“ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท”โกยยอดขายแล้วกว่า 30% ตั้งเป้าปิดขายภายใน 2 ปี

  • Post author:
You are currently viewing “ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท”โกยยอดขายแล้วกว่า 30% ตั้งเป้าปิดขายภายใน 2 ปี
เอพีฯเผยภาพรวมตลาดคอนโดฯระดับบีบวกเริ่มส่งสัญญาณบวก คาดเริ่มฟื้นตัวปี66 ระบุ 8 เดือน กวาดยอดขาย 7,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของเป้ายอดขายคอนโดฯในปี65 ส่วนยอดโอนรวมมั่นใจตามเป้าหมาย 47,000 ล้านบาท ด้าน”ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท”ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% พร้อมเริ่มโอนได้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.65 ตั้งเป้าปิดการขายภายใน 2 ปี
นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม
นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน) หรือAP เปิดเผยว่า บริษัทฯมองเห็นสัญญาณบวกของการกลับมาซื้อคอนโดมิเนียมที่ดีในตลาด โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับบีบวก ในทำเลที่มีศักยภาพในกรุงเทพฯ ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากยังคงมีการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่บนทำเลที่ดี และมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต รวมถึงโครงการที่มีการออกแบบ ให้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และตอบโจทย์การอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม โดยปัจจุบันราคาขายคอนโดมิเนียมยังไม่มีการปรับขึ้นมากทั้งโครงการที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน และโครงการที่เปิดขายใหม่ ทำให้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในหารเลือกซื้อคอนโดมิเนียมในช่วงเวลาดังกล่าว และมองว่าจะเริ่มเห็นตลาดคอนโดมิเนียมกลับมาคึกคักมากขึ้นในปี 2566 โดยจากสัญญาณบวกของตลาดคอนโดมิเนียมที่ฟี้นตัวขึ้นได้ดี ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำได้แล้ว 7,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของเป้ายอดขายคอนโดมิเนียมในปี 2565 นี้ และมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ทั้งนี้ในช่วงเดือนปลายเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายคอนโดมิเนียม “แอสปาย พระราม 4” มูลค่าประมาณ  4,000 ล้านบาท สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่บริษัทตั้งไว้ที่ 23% และยังเตรียมเปิดคอนโดมิเนียมใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/65 ได้แก่ โครงการ “Aspire อ่อนนุช”และ “ไลฟ์ พหลฯ” ซึ่งจะเข้ามาช่วยสร้างยอดขายในช่วงปลายปี 2565 นี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้

ขณะที่การโอนคอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จ และคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ ที่มีการโอนคอนโดมิเนียมใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ คอนโดมิเนียม “แอสปาย เอราวัณ ไพร์ม” (Aspire Erawan Prime),”ไลฟ์ สาทร เซียร์รา”(Life Sathorn Sierra) และล่าสุด “ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท”(RHYTHM Ekkamai Estate) ถือว่าลูกค้ามีการโอนโครงการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องของการปฏิเสธสินเชื่อ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆจะมีความผันผวน แต่ลูกค้าของบริษัทยังสามารถกู้สินเชื่อจากธนาคารได้ และสามารถโอนโครงการที่ลูกค้าจองได้ตามปกติ

โดยที่บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ของคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท โดยที่จะมีการทยอยโอนเข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกกว่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้ยอดโอนรวมของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 47,000 ล้านบาท จากครึ่งปีที่ผ่านมาทำไปได้แล้ว 25,300 ล้านบาท โดยที่ในช่วงไตรมาส 4/2565 ยอดโอนหลักจะมาจากโครงการ “ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท” มูลค่า 3,350 ล้านบาท  ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% และจะเริ่มโอนได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2565 เป็นต้นไป พร้อมตั้งเป้าปิดการขายโครงการดังกล่าวภายในระยะเวลา 2 ปี

“แม้โครงการ”ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท” จะเปิดการขายมาเปิดการขายมากว่า 3 ปี แต่ยอดขายยังค่อนข้างทำได้ไม่มากนักเพียง 30% มีเหตุผลมาจากการที่บริษัทได้มีการปิดการขายชั่วคราวในช่วงโควิด-19 และมีการรื้อถอนสำนักงานขายเพื่อก่อสร้างโครงการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การขายโครงการดังกล่าวทำได้ช้า แต่ปัจจุบันเมื่อโครงการแล้วเสร็จเริ่มเห็นลูกค้าเริ่ม walk-in เข้ามาชมโครงการ และสามารถทอยอยปิดการขายโครงการ”ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท” ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้จะเริ่มมียอดขายที่เพิ่มขึ้นตามมาจากลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ และพร้อมจัดงาน RHYTHM OF ART & NATURE ในวันที่ 24-25 กันยายน 2565นี้ พิเศษสำหรับลูกค้าลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้า รับส่วนลด On Top มูลค่า 200,000 บาท พร้อมฟรีทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท”นางสาวกมลทิพย์ กล่าวในที่สุด

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing