เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ฯ เผย “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” โฉมใหม่ ได้รับการตอบรับที่จากกลุ่มลูกค้าทั้งใน–ต่างประเทศ ส่งผลมียอดจองเข้าใช้พื้นที่เป็นจำนวนมาก ล่าสุด สามารถปิดดีลบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย จำกัด ผู้นำธุรกิจการจัดงานระดับโลก ยืนยันจัดงานทั้งสิ้นจำนวน 6 งาน ประกอบด้วย Food Ingredient Asia, Food & Hotel Thailand, ASEAN Sustainable Energy, Pump and Valves Asia, Thai Water Expo, และ Tissue and Paper Bangkok โดยงานทั้งหมดจะจัดขึ้นในปี65
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากการเผยโฉมใหม่โครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์(Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC) ในเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยลูกค้าเก่าที่ต้องการกลับมาจัดงานด้วยมาตรฐานความสำเร็จของอีเวนต์ต่างๆ ที่ได้สร้างไว้ในอดีต และลูกค้าใหม่ที่ต้องการใช้บริการสถานที่จัดงานที่ได้มาตรฐานระดับสากลใจกลางกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังได้ขยายขีดความสามารถในการให้บริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นในการตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากยื่นจองพื้นที่ล่วงหน้าเพื่อจัดงานประชุมและสัมมนา โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้ทยอยทำสัญญากับลูกค้าจำนวนหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ล่าสุด สามารถปิดดีลบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย จำกัด ผู้นำธุรกิจการจัดงานระดับโลก ยืนยันจัดงานทั้งสิ้นจำนวน 6 งาน ประกอบด้วย Food Ingredient Asia, Food & Hotel Thailand, ASEAN Sustainable Energy, Pump and Valves Asia, Thai Water Expo, และ Tissue and Paper Bangkok โดยงานทั้งหมดจะจัดขึ้นในปี 2565
“เราได้เดินหน้าพัฒนาโครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 53 ไร่ ให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด โดยได้ว่าจ้างให้ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ FPT เป็นผู้พัฒนาคอนเซ็ปต์ และบริหารงานก่อสร้างโครงการศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่แห่งนี้ เนื่องด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และมีโครงการที่ประสบความสำเร็จหลายแห่ง อาทิ “สามย่านมิตรทาวน์” ที่ทำให้สามย่านกลายเป็นจุดหมายใหม่ของกรุงเทพฯ และ “เอฟวายไอ เซ็นเตอร์” ซึ่งพลิกโฉมทำเลย่านคลองเตยอย่างสิ้นเชิง จึงมั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จตามมาตรฐานภายในกรอบเวลาที่กำหนด บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้ศูนย์ฯ สิริกิติ์พร้อมขึ้นแท่นเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และรองรับการจัดงานได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด” นายศักดิ์ชัย กล่าว
โครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่จะเพิ่มศักยภาพด้วยการขยายพื้นที่มากขึ้นถึง 5 เท่า คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 280,000 ตารางเมตร มีพื้นที่รองรับการจัดการประชุมและนิทรรศการมากถึง 78,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยฮอลล์สำหรับการจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ 2 ฮอลล์ พื้นที่รวมมากกว่า 45,000 ตารางเมตร ห้องสำหรับจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ 2 ห้อง พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร และห้องประชุมย่อยที่สามารถรองรับการประชุมได้กว่า 50 ห้อง เพิ่มที่จอดรถให้สามารถรองรับได้มากกว่า 2,700 คัน เปิดทางเชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน ภายใต้งบประมาณในการพัฒนาโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นสุดยอดศูนย์การประชุมใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยจะพร้อมให้บริการได้ในเดือนกันยายน 2565