บิ๊กเสนาฯเผยภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 66 ยังมีความท้าทายจากปัจจัยลบ หวั่นความสามารถในการกู้สินเชื่อผู้บริโภคลดน้อยลง ด้านผู้ประกอบการพัฒนาโครงการอย่างระวัง และรักษาสภาพคล่องเงินสดต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมยกเครื่อง 3 ระดับขั้นสุดสู่ธุรกิจองค์รวมแบบยั่งยืน ผ่านโรดแมป Core Business ลั่นพลิกฟื้น “SENA J Property” อุ้มข้ามวิกฤติ พร้อมปั้นบิสซิเนสใหม่สู่เมกะเทรนด์โลก ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ – ธุรกิจบ้านมือสอง – ศูนย์เนอร์สซิ่งโฮม (Nursing Home) -ธุรกิจนายหน้าอสังหาฯ บุกเบิกตลาดบ้าน Niche High End 15 – 20 ล้านบาท วางหมุดหมายปีละ 1 -2 โครงการ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2566 ว่ามีความท้าทายอยู่ค่อนข้างมาก จากปัจจัยสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สิ้นสุดลงไป ทั้งการไม่ขยายมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ,การขยายการผ่อนคลายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนที่อยู่อาศัยที่ยังไม่แน่ชัดว่าทางภาครัฐจะต่อมาตการหรือไม่ แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัว แต่รายได้ของคนในประเทศยังไม่มีการเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง และการขอสินเชื่อสถาบันการเงินยากมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทายในปีหน้าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องสภาพคล่องของกระแสเงินสดที่ต้องมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของบริษัทยังอยู่ระหว่างการทำแผนการดำเนินงานในปี 2566 อยู่ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
“ทิศทางตลาดอสังหาฯปี 2566 หาข่าวดีค่อนข้างยาก ซึ่งมีนักเศรษฐศาสตร์ทำนายว่า ขณะนี้ได้อยู่ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 3 แล้ว ที่ต่อสู้กันด้วยการค้า ซึ่งโลกเปลี่ยนไปเร็ว อาจจะมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายเสมอ ก็หวังว่าเศรษฐกิจคงไม่แย่ไปกว่าปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่ากังวลคือ สินเชื่อเงินกู้ เพราะความสามารถในการกู้ของประชาชนลดลง เนื่องจากไม่มีการขยายต่อมาตรการ LTV แล้ว ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ประกอบการก็ยังเป็นปีที่เปิดตัวโครงการได้ แต่ก็เฝ้าดูอย่างระมัดระวังด้วยเช่นกัน” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯได้มีการปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจแบบองค์รวม โดยวางเป้าหมายของ “SENA Group” พร้อมเป็น “แม่ยก” ผลักดันธุรกิจในเครือให้ครอบคลุม เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านแกนหลัก 3 แม่ยก 1.ยกระดับองค์กรให้ก้าวทันโลกแห่งอนาคต 2.ยกระดับทุกธุรกิจในเครือให้เติบโตอย่างยั่งยืน และ3.ยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกมิติอย่างยั่งยืน ซึ่งพร้อมเตรียมแผนการดำเนินงานภายใต้คอนเซ็ปต์ 3 แม่ยก เพื่อยกระดับเป้าหมายให้บรรลุและเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ดังนี้
1.ยกจากจุดเริ่มต้น “SENA Group” ดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวเฮาส์ อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮมและอาคารชุด ธุรกิจเช่า ได้แก่ อพาร์ตเมนต์ให้เช่า ธุรกิจอาคารสำนักงาน ธุรกิจสนามกอล์ฟ ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจบริหารงานนิติบุคคล ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่พักอาศัย เป็นต้น พร้อมต่อยอดธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ความท้าทายของผู้คนในสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยความละเอียดใส่ใจ และจริงจังในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน “To be the most trusted partner in our customer’s every life stage.”เสนาฯเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือไว้วางใจสูงสุดในทุกช่วงชีวิตของลูกค้าบริษัทฯ
2.ยกสถานการณ์ปัจจุบัน “SENA Group” วางธุรกิจหลัก (Core Business) เพื่อให้ธุรกิจสามารถเชื่อมโยงและสอดรับกับบริษัทในเครือ ปัจจุบันทาง “SENA Group” ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของทั้งกลุ่มบริษัท เพื่อให้ทุกบริษัทมีความแข็งแกร่ง เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งทุกบริษัทในเครือต้องมีการปรับวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร ทั้งนี้ ทางบริษัท เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ SENAJ จะเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับกลุ่มเฉพาะ(Niche High End market) ในกลุ่มลูกค้าระดับสูง รวมถึงผลักดันการขยายบริการด้านที่อยู่อาศัยอย่างครอบคลุมและคุ้มค่ามากที่สุด
โดยวางเป้าหมายและโจทย์สำคัญมุ่งสู่ธุรกิจเมกะเทรนด์ (New Mega Trends) ของโลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยความละเอียดใส่ใจ และจริงจังในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน “To be the ultimate real estate multi-services company.” เสนาเจคือสุดยอดของบริษัทผู้ให้บริการอย่างครอบคลุมครบทุกด้านของอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน มองว่าเทรนด์การลงทุนในธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยทาง SENAJ พุ่งเป้าไปธุรกิจที่ตอบรับเมกะเทรนด์ (Mega Trend) ทั้งความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจที่เป็นมิตรต่อโลก (Sustainability) ,สังคม, สุขภาพ, สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี เป็นต้น
3.ยกระดับเพื่ออนาคต “SENA Group” พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ความยั่งยืน โดยทาง SENAJ ตั้งเป้าโตแบบก้าวกระโดด พร้อมเป็นหัวหอกหลักการดำเนินขยายการลงทุนเพิ่มในธุรกิจตามเมกะเทรนด์โลก ประกอบด้วย
(1.)ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน ขยายฐานการพัฒนาโครงการบ้าน Niche High End หรือระดับไฮเอนด์ มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การเป็น LIFELONG TRUSTED PARTNER ระดับราคา 15 -20 ล้านบาท ย่านชานเมือง จำนวนยูนิตไม่มาก ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไป หากเป็นโฮมออฟฟิศ ก็จะพัฒนาในย่านใจกลางเมือง โดยวางแผนเปิดปีละ 1- 2 โครงการ นอกจากนี้ ได้ร่วมทุนกับพันธมิตร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน ซึ่งจะเป็นภาพการพัฒนาโครงการในรูปแบบดังกล่าวได้ในปี 2566 ซึ่งดำเนินการในนาม SENA ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง และ SENAJ เจาะลูกค้าระดับกลาง-บน
(2.)ธุรกิจบริหารนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินแบบครบวงจร (Property Management) โดยปัจจุบันมีโครงการที่รับบริหารนิติบุคคลโครงการ 97 โครงการ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นสู่ Top 5 ครอบคลุมโครงการรับบริหารรวม 168 โครงการ ซึ่งได้ดึง นายเหรียญชัย เบญจาศุภวรรณ จาก บริษัท เอซีอาร์ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ ACR Management (ACRM) เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ วิคตอรี่ แมเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด เพื่อบริหารงานในธุรกิจดังกล่าว
(3.)สถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว (Nursing Home) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับทางบริษัทญี่ปุ่นพัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งได้ดึง นายจตุรงค์ สัจจะนรพันธ์ จากบริษัท รสา เว็นเจอร์ส จำกัด มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เจ เฮลแคร์ จำกัด และดึงนางสาวธิดารัตน์ พัฒน์ทอง เดิมดูธุรกิจพื้นที่ให้เช่า ห้างสรรพสินค้า เสนาเฟสท์ เจริญนคร 16 มาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เจ เฮลแคร์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว
(4.)ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 2 แห่ง คือ ตลาดแพรกษา และ สำเพ็ง 2 ซึ่งบริหารงานโดย นายจตุรงค์ สัจจะนรพันธ์
(5.)ธุรกิจขายบ้านมือสอง โดยทางบริษัท เสนา ชัวร์ คัดสรร รับซื้อทรัพย์บ้านมือสองและนำมาปรับปรุงตกแต่งให้อยู่ในสภาพที่ดีเพิ่มมูลค่าและพร้อมขาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ราคาจับต้องได้ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีสู่ Top 5 ผู้นำตลาดบ้านมือสอง โดยได้ดึงนางกมลภัทร แสวงกิจ จากดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เข้ามาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ชัวร์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว
(6.)ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยทาง SENAJ มีแผนเข้าซื้อหุ้นบริษัทย่อยของ SENA “แอคคิวท์ เรียลตี้” เพื่อให้บริการนายหน้าขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมบริหารการขายโครงการ และให้บริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการด้านการเช่าอสังหาฯ ภายในกลุ่มของ SENA และ SENAJ เป็นต้น ซึ่งบริหารงานโดย นางกมลภัทร แสวงกิจ และ นายปรีชา ศุภปีติพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอคคิวท์ เรียลตี้ จำกัด
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนธุรกิจครั้งสำคัญนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจหลักและเกื้อหนุนธุรกิจในเครือ นับเป็นการส่งเสริมจุดแข็งและสร้างความโดดเด่นทางการแข่งขันในโลกธุรกิจ รวมถึงการคิดละเอียดและใส่ใจในทุกมิติทำให้ “SENA Group” และบริษัทในเครือ พร้อมยกระดับการเติบโตให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปได้ในอนาคต
“การปรับโครงสร้างธุรกิจของ SENAJ จะเน้นไปที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการมากขึ้น เพื่อเข้ามาเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจใน SENA Group ประกอบกับมีการใช้เงินลงทุนในการลงทุนที่ไม่มาก เหมือนกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับธุรกิจ ซึ่งตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะมีรายได้ประจำเข้ามาในสัดส่วน 30% และคาดว่าจะสามารถทำให้ SENAJ พลิกกลับมามีกำไรได้ภายใน 1-2 ปี” ผศ.ดร.เกษรา กล่าวในที่สุด