ผู้ประกอบการ-สถาบันการเงิน แห่ขนที่อยู่อาศัยใหม่-มือสอง อัดโปรแรง งาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42”

  • Post author:
You are currently viewing ผู้ประกอบการ-สถาบันการเงิน แห่ขนที่อยู่อาศัยใหม่-มือสอง อัดโปรแรง งาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42”
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด”ครั้งที่ 42 ซึ่งจัดโดยสมาคมอาคารชุดไทย,สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย หลังจากที่เจอวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนไม่สามารถจัดงานได้ถึง 3 ปี และการกลับมาจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นการรับกระแสการเปิดตัวของสถานที่จัดงาน คือศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่อั้นจากการจัดงานมาครั้งแล้วครั้งเล่า กลับมาจัดบูธ อัดโปรโมชั่นกันอย่างกระหน่ำ บางบริษัทที่ไม่เคยร่วมออกบูธงานมหกรรมบ้านฯเลย ก็มาร่วมงานในครั้งแรก อย่างเช่น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เพราะต้องการประกาศให้ผู้บริโภครับทราบว่า ทางเอสซีฯพร้อมที่จะรุกเดินหน้าการพัฒนาโครงการอย่างเต็มสูบแล้ว ขณะที่สถาบันการเงินอย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ นำสลากออมทรัพย์ และบ้านมือสอง ธอส. คุณภาพดี ทำเลเด่นกว่า 1,000 รายการทั่วประเทศ มาจำหน่าย พร้อมส่วนลดสูงสุด 50% ซึ่งพบว่าประชาชนทั่วไปให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร
ผู้ประกอบการแห่ขนบ้านคอนโดฯร่วมงานกว่าพันโครงการ
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 เปิดเผยว่า เป็นการกลับมาอีกครั้งของงานแสดงสินค้าที่อยู่อาศัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบ 3 ปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยทาง 3 สมาคมผู้จัดงานยังได้รับความร่วมมืออย่างดีทั้งจากผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน เอเจนซี และเหล่าแบรนด์สินค้าด้านอสังหาฯ และก่อสร้าง มากกว่า 200 ราย ให้การตอบรับเข้าร่วมเปิดบูธเต็มพื้นที่ โดยภายในงานฯ จะมีโครงการให้ผู้สนใจได้เลือกช้อปมากกว่า 1,000 โครงการ คิดเป็นคอนโดมิเนียม 32.8% บ้านเดี่ยว 19.7% ทาวน์เฮาส์ 16.4% และอื่นๆ ที่สำคัญ ผู้ประกอบการยังช่วยกันตรึงราคาสินค้า ไม่ปรับราคาตามอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน ทั้งยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษที่ดีที่สุดของปีมานำเสนอให้กับผู้เข้าชมงานครั้งนี้โดยเฉพาะ

“ทาง 3 สมาคมเชื่อว่างานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 ที่จัดขึ้น 4 วัน จะได้รับการตอบรับอย่างดี มีผู้มาร่วม งานราว 100,000 คน เพราะตลาดอสังหาฯ ในช่วงปลายปีนี้ได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวและกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้คาดการณ์ว่ามูลค่าซื้อขายภายในงานอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่ายอดขายสินค้าคิดเป็นจำนวนยูนิต จะเป็นโครงการแนวดิ่งราว 40% และแนวราบ 60% แต่หากคิดตามมูลค่าสินค้า จะได้เม็ดเงินจากโครงการแนวราบอยู่ที่ 60% และโครงการคอนโดมิเนียม 40%” นายชัยรัตน์ กล่าว

นายชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดเป็นงานที่เข้าถึงกลุ่มผู้สนใจทั่วประเทศ ไม่จำกัดแต่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น โดยราว 70% เป็นกลุ่ม Gen Y อายุตั้งแต่ 21-40 ปี ขณะที่สินค้าที่อยู่ในความสนใจมากที่สุดจะเป็นที่อยู่อาศัยที่มีราคาระหว่าง 1-3 ล้านบาท คิดเป็น 56% และ 3-4 ล้านบาท ที่ 32% นอกจากนี้ ผู้ที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในงาน 80% เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าปัจจัยที่จะช่วยในการตัดสินใจซื้อได้ดีที่สุดสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาเดินในงานฯ ก็คือ ราคาของสินค้าที่เหมาะสมคุ้มค่า ซึ่งงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ห้ามพลาด เพราะไม่เพียงแต่ปัจจุบันยังมีมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV)  กู้ได้ 100% ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง และมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองซึ่งจะมีจนถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น แต่การที่ผู้ประกอบการพร้อมใจกันตรึงราคาสินค้าภายในงานฯ ไม่ขึ้นตามค่าแรง ราคาวัสดุ หรือแม้แต่อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย จึงช่วยให้ ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าที่ชอบในราคาที่ใช่ได้อย่างสบายใจ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทองสุดท้ายของปีนี้

นายณัฎฐกิตติ์ ศิริรัตน์
SCร่วมออกบูธครั้งแรก ประกาศการรับรู้แบรนด์ พร้อมรุกตลาดแนวราบเต็บสูบ
นายณัฎฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC  กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯนำโครงการของ SC ร่วมออกบูธงานดังกล่าว เพราะต้องการประกาศในการกลับมารุกตลาดที่อยู่อาศัยอย่างเต็มที่หลังจากวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย อีกทั้งต้องการให้ผู้บริโภครู้จักบริษัทมากขึ้น และเป็นการเตรียมก้าวสู่ปีที่ 20 ของ SC ในปี 2566 อีกด้วย โดยในงานฯบริษัทได้นำบ้านพร้อมอยู่ทั้งโครงการใหม่และที่จะเปิดตัวใหม่รวมกว่า 40 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นบ้านระดับราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท และเป็นบริษัทฯที่มีบูธขนาดใหญ่ที่สุด รวม 22 บูธ พื้นที่ 200 ตารางเมตร พร้อมกับจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดด้วย โดยบริษัทวางเป้าหมายยอดขายภายในงานไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4/2565 บริษัทฯมีแผนเปิดตัวแนวราบใหม่พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อีกจำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการระดับบน ระดับราคาตั้งแต่ 3-80 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมนี้ (เปิดตัวสัปดาห์ละ 1-2 โครงการ) โดยไตรมาส 4/2565 นี้ ถือว่าเป็นช่วงที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด เนื่องจากมีบางโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวมาในช่วงนี้ เบื้องต้นวางเป้าหมายจะมียอดขายในวันเปิดขายไว้ที่ประมาณ 200 ล้านบาทต่อโครงการ (10 โครงการ รวมยอดขาย 2,000 ล้านบาท ในวันแรกที่เปิดขาย)

นายณัฎฐกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการและเห็นชอบร่างกฎกระทรวง การได้มาซึ่งที่ดินใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ให้สิทธิ์ซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม ดังนั้นในปี 2566 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ จากปี 2565 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 27 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 42,000 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการเปิดตัวโครงการระดับลักชัวรี่ โดยในจำนวนโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีหน้า จะเป็นบ้านแบรนด์ใหม่ ที่เจาะตลาดในกลุ่มระดับราคา 50 ล้านบาทขึ้นไปมากขึ้น ในทำเลโยธินพัฒนา และพัฒนาการ 32 เป็นต้น

ในปีนี้บริษัทมองว่ายอดขาย ทั้งปีนี้น่าจะมีโอกาสเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 22,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทมียอดขายเฉพาะโครงการแนวราบแล้วที่ 14,700 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 90% ของเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบทั้งปีไว้ที่ 15,500 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ยังคงมั่นใจจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 22,000 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปงบผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2565 ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 นี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มระดับบนยังคงมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการก่อสร้างบ้านที่ไม่ค่อยทันต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากโครงการของบริษัทฯจะเน้นบ้านพร้อมขาย หรือที่ใกล้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล
LALIN ขนกว่า 60 โครงการ อัดแคมเปญมอบส่วนลด แจก I Phone 14  Pro max
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN กล่าวถึงทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565ว่า จะดีที่สุดของปี เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มีการเปิดประเทศตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่น ประกอบกับมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การ LTV  และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองที่จะหมดพร้อมกันในปลายปี 2565 นี้ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับขึ้นไปจนถึงปี 2566  จะเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคให้เร็วขึ้น

ด้านภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 มองว่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นจากปีนี้ แต่จะค่อยๆ ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์จะล้อตามเศรษฐกิจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐขยายระยะเวลามาตรการต่างๆ ออกไป จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคด้วย ส่วนความกังวลในปีหน้า คือ ปัจจัยภายนอกที่ยากต่อการควบคุม เช่น เศรษฐกิจโลก และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่จบ เพราะ GDP ประเทศไทยต้องพึ่งพิงการส่งออกถึง 60%  ดังนั้นการลงทุนในปีหน้าจึงต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง ทั้งแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ,สต๊อกสินค้าในพอร์ตไม่ให้เกิดการโอเวอร์ รวมถึงกระแสเงินสด อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ตลอดเวลา แต่ความสามารถในการขอกู้ยืมปัจจุบันที่ลดลง เป็นเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากผลกระทบของโควิด-19

ส่วนการที่ ครม.อนุมัติให้ต่างชาติที่มีรายได้สูง 4 กลุ่ม มีจำนวนเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในกิจการหรือซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น จะได้สิทธิวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa 10 ปี และจะได้สิทธิขอถือครองที่ดิน เพื่ออยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่ (400 ตารางวา) ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองนั้น ประเทศโดยรวมจะได้รับประโยชน์ จะได้เงินมาช่วยหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้ประโยชน์ด้วย

ล่าสุดบริษัทฯได้นำโครงการในระดับราคา 2-7 ล้านบาท รวมกว่า 60 โครงการ ร่วมงาน”มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42” โดยผู้ที่จองบ้านภายในวันที่ 27-30 ตุลาคม 2565 และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 จะรับฟรี I Phone 14  Pro max พร้อมรับเฟอร์นิเจอร์ หรือส่วนลดสูงสุดมูลค่า 500,000 บาท* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)  โดยวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ภายในช่วง 4 วัน ไว้ที่ประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งนอกจากการร่วมออกบูธในครั้งนี้แล้ว บริษัทยังมีการเจรจากับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตร เพื่อสนับสนุนการปล่อยกู้ ตรึงดอกเบี้ยให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อกระตุ้นยอดขายของ LALIN ด้วย

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจยอดขายในปี 2565 จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 8,200 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน) บริษัทมียอดขายแล้วที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 75% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี ส่งผลให้บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือล่าสุดที่ 1,300-1,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบต่อเนื่อง ดังนั้น จึงมั่นใจยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 7,000 ล้านบาท โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อสรุปงบไตรมาส 3/2565 ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

นางสาวอุมาพร ธัญลักษณ์ภาคย์
SENA ส่ง 30 โครงการ กระตุ้นยอดขาย จอง 1,999 บาท ลุ้นรับทองคำรวม 100 รางวัล
นางสาวอุมาพร ธัญลักษณ์ภาคย์  กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ SENA เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้มการฟื้นตัวยังไม่เห็นภาพชัดเจนมากนัก ประกอบกับเศรษฐกิจ ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามความต้องการซื้อบ้านและที่อยู่อาศัยช่วงระดับราคา 1-3 ล้านบาทยังคงได้ความนิยมอย่างต่อเนื่องและเป็นเซกเมนต์ที่มีความต้องการของตลาดที่ยังไปได้ โดยประเมินว่าตลาดอสังหาฯในปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อยประมาณ 5-10% เป็นผลพวงมาจากภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวม อีกนัยหนึ่งรายได้หรือเงินเดือนของพนักงานยังปรับขึ้นไม่ทันต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ รวมถึงวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นทำให้กำลังซื้อยังไม่เพิ่มมาก
แต่อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาส 4/2565  เป็นจังหวะและโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่มีความพร้อมในการซื้อที่อยู่อาศัย ทางเสนาจึงจัดแคมเปญ “SENA EASY READY TO MOVE” คัดสรรบ้านและคอนโดฯพร้อมเข้าอยู่ทำเลคุณภาพทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเข้าร่วมงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42” รวมทั้งสิ้น 30 โครงการ มอบโปรโมชันพิเศษ SENA EASY DEALS ลุ้นรับทองคำ 100 รางวัล มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท Easy BOOK : จอง 1,999 บาท*Easy PACKAGE : ผ่อนต่ำ ล้านละ 3,500 บาท* พร้อมอยู่ แต่งครบ ฟรีแอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า* Easy PACKAGE : Gift Voucher 7-Eleven กิน ช้อป ใช้ ฟรี มูลค่า 5,000 บาท  จองและโอนตั้งแต่วันนี้  – 31 ธันวาคม 2565
SPALI อัดโปรฯ แรง “แจกจริง รับจริง สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า”        
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ยกทัพโครงการบ้านและคอนมิเนียม สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ อัดโปรโมชันเด็ด ศุภาลัย คว้าให้ไว อย่าปล่อยให้หลุดมือ” สำหรับลูกค้าที่จองภายในงาน ราคาเริ่มเพียง 1 ล้านกว่าบาท รับส่วนลดทันที ณ วันโอนฯ 2% สูงสุดถึง 800,000 บาท ฟรี! ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่ามิเตอร์น้ำ – ไฟ* และค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก รวมถึงข้อเสนอพิเศษ กู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากนี้ยังรับฟรี! สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า NINEBOT By Segway Kickscooter รุ่น F25 มูลค่า 20,900 บาท
นายสุนทร สถาพร
“สถาพร เอสเตท” หอบบ้านคอนโดฯ จัดโปรแรง 3 ต่อ ลดสูงสุดถึง 1.7 ล้านบาท
นายสุนทร สถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE)  กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ขนทัพบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม บนทำเลคุณภาพ ร่วมออกบูธภายในงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42” พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ 3 ต่อ เพียงจองภายในงาน รับเซอร์ไพรส์ต่อที่ 1 กับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 1.7 ล้านบาท*, เซอร์ไพรส์ต่อที่ 2 กับสิทธิ์การผ่อนธนาคาร 0 บาท นาน 12 เดือน หรือ ฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน* และเซอร์ไพรส์ต่อที่ 3 กับโทรศัพท์มือถือ iPhone 14 สำหรับลูกค้าที่สนใจจองโครงการคุณภาพทั้ง 5 ทำเล ได้แก่

โครงการ “เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส” (THE CROWN Residences) คอนโดมิเนียมไฮไรส์ FREEHOLD ระดับลักชัวรี่ ในราคาสุดพิเศษ 1ห้องนอน  เริ่มต้น 6 -10  ล้านบาท* พร้อมรับส่วนลดพิเศษเพิ่มถึง 200,000 บาท* เฉพาะจองภายในงาน จำนวน 10 ยูนิตเท่านั้น

-โครงการ “เดอะ เชดด์ สาทร 1” (The SHADE Sathon 1) คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ใจกลางเมืองย่านสาทร – พระราม 4  ในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษ 2.99 ล้านบาท* พิเศษเฉพาะจองภายในงาน จำนวน 10 ยูนิตเท่านั้น

โครงการ “อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล” (ETERNITY TOWN PRIMROSE Vacharaphol) บ้าน + ออฟฟิศ  3 ชั้น สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 86 ยูนิต ติดถนนใหญ่ บนทำเลศักยภาพย่านวัชรพล – สายไหม ในราคาเริ่มต้น
4.99 – 8 ล้านบาท

โครงการ ”ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต-วงแหวน (THE ETERNITY GREENWOOD Rangsit-Wongwaen) โครงการบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ ติดถนนใหญ่ ใจกลางย่านรังสิต ใกล้วงแหวนตะวันออก ในราคาเริ่มต้น 5.99 – 12 ล้านบาท*

-โครงการ “ดิ อิเธอร์นิตี้ โกร์ฟ สายไหม-พหลฯ” (THE ETERNITY GROVE Saimai-Phahol) โครงการบ้านดีไซน์ใหม่ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 92 ยูนิต บนสุดยอดทำเลติดถนนสายไหม ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท*

“แพทโก้ กรุ๊ป” นำทัพ “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93”อัดแคมเปญ “End Year Save x 2” 
ดร.นวณัฐ  สุขะมงคล รองประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป และบริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด  ผู้ดำเนินโครงการ “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93” กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จึงนำโครงการ “เธอ ลาดพร้าว 93” ออกบูธงาน “มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 42” พร้อมทั้งรับสิทธพิเศษสุดๆ กับแคมเปญ “End Year Save x 2” โดยมีการ จับมือกับ Alexander & James แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สุดหรูจากประเทศอังกฤษ มอบแพ็คเกจตกแต่งบ้าน x2 จากปกติมูลค่าสูงสุด 2 ล้านบาท ดับเบิ้ล On Top เพิ่มเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 4 ล้านบาท เฉพาะยูนิตพิเศษและภายในงานนี้เท่านั้น โดยตั้งเป้ายอดขายภายในงานไว้ที่ 100 ล้านบาท

และพิเศษสุดๆ ทางโครงการมีการเปิดขายแปลงพิเศษโซนใหม่ ใกล้สวนสาธารณะ จำนวน 16 ยูนิต ซึ่งเป็นโซนพิเศษที่ดีสุดของโครงการ เนื่องจากเป็นโซนที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และใกล้สวนสาธารณะมากที่สุด ในราคาพิเศษเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท  มีพื้นที่ใช้สอย  221-284 ตารางเมตร ขนาด 3 – 4 ห้องนอน ขนาด  4 – 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ถึง 3 คัน

อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการ “เธอ ลาดพร้าว 93” ทาวน์โฮม Modern Luxury 3 ชั้นครึ่ง  ขณะนี้มีการปิดยอดขายเฟส 1 และเฟส 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถปิดยอดขายได้มูลค่า กว่า 500 ล้านบาท

ธอส. ขนโปรโมชั่นทางการเงิน สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.60% ต่อปี
 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)  นำผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคาร นำโดย สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ปีที่ 1 เท่ากับMRR-3.55% (ปัจจุบันเท่ากับ 2.60%) ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.917% (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส.ในปัจจุบันเท่ากับ6.150% ต่อปี) ผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 40 ปี ให้กู้ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์หลัก อาทิ ซื้อบ้าน/คอนโดมิเนียม ปลูกสร้าง
และรีไฟแนนซ์ หลักประกันในการยื่นคำขอกู้ต้องอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จองสิทธิ์ภายในงาน ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2565 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565

สลากออมทรัพย์ ธอส. ให้ผลตอบแทนดีโอกาสถูกรางวัลสูง ประกอบด้วย

ชุดขาลเพิ่มพูน หน่วยละ 1,000 บาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.30% ต่อปี และบวกผลตอบแทนผันแปรตามคุณภาพสินเชื่อ 0.70% ต่อปี รวมรับผลตอบแทนสูงสุด 1% ต่อปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) พร้อมโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 รางวัลละ 2 ล้านบาท

-ชุดต่อเงิน ต่อทอง หน่วยละ 10,000 บาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.50% ต่อปี พร้อมโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 เป็นสลากชุดต่อเงิน ต่อทอง มูลค่า 1 ล้านบาท และรางวัลเลขท้าย 1 ตัว

-ชุดวิมานเมฆ Plus หน่วยละ 1 ล้านบาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 1.45% ต่อปี และโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท

-ชุดเกล็ดดาว Plus หน่วยละ 5,000 บาท ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.65% ต่อปี โอกาสถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จองสิทธิ์ภายในงานและซื้อสลากระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2565 ณ สาขาในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)

บ้านมือสอง ธอส. คุณภาพดี ทำเลเด่นกว่า 1,000 รายการทั่วประเทศ จำหน่ายพร้อมส่วนลดสูงสุด 50% จากราคาปกติ ราคาขายต่ำสุดเพียง 125,000 บาท ได้แก่ ห้องชุด ชั้นที่ 3 จาก 4 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 27.54 ตารางเมตร ในโครงการมีทรัพย์เรซิเดนซ์ เขตหนองแขม กรุงเทพฯ พร้อมสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นานสูงสุดถึง 24 เดือน ต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ และทำสัญญามัดจำการซื้อทรัพย์ภายในงานรายการละ 1,000 บาท ทั้งนี้ ลูกค้าที่ใช้บริการผลิตภัณฑ์การเงินตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด ได้รับของสมนาคุณฟรีอีกมากมาย

 

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing