อให้บริษัทยังคงเติบโตได้ต่อไป

จุดเปลี่ยนสำคัญหากเข้าตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่าคือการหาแหล่งเงินทุน ครั้งหนึ่งเชน ชนินทร์ วานิชวงศ์เคยมีความคิดที่จะนำพา ฮาบิแทท กรุ๊ป เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน แต่สำหรับวันนี้โจทย์ไม่ได้ถูกคิดแบบเดิมการเข้าตลาดฯอาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป การหาแหล่งเงินทุน ไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้องใช้ตลาดหลักทรัพย์ การมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจก็เป็นตัวช่วยที่สามารถทำได้จนในทุกวันนี้ ฮาบิแทท กรุ๊ป เริ่มเติบโตขึ้นจัดอยู่ในระดับกลางของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นการเข้าตลาดฯจึงเป็นสิ่งที่เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์มองข้ามจุดนั้นมาแล้ว “การอยู่นอกตลาดคุณจะเดิน คุณจะวิ่ง คุณชะลอ คุณสามารถทำได้หมด แต่ถ้าอยู่ในตลาดฯคุณชะลอไม่ได้ หลายคนที่ผมรู้จักบอกว่าโครตเหนื่อย ใครจะไปรู้ว่าอาจจะมีหลายคนที่อยากออกมานอกตลาดฯ มันก็เป็นไปไม่ได้” คุณชนินทร์ กล่าว

ทรงตัว แม้ตลาดหลักทรัพย์จะไม่ใช่คำตอบของวันนี้ แต่เลือกที่จะเติบโตอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” เพื่อลดแรงกดดันจากการถูกจับตามองตลอดเวลา และรักษา Passion ที่เป็นปณิธานของการบริหารงาน แต่ในขณะเดียวกันยังมองหาพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจที่จะทำให้บริษัทฯเติบโตขึ้น พร้อมเล็งพัฒนาโครงการแนวราบจากดีมานด์ที่ยังมีความต้องการ ไม่เพียงแค่สร้างฐานโปรดักส์เพียงกลุ่มเดียวแต่เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแรงยังคงมองอนาคตในการพัฒนาโครงการ การเลือกพัฒนาในทำเลที่คุ้นชินจึงเป็นสิ่งที่ถนัดและทำมาตลอด แต่หากวันหนึ่งที่ต้องขยายฐานการลงทุนไปยังทำเลใหม่ ที่มี Segment ที่แตกต่างไป ถึงวันนั้นบริษัทฯก็ยังคงพร้อมที่จะศึกษาและเรียนรู้

“คนเราจะทำงานให้มัน Success มันต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่ชอบ ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน ถ้าทำในสิ่งที่ไม่ชอบสุดท้ายแล้วพลังงานที่คุณมีก็จะหมดไป ผมค้นพบอสังหาฯคือช่วง ซื้อลงทุน และสุดท้ายผมก็มาทำธุรกิจอสังหาฯแล้วผมชอบในสิ่งที่ผมทำ เราควรจะทำในสิ่งที่เรารักจะทำให้มีพลังงานแบบ Unlimited เพราะจะสามารถแก้ปัญา หาแนวทางฟันฝ่าอุปสรรคไปได้อย่างไม่เหนื่อย โดยจะรู้สึกว่าการทำงานยังสนุกอยู่ และเราก็จะกลับมามีพลังงาน”

ปรัชญาการทำงานของ ชนินทร์ วานิชวงศ์

[/vc_column_text][vc_column_text][/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

“แม่ทัพ” นำทีม ฮาบิแทท กรุ๊ป VS “หัวหน้าครอบครัว” ในฐานะของพ่อ

[/vc_column_text][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

เราทำงานหนักเพื่ออะไร คำตอบคือ…เพื่อครอบครัว…แล้วจะทำงานจนลืมครอบครัวเพื่ออะไร?

[/vc_column_text][vc_column_text][/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]คำถามที่เกิดจากการทำงานของ เชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด และ ในฐานะของ “คุณพ่อ” ที่สุดท้ายแล้วสะท้อนให้เห็นว่า เวลาสามารถแบ่งแยกได้ ช่วงเวลางานในหัวคิดแต่เรื่องงาน อยู่กับเรื่องงาน เพราะมันคือความสนุกสำหรับการทำงาน แต่เมื่อหมดเวลางานแล้วก็ควรจะมีเวลาส่วนตัวกับครอบครัว

สำหรับลูกแล้วเชน ชนินทร์ วานิชวงศ์ มองอนาคต ว่าต้องการให้เข้ามารับตำแหน่งต่อในวันที่เขาวางมือลง แต่ก็ไม่ได้ยัดเยียดให้กับลูกโดยตรง ปล่อยให้ลูกค้นพบในสิ่งที่ชอบและสุดท้ายแล้วอาจจะมาดูแลเพียงบางส่วน ซึ่งอาจจะใช้การจ้างงานจากมืออาชีพมาบริหารงานต่อซึ่งอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะอยากสนับสนุนความต้องการของลูกให้มีทางเลือก มีความคิด แสดงความสามารถออกมา

ในขณะเดียวกันการเป็นแม่ทัพนำทีม ฮาบิแทท กรุ๊ป ยังคงมีเป้าหมายในการสร้างผลงานที่มีคุณภาพ ในระดับ International Standard ดีไซน์และรายละเอียดที่ตั้งใจ อยากให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน ซึ่งในระยะยาวจะสามารถสร้าง Passive Income ที่เป็นผลดีต่ออนาคต โมเดลภายใต้นิยาม Lifestyle Investment ที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน บริษัทจะเติบโตไม่ได้หากไม่มีลูกค้าที่ดี ไม่มี Investor ที่มาลงทุนร่วมกัน Business Model ที่จะ Win-Win ไปด้วยกันทั้งหมด[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

มุมมองตลาดต่างชาติ ต่อ การลงทุนอสังหาฯในประเทศไทย

[/vc_column_text][vc_text_separator title=”” color=”orange” border_width=”5″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย ณ ช่วงเวลานี้ ( 28 ธันวาคม 2563 ) เป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ดีมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อน ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวเม็ดเงินจำนวนกว่าแสนล้านบาทที่เคยหมุนเวียนในระบบหายไป ดังนั้นหากเปิดประเทศและการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา การดำเนินธุรกิจต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ การจ้างงาน ธุรกิจโรงแรมก็จะเริ่มกลับมาด้วย ดีมานด์และความต้องการที่อยู่อาศัยของต่างประเทศก็จะตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาราว 2 ปีกว่าๆที่จะเริ่มฟื้นตัว สำหรับในปีหน้า 2564 อาจจะเริ่มกลับมาบ้างราว 30-50% กว่าที่จะฟื้นตัวได้ 70-80% อาจจะต้องรอถึงปี 2565 ซึ่งช่วงเวลานั้นก็จะเป็นเวลาเดียวกันกับ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC (Eastern Economic Corridor) รวมถึงแนวรถไฟฟ้า และสนามบินอู่ตะเภา ก็พร้อมเปิดให้บริการด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกที่ดีที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ในแง่ของ Elite Card ที่ภาครัฐมีการส่งเสริม จะเป็นเรื่องดีที่ช่วยนำพาเงินเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทำให้คนเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯได้เริ่มเจรจากับทาง Elite Card ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสินค้าบางรายการอาจร่วมมือในรูปแบบการแลกเปลี่ยนผ่านแพคเกจภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ซึ่งจะเริ่มเห็นชัดเจนในปีหน้า 2564 ปัจจุบันชาวต่างชาติยังคงติดปัญหาในเรื่องของการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเนื่องจากการซื้อสินค้าจะต้องเข้ามาภายในประเทศเพื่อดูสินค้า การไม่สามารถเข้ามาภายในประเทศไทยได้ส่งผลให้ขาดความเชื่อมั่นไม่กล้าตัดสินใจซื้อ มีลูกค้าหลายรายที่จองสิทธิ์และโอนเงินแล้วแต่ยังคงไม่กล้าเซ็นต์สัญญา เกิดคำถามขึ้นบ่อยครั้งของชาวต่างชาติว่าเมื่อไรจะสามารถเข้ามาประเทศไทยได้? การเข้ามาก็ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัว ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ตัดสินใจที่จะเลื่อนการทำธุรกรรมต่างๆออกไปก่อน เพราะถึงแม้เข้ามาในช่วงเวลานี้ก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้ต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลายลง ความหวังเดียวคือวัคซีนที่จะเริ่มใช้งาน ฉะนั้นตลาดอสังหาฯก็ยังคงชะลอไปอีก 1-2 ปี ต่อจากนี้” คุณชนินทร์ กล่าว[/vc_column_text][vc_column_text][/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]