“รัชโยธิน” ทำเลอยู่อาศัยของคนชอบอยู่ตึกสูง เดินทางด้วยรถไฟฟ้า

You are currently viewing “รัชโยธิน” ทำเลอยู่อาศัยของคนชอบอยู่ตึกสูง เดินทางด้วยรถไฟฟ้า

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ –คูต ที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปลายปี 2563 ถือเป็นการเปิดพื้นที่การลงทุนทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โครงการเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงออฟฟิศต่างๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งสองฝั่งของถนนพหลโยธิน ตั้งแต่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงรัชโยธิน สะพานใหม่และคูคต

โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ทั้งคอนโดฯไฮไรส์และโลว์ไรส์ ที่เข้ามาปักหมุดจับจองที่ดินเพื่อเปิดตัวโครงการใหม่ในโซนนี้ตั้งแต่ก่อนจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายนี้ด้วยซ้ำ เพราะเป็นเส้นทางที่อยู่ในแผนการพัฒนามาหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว

ทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายในโซนนี้มาแล้วมากกว่า 10 ปี เพียงแต่อยู่ในบางทำเลเท่านั้น เช่น ย่านห้าแยกลาดพร้าว และพื้นที่รัศมีโดยรอบสี่แยกรัชโยธิน แต่พอเริ่มต้นก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าแบบเป็นรูปธรรม ผู้ประกอบการก็เข้ามาซื้อที่ดินเพื่อเปิดขายโครงการคอนโดฯในพื้นที่ใหม่ๆเพิ่ม เช่น รอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ย่านเสนานิคม บริเวณสี่แยกหลักสี่ และสะพานใหม่ เป็นต้น


“รัชโยธิน”มีคอนโดฯเปิดตัวสะสมกว่าหมื่นยูนิต
ราคาขายห้องชุดทะลุ1แสนบาทต่อตารางเมตร

อย่างไรก็ตามพื้นที่รอบสี่แยกรัชโยธิน ถือเป็นพื้นที่ที่มีโครงการคอนโดฯเปิดขายมาก่อนหน้านี้มากกว่า 15 ปี โดยเฉพาะคอนโดฯที่เปิดขายก่อนปี 2558 มีมากถึง 8,191 ยูนิต ปัจจุบันมีคอนโดฯสะสมทั้งหมดในพื้นที่รอบสี่แยกรัชโยธินประมาณ 12,850 ยูนิต

โดยหลังจากปี 2558 ก็ยังมีโครงการคอนโดฯเปิดขายใหม่เข้ามาเพิ่มในพื้นที่ต่อเนื่อง แต่มีจำนวนยูนิตน้อยกว่าช่วงก่อนหน้านี้ เพราะโครงการส่วนใหญ่ที่เปิดขายใหม่มีจำนวนยูนิตไม่มากนัก และเป็นโครงการที่เปิดขายหลังจากที่เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ (หมอชิต – คูคต) มีความชัดเจนและเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว

จากข้อมูลวิจัยของ “พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ” ระบุว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนืออาจะไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งเส้นทาง เนื่องจากพื้นที่นี้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามามากกว่า10 ปีแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่รอบสี่แยกรัชโยธินที่มีทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ คอมมูนิตี้มอลล์ และเป็นเส้นทางการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพฯที่สามารถเข้าสู่เมืองชั้นในได้สะดวก ทำให้แปลงที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดฯจึงหาได้ยาก โดยเฉพาะแปลงที่ดินติดถนนพหลโยธิน ทำให้หลายโครงการที่เกิดขึ้นในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมาจึงเป็นโครงการที่อยู่ในซอยต่างๆ และจำนวนยูนิตอาจจะไม่ได้มากนัก

ขณะที่ราคาขายคอนโดฯในพื้นที่นี้ก็ค่อนข้างจะแตกต่างตามทำเลที่ตั้งของโครงการ โดยโครงการที่เปิดขายอยู่ในทำเลติดถนนพหลโยธินในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมามีราคาขายเริ่มต้นมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร และมีบางโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 140,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งแตกต่างจากโครงการที่อยู่ในซอยที่แยกออกจากถนนพหลโยธิน ราคาขายเริ่มต้นต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร

แต่หลายโครงการที่เปิดขายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้ปิดการขายไปหมดแล้ว อาจจะมีเพียงบางโครงการที่เปิดขายในช่วง 3 ปีหลังมานี้จนถึงปัจจุบันยังมียูนิตเหลือขายอยู่ โดยอัตราการขายเฉลี่ยในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 96% โดยเฉพาะโครงการที่เพิ่งเปิดขายใหม่ ถ้าราคาขายต่อตารางเมตรไม่สูงกว่า 120,000 บาทเชื่อว่าจปิดการขายในเร็วๆ นี้ แต่หากโครงการไหนมีราคาขายที่มากกว่านี้อาจจะใช้เวลาในการขายอีกสักระยะ เพราะในสถานีใกล้เคียงมีคอนโดฯที่มีราคาขายต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรเปิดขายใหม่หลายโครงการ

ค่ายมหาชนชิงปักหมุดเปิดตัวคอนโดฯติดถนนใหญ่-ในซอย
โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่โดยรอบสถานีรัชโยธินหลายโครงการ ทั้งโครงการสร้างเสร็จแล้วและยังไม่ได้เริ่มงานก่อสร้าง จากข้อมูลของพร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ ระบุว่า ปีนี้จะมีคอนโดฯเปิดตัวใหม่เข้ามาในพื้นที่ย่านรัชโยธินประมาณ 3,000 กว่ายูนิต และมีคอนโดฯสะสมอยู่ในพื้นที่เกือบ 4,000 ยูนิต

โดยเฉพาะคอนโดฯไฮไรส์ที่สร้างเสร็จแล้วอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน คือ แมสซารีน รัชโยธิน ของกลุ่มแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์  เป็นคอนโดฯไฮไรส์สร้างเสร็จพร้อมอยู่สูง 37 ชั้นอยู่ติดสถานีรัชโยธิน จำนวน 474  ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 3.69 ล้านบาท ขณะนี้กำลังจัดโปรโมชันเฉพาะ 9 ยูนิตพิเศษ ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี

ล่าสุดกลุ่มแกรนด์ยูฯกำลังเปิดขายโครงการใหม่เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์แบรนด์ “บลู (Blue)” ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 ซึ่งใกล้กับฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตเป็นอาคารสูง 8 ชั้นจำนวน 2 อาคารรวม 322 ยูนิต ขนาดห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 24-37 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท

ส่วนคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมอยู่ของแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ คือ “ลุมพินี พาร์ค พหลฯ 32” ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานีรัชโยธินและสถานีเสนานิคม เป็นคอนโดฯไฮไรส์สูง 30 ชั้นจำนวน 546 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24-46.50 ตารางเมตร  ก่อสร้างเสร็จพร้อมโอนมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ปัจจุบันยังมีห้องชุดเหลือขายพอสมควร (อัพเดทข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีการโอนห้องชุดไปได้เพียง 17%เท่านั้น) ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีการปรับลดราคาขายลงมาต่อเนื่อง

ขณะที่โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน ของกลุ่มเอสซี แอสเสทฯ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรัชโยธินประมาณ 0.25 กิโลเมตร เป็นอาคารสูง  ชั้นจำนวน 261 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท  เพิ่งปิดการขายไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ด้านกลุ่มออริจิ้นฯได้เปิดตัวคอนโดฯพร้อมอยู่ในทำเลย่านนี้ 2 โครงการ เพิ่งปิดการขายไปแล้ว 1 โครงการ คือ ไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน และอยู่ระหว่างการขายโครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน ราคาขายเริ่มต้น 4.95 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีดีเวลอปเปอร์ 2 ค่ายใหญ่เตรียมจะเปิดตัวใหม่ในพื้นที่ย่านรัชโยธิน คือ โครงการ”แอสปาย รัชโยธิน” ของกลุ่มเอพี (ไทยแลนด์) ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ อยู่ห่างจากสถานีรัชโยธินประมาณ 350 เมตร พัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์จำนวน 633 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25,28 และ 35 ตารางเมตรแบบ 1-2 ห้องนอน  ราคาขาย 2.19-2.69 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 88,000 บาท ส่วนกลุ่มแสนสิริ เตรียมจะเปิดตัวคอนโดฯใหม่ในซอยรัชโยธิน  37  ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดของโครงการออกมา

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้ารัชโยธินจะมีโครงการเปิดขายใหม่หลังจากนี้ไม่มากนัก เพราะที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดฯอาจจะหาได้ยากในอนาคต และราคาที่ดินก็ค่อนข้างสูง ทำให้ราคาขายคอนฯจะปรับเพิ่มขึ้นไปมากกว่าปัจจุบันไม่ได้ เพราะศักยภาพของพื้นที่ยังไม่พร้อมเมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ห้าแยกลาดพร้าวหรือย่านหมอชิต เป็นต้น