SHR เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก ’65 เแกร่ง ลุยดันรายได้ครึ่งปีหลังโตทะลุเป้า 8,500 ล้านบาท

  • Post author:
You are currently viewing SHR เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก ’65 เแกร่ง ลุยดันรายได้ครึ่งปีหลังโตทะลุเป้า 8,500 ล้านบาท
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ทฯ ชูผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นทุกพอร์ต โกยรายได้ครึ่งปีแรกที่ 3.76 พันล้านบาท มั่นใจผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก ดันให้รายได้ทั้งปี 2565 เกินเป้าที่ 8.50 พันล้านบาท
นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์
นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด(มหาชน) หรือ S เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรกว่า เติบโตต่อเนื่อง สะท้อนการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ โดยรายได้จากการขายและการให้บริการในครึ่งปีแรก รวมอยู่ที่ 3,761 ล้านบาท เติบโตเกือบ 3 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายงานผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ จากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 639 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรายงานผลกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4

บริษัทฯ มีความมั่นใจต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลัง ที่จะเติบโตต่อเนื่องกว่า 25% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ผลักดันรายได้ทั้งปีเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีปัจจัยหลักจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบในทุกพอร์ตที่บริษัทฯ ดำเนินงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ เห็นสัญญาณของ pent up demand ที่แข็งแกร่ง กอปรกับศักยภาพของโรงแรมของบริษัทฯ ที่ตั้งอยู่ในจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้ง 5 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยและมัลดีฟส์ จึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโรงแรมในทุกพอร์ตจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เร็วกว่าอุตสาหกรรม

โดย  2 ฟันเฟืองหลักที่จะเข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งของผลประกอบการ นอกเหนือจากโรงแรมใน CROSSROADS และพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร ที่ยืนยันผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาได้ต่อเนื่องแล้ว คือพอร์ตโรงแรมที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ สำหรับประเทศไทยภายหลังจากการเปิดประเทศในเดือนกรกฎาคมมีตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทะลุ 1 ล้านคนเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563  ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน ส่งผลให้ในเดือนดังกล่าว โรงแรม SAii Laguna Phuket มี Occupancy Rate ที่ 68%

ทั้งนี้ ด้วยจุดแข็งด้านที่ตั้งของโรงแรมและผลสำเร็จจากการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ของบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าพอร์ตโรงแรมในประเทศไทยจะสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตขึ้นเกือบสองเท่าตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี  เช่นเดียวกับสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ที่จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศในเดือนมิถุนายนเติบโตในระดับ 73% เทียบกับช่วงก่อนการเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยโรงแรมของบริษัทฯ ในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิโชว์ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงแรม Castaway Island, Fiji มีระดับ Occupancy Rate เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 84% ในเดือนมิถุนายนและสามารถดึง RevPAR สูงขึ้นได้ประมาณ 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ

“ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกฟื้นตัวได้ดีกว่าที่เราคาดการณ์ ด้วยแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง และผลสำเร็จของกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพพอร์ต รวมถึงศักยภาพทางการแข่งขันในหลายๆ โรงแรมของบริษัทฯ โดยพอร์ตโรงแรมของ SHR หลายแห่งมีอัตราการเข้าพักที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม เช่น  พอร์ตโรงแรมที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 70% เทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 61% และพอร์ตโรงแรมที่ประเทศไทยในจังหวัดภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 53% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 40% โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอร์ตโรงแรมที่สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 54% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในปี 2562 ที่เป็นระดับช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ 52% สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสินทรัพย์และศักยภาพในแข่งขัน เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันผลประกอบในช่วงครึ่งปีหลังให้ปรับตัวดีขึ้นใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ และ SHR จะเดินหน้าพัฒนาห้องพักของโรงแรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีอัตราการเข้าพักและค่าห้องพักเฉลี่ยที่ดีขึ้นในอนาคต” นายเดิร์ก กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ของอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ทั้งในสหราชอาณาจักร สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และประเทศไทย จากปริมาณการจัดงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกและการจองสถานที่จัดงานในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมีสถานที่รองรับการจัดประชุมและจัดงานอีเวนต์ต่างๆในโรงแรมหลายแห่งในพอร์ตของบริษัทฯ โดยเฉพาะโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต ที่มีศูนย์การประชุมและงานอีเวนต์ (Meetings & Events Centre) ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางธุรกิจที่สำคัญ การประชุมใหญ่ขององค์กร งานกาล่าดินเนอร์ พิธีมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และงานอีเวนต์อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรม MICE ในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่จะขับเคลื่อนให้รายได้ในปี 2565 ให้เติบโตขึ้น

“เรามั่นใจต่อทิศทางการดำเนินงานที่โดดเด่น ด้วยศักยภาพของสินทรัพย์ภายหลังจากการใช้กลยุทธ์การหมุนเวียนการลงทุนสินทรัพย์ โดยหลังจากนี้ SHR จะมุ่งไปที่กลยุทธ์ของการเพิ่มประสิทธิภาพในแต่ละพอร์ตโฟลิโอ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงห้องพัก พัฒนาและเพิ่มมูลค่าในด้านต่างๆ ให้แก่โรงแรม กลยุทธ์เชิงรุกในการทำการตลาด การสร้างการรับรู้สำหรับแบรนด์ SAii ตลอดจนการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการจองห้องพักของบริษัทฯ ให้สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจุบัน SHR มีสัดส่วนรายได้จากช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20% ในครึ่งปีแรก จากเดิมในปี 2561 ถึง 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 10% โดยตั้งเป้าที่จะผลักดันสัดส่วนของ Direct Booking ให้ขึ้นไปที่ 30% ภายในสิ้นปี ทั้งนี้ กลยุทธ์เหล่านี้ที่กล่าวจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน และจะเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตของพอร์ตในครึ่งปีหลัง และปีต่อๆ ไป ทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ของปี 2565 ที่วางไว้ราว 8,500 ล้านบาท และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย” นายเดิร์ก กล่าวในที่สุด

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing