ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯเพิ่มหลังคลายล็อกเปิดประเทศ

You are currently viewing ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯเพิ่มหลังคลายล็อกเปิดประเทศ

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 2 มีค่าดัชนีเท่ากับ 49.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.1 หลังรัฐบาลสั่งเปิดประเทศเต็มรูปแบบ แต่ยังมีความกังวลจากปัญหาราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ดันราคาวัสดุก่อสร้างขยับเพิ่ม รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยถึงภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลในไตรมาส 2 ปี 2565 ว่า มีค่าดัชนีเท่ากับ 49.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.1 และเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวของปีก่อนที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 46.4 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น แม้จะยังอยู่ในภาวะที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19

เนื่องมาจากภาครัฐได้ออกมาตรการคลายล็อกโควิด-19 ด้วยการยกเลิก Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น และเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนได้มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต้องกักตัวทุกรูปแบบ และไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass

ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยลบที่สร้างความกังวลกับผู้ประกอบการฉุดให้ค่าดัชนีภาพรวมต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จากปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเหล็ก รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลในการดำเนินธุรกิจในไตรมาสปัจจุบัน จะเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในหมวดต้นทุนการประกอบการที่ปรับลดลงชัดเจน

ทั้งนี้หากจำแนกความเชื่อมั่นตามกลุ่มผู้ประกอบการพบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ในไตรมาส 2 มีค่าดัชนีเท่ากับ 54.9 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 51.1 และสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวของปีก่อน

ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 42.2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 41.1 แต่ยังคงต่ำกว่าค่ากลาง แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่ม Non-listed Companies มีความกังวลต่อปัจจัยลบดังกล่าวมากกว่ากลุ่ม Listed Companies

ส่วนภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในอีก 6 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะมีค่าเท่ากับ 56.6 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 56.5 และค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0  โดยพบว่ากลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 61.6 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ในระดับ 60.5 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นในธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมากขึ้นโดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ และการจ้างงานที่มากกว่าไตรมาสก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ด้าานผู้ประกอบการฯกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 49.1 ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 50.5 และต่ำกว่าค่ากลาง เนื่องผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นลดลง โดยเฉพาะในด้านยอดขายที่ลดลงมาก