NOBLE-SC ปลื้มนักลงทุนเชื่อมั่นบริษัทฯสนใจจองซื้อหุ้นกู้เกินเป้าที่ตั้งไว้

  • Post author:
You are currently viewing NOBLE-SC ปลื้มนักลงทุนเชื่อมั่นบริษัทฯสนใจจองซื้อหุ้นกู้เกินเป้าที่ตั้งไว้
โนเบิลฯเผยการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ปลื้มกระแสตอบรับดีจากนักลงทุน ด้านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ระบุปัจจัยสนับสนุนมาจากความมั่นใจของนักลงทุนต่อบริษัทฯ ที่มีประวัติที่ดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ แบรนด์สินค้าเป็นที่ยอมรับในตลาด และได้รับการปรับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ จากทริสเรทติ้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ SC ไม่น้อยหน้า นักลงทุนทุกรายที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้เกินกว่าเป้าที่คาดหมายแม้อยู่ในช่วงท่ามกลางความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย เผยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่มั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และจองซื้อหุ้นกู้มาเป็นจำนวนมากเกินกว่าจำนวนที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้แม้จะอยู่ในช่วงความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องนำหุ้นกู้ที่สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมหรือ Greenshoe option จำนวน 300 ล้านบาทมาใช้ รวมเป็นมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะนำเงินส่วนหนึ่งไปใช้ในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในแนวราบที่ยังเติบโตได้ดี ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 47,700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบ รวมถึงเพิ่มโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ในพอร์ตให้มากขึ้น เพื่อขยายพอร์ตให้มีสินค้าที่สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย และครอบคลุมในหลายทำเล

กลุ่มผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนให้การตอบรับหุ้นกู้ของบริษัทฯ เป็นอย่างดีนั้น มาจากชื่อเสียงของบริษัทฯ มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดคอนโดมิเนียม ตลอดจนมียอดขายรอการรับรู้รายได้หรือ Backlog จำนวนมากที่จะช่วยประกันรายได้ในอนาคตของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้งที่ระดับ BBB และได้รับการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือขึ้นมาเป็น BBB แม้ในปี 2564 ที่ผ่านมาจะมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19 สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการตัดสินใจของนักลงทุนในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้

ด้านนายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก ของปี 2565 อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.04% ต่อปี เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 25 -27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยผู้ลงทุนสถาบันได้แจ้งความประสงค์ลงทุนในหุ้นกู้มากกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นกู้ที่บริษัทตั้งใจเสนอขายครั้งแรกที่ 1,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทตัดสินใจนำหุ้นกู้ที่สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมจำนวน 1,000 ล้านบาทมาใช้ รวมมูลค่าที่เสนอขายทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท แม้จะอยู่ในช่วงความผันผวนของตลาดการเงินที่มีข่าวการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ แต่ผู้ลงทุนสถาบันยังให้การตอบรับที่ดีมาก

“บริษัทขอขอบคุณผู้ลงทุนสถาบันทุกรายที่ให้ความไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ และสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต ที่มีส่วนสำคัญให้การเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยทางบริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้และใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ เช่น ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการตามแผนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจของผู้ซื้อบ้านทุกคน” นายอรรถพล กล่าว

ปัจจุบัน SC ใช้แหล่งเงินทุนจากทั้งเงินกู้ยืมสถาบันการเงินและการออกตราสารหนี้ในรูปหุ้นกู้และตั๋วบีอี ในสัดส่วนโดยเฉลี่ย 50:50 ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีตลอดมาจากสถาบันการเงินต่างๆและรวมถึงผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นในการดำเนินงานและสถานะการเงินที่มั่นคงของบริษัท โดยบริษัทยังมีความต้องการใช้เงินทุนเพื่อลงทุนซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการใหม่รองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม จะต้องบริหารควบคู่ไปกับการดำรงสภาพคล่องและระดับภาระหนี้ที่เหมาะสมด้วย

 

 

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing