“ณวรางค์”เดินหน้าตุนที่ดินหนุนการเติบโต ต้นปี66 จ่อผุดคอนโดฯโลว์ไรส์ย่านลาดปลาเค้า

  • Post author:
You are currently viewing “ณวรางค์”เดินหน้าตุนที่ดินหนุนการเติบโต ต้นปี66 จ่อผุดคอนโดฯโลว์ไรส์ย่านลาดปลาเค้า
ณวรางค์ แอสเซทฯประกาศเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผน ล่าสุดซื้อที่ดินย่านลาดปลาเค้า จ่อผุดคอนโดฯโลว์ไรส์ต้นปี 66 ส่วนโครงการซูเปอร์ลักชัวรี่ย่านหลังสวนรอลุ้นไฟเขียว EIA ล่าสุดเตรียมเปิดขาย“ณ วรา พหลโยธิน 8″มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท คาดสิ้นปี 65 กวาดยอดขายได้ 50%
นายอภิภู พรหมโยธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ผ่านมาว่า ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ พัฒนาปีละประมาณ 1-2 โครงการ ซึ่งมีการซื้อที่ดินรองรับอัตราการเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ซื้อที่ดินย่านลาดปลาเค้า มา 1  แปลง พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีแผนนำมาพัฒนาในรูปแบบของคอนโดฯโลว์ไรส์ ในต้นปี 2566 นอกจากนี้ยังสนใจซื้อที่ดินทำเลใกล้โรงพยาบาลศิริราช,พระราม5,สุขุมวิท ตอนปลาย เพื่อพัฒนาคอนโดฯโลว์ไรส์เช่นกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

สำหรับความคืบหน้าในการนำที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ “เดอะ ปอร์ติโก หลังสวน” ในปัจจุบัน ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ปอร์ติโก พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ สูง 5 ชั้น บนที่ดิน 1 ไร่เศษ เป็นพื้นที่เช่าประมาณ 3,500 ตารางเมตร ราคาเช่าเฉลี่ยที่ 1,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน ปัจจุบันมีผู้เช่าสัดส่วน 95%  ซึ่งบริษัทฯได้ปรับแผนนำที่ดินแปลงดังกล่าวมาพัฒนาในรูปแบบของคอนโดฯระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ราคาไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท/ตารางเมตร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอผลการอนุมัติการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(Environmental Impact Assessment : EIA) ซึ่งหากเปิดขายได้ ก็จะถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจในการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน เนื่องจากเป็นที่ดิน 1 ในไม่กี่แปลงในซอยหลังสวนที่เป็น Free Hold

โดยแผนการดำเนินงานในปี 2565 ณวรางค์ แอสเซทฯยังมีความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงยังมุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ชูจุดเด่นเน้นความเป็นส่วนตัวในราคาที่จับต้องได้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า

ล่าสุดบริษัทฯเตรียมเปิดตัว โครงการ“ณ วรา พหลโยธิน 8″ตั้งอยู่บนพื้นที่ 0-1-95 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม Low Rise ระดับลักชัวรี่ สูง 8 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 40-116 ตารางเมตร(ตร.ม.)ราคาตั้งแต่ 6.6-15 ล้านบาท จำนวนเพียง 35 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 300 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2565 นี้ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้จองในงาน อาทิ ส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* ซึ่งคาดว่า หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทฯ ได้ประมาณ 50% ภายในสิ้นปี ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 มกราคม 2566 และคาดว่าสร้างแล้วเสร็จภายใน ปี 2567

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านพหล-อารีย์ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าทำเลพหล-อารีย์ ยังคงมีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยทำเลนี้ยังมีอุปสงค์ (Demand) เพิ่มขึ้น ในขณะที่อุปทาน (Supply) ลดลง บริษัทฯ จึงเล็งเห็นศักยภาพของทำเลนี้ เนื่องจากทางบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ ด้วยยอดขาย 40% ภายในวันเดียวในช่วง Pre-sales และแม้ทำเลนี้จะมีความยากในการพัฒนาโครงการ แต่ในความยากนั้นหากมองเป็นความท้าทาย ในฐานะนักพัฒนาโครงการ ทำให้ทางบริษัทฯ พัฒนาโครงการใหม่ และเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า บริษัทฯได้มัการจัดทำห้องชุดขนาดใหญ่หรือห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน เนื่องจากทำเลนี้ ยังมีจำนวนน้อยและราคาสูงจากขนาดห้องชุดที่ใหญ่ขึ้น ที่สำคัญย่านพหล-อารีย์ก็กำลังจะกลายเป็นที่ดินระดับ “RARE ITEM” เนื่องด้วยอุปทาน (Supply) ที่เกิดขึ้นไม่มากนัก

“ทำเลอารีย์ ถือว่าเป็นโซนน้องๆทองหล่อ ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 400,000-500,000 บาท/ตารางวา โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคบนทำเลนี้เป็นคนทำงานที่รักความสงบ ต้องการความสะดวกสบาย มีรสนิยม และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง และจากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ ผนวกกับศักยภาพทำเลย่านนี้ทำให้ ณวรางค์ แอสเซท ตัดสินใจเปิดโครงการใหม่ บนทำเลเดิมอีกครั้ง คือ เปิดตัวโครงการ ณ วรา พหลโยธิน 8 โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ Younger Generation Successor อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการ ที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่สามารถสะท้อนความหรูหรามีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ และยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัว   บนราคาที่สามารถจับต้องได้ ด้วยราคาเริ่มต้น 6.6 ล้านบาท คิดเป็นราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. ให้ความคุ้มค่าทั้งการเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง รวมถึงในแง่ของการลงทุนที่มองว่าโอกาสสร้างอัตราผลตอบแทนจากการเช่าสูงในย่านนี้อยู่ในระดับที่สูงถึง 4-5% ต่อปี” นายอภิภู กล่าว

ส่วน โครงการ ณ วรา เรสซิเดนซ์ และ โครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ นั้นปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่โครงการ ณ รีวา เจริญนคร ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 50% ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 2567

นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี
ด้าน นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจความต้องการของลูกค้าบนทำเล พหลฯ-อารีย์ ที่ต้องการห้องพักที่ขนาดใหญ่ มีความเป็นส่วนตัว สามารถอยู่อาศัยได้จริงในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งนับเป็นโจทย์สำคัญในการออกแบบโครงการ ณ วรา พหลโยธิน 8 ดังนั้นโครงการนี้จึงถูกออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “อิสระแห่งการใช้ชีวิตแบบใหม่..ที่ใช่คุณ” (LIFE WITH CONTEMPORARY TWIST) มาพร้อมกับการออกแบบสไตล์ “Modern Classic” ที่แสดงถึงที่มาและความคลาสสิก (Classic) ของทำเลย่านพหลโยธิน ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของข้าราชการ และขุนนางในสมัยก่อน มาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์โมเดิร์นของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอารีย์ไปในปัจจุบัน โดยสะท้อนแนวความคิดออกมาทางการใช้เส้นสายของ Classic Elements ที่มีการย่อมุมและเส้นบัวผนังอาคาร เพื่อช่วยเรื่องสัดส่วนในรูปด้าน อีกทั้งเป็นครีบและเสาในการบังแดดและฝนตามทิศที่ตั้ง ผสานกับเทคนิคการออกแบบสมัยใหม่ (MODERN) ในการใช้ความขัดแย้งกันของวัสดุ (Contrast Texture) ที่มีพื้นผิวสัมผัสแตกต่างกัน เช่น เหล็ก ปูน กระจก มาประกอบกันในสัดส่วนที่พอเหมาะเพื่อรูปด้านที่ลงตัว นอกจากนี้ ตัวรูปด้านหรือ façade ถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน โดยได้แรงบันดาลใจแบบ Modern Nordic Classicism ทำให้เส้นสายดูนุ่มนวล เรียบง่ายและดูหรูหรามีระดับ รวมถึงแสงและเงาที่เปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลาของวัน ทำให้เกิดมิติที่เปลี่ยนไปของอาคาร ซึ่งแนวความคิดในการออกแบบของงานสถาปัตยกรรมให้ลงตัวและสมดุล เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ในงานดีไซน์ของ ณวรางค์ แอสเซท ที่สะท้อนการออกแบบให้กลมกลืนไปกับวัฒนธรรมของทำเลนั้นๆ ได้อย่างมีมิติและสง่างาม
“ถนนพหลโยธิน” นับเป็นอีกหนึ่งถนนสายหลักทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ซึ่งถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา(พจน์ พหลโยธิน) หัวหน้าคณะราษฎร แต่เดิมย่านพหลโยธิน เป็นทำเลที่ตั้งของบ้านเรือนของข้าราชการและผู้ดีมีเงินในสมัยเก่า เป็นย่านที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของคนชนชั้นสูง โดยกลิ่นอายของเรื่องเล่าในอดีตทั้งหลายเหล่านี้ ถูกถ่ายทอดต่อกันมาจนถึงลูกหลาน ซึ่งปัจจุบันย่านพหลโยธิน นับเป็นไพร์มโลเคชั่นที่สำคัญของกรุงเทพฯ มากขึ้น ด้วยมีการเติบโตและขยายตัวทั้งด้านการคมนาคม การเชื่อมต่อรถไฟฟ้าและถนนหลายสาย รวมทั้งทางด่วนที่เพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางอันเร่งรีบ” นายองคฤทธิ์ กล่าวในที่สุด

 

 

 

 

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing