“บมจ. เคหะสุขประชา” แต่งตั้งบล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมระดมทุนระยะที่ 1 วงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับสร้างบ้านเช่าพร้อมอาชีพ 1 แสนยูนิตทั่วประเทศในระยะเวลา 5 ปี ประเดิมปีแรก 13,000 ยูนิตบนที่ดิน 36 แปลงของการเคหะฯใน 18 จังหวัด
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัทเคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับรองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย “โครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ” จำนวน 100,000 ยูนิตทั่วประเทศภายในระยะเวลา 5 ปี (ปี 2565-2569)เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านแนวราบและอาคารชุดให้กับผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ได้มีที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานในราคาเหมาะสม รวมทั้งยังมีอาชีพรองรับเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
ล่าสุดอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในด้านการจัดหาพื้นที่สำหรับการพัฒนาโครงการในพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อทำแผนการพัฒนาโครงการโดยรวมและประเมินมูลค่าโครงการ ตลอดจนเตรียมร่างข้อเสนอการร่วมลงทุน (PPP)กับการเคหะแห่งชาติ รวมทั้งอยู่ระหว่างการสำรวจและจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั่วประเทศ
ทั้งนี้ตามแผนการลงทุนภายในระยะเวลา 5 ปี บริษัทเคหะสุขประชาฯจะต้องดำเนินการสร้างบ้านเช่าพร้อมอาชีพปีละ 20,000 ยูนิต วงเงินลงทุน 20,000 ล้านบาทต่อปี โดยได้เปิดตัวโครงการนำร่องไปแล้ว 2 โครงการ คือ บ้านเคหะสุขประชา ฉลองกรุง จำนวน 302 ยูนิต และเคหะสุขประชา ร่มเกล้าจำนวน 270 ยูนิต ขณะนี้งานก่อสร้างของทั้งสองคืบหน้าไปแล้วกว่า90%
เบื้องต้นจะให้กลุ่มผู้เปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ ทยอยเข้าอยู่อาศัยได้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนพื้นที่ตลาดสุขประชา ฉลองกรุง จำนวน 195 แผง และสุขประชา มอลล์ ร่มเกล้า คาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีแรกนี้ คาดว่าบริษัทเคหะสุขประชาฯจะดำเนินการก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ประมาณ 13,000 ยูนิตจากเป้า 20,000 ยูนิต เนื่องจากได้ดำเนินการล่าช้าไปจากแผนเดิมประมาณ 1 ไตรมาส โดยมีที่ดินของการเคหะฯรองรับแล้วจำนวน 36 แปลงใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิเชียงใหม่,เชียงราย,พระนครศรีอยุธยา,สุราษฎร์ธานี,ยะลา และนครสวรรค์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย กรมธนารักษ์ รวมถึงสถานศึกษาในต่างจังหวัดที่ปิดกิจการไปหลังเกิดการระบาดของโควิด-19 เพื่อขอเช่าที่ดินระยะยาวสำหรับนำมาสร้างเป็นบ้านเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ทั้งนี้บริษัทเคหะสุขประชาฯตั้งขึ้นมาตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 โดยมีการเคหะแห่งชาติเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 49% และร่วมทุนกับเอกชนในภาคธุรกิจต่างๆ เช่น การเงิน พลังงาน ธุรกิจค้าปลีก วัสดุก่อสร้าง ประกันภัยและสุขภาพอีก 51% เพื่อจัดสร้างที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านเช่าพร้อมอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ เช่น กลุ่มคนไร้บ้านที่มีประมาณ 3 หมื่นครัวเรือน กลุ่มผู้บุกรุกที่ดินของการรถไฟฯจำนวนกว่า 4,400 ครัวเรือน และกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในสลัมคลองเตยประมาณ 1 หมื่นครัวเรือน โดยคิดอัตราค่าเช่าเริ่มต้น 1,500-3,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องชุดขนาด 30-50 ตารางเมตร และบ้านเช่าขนาดที่ดิน 16-18 ตารางวา