วัน เพลส เอสเตทฯจ่อหาที่ดินริมทะเลแปลงใหม่พัฒนาโครงการต่อเนื่อง เน้นรูปแบบให้ผลตอบแทนการลงทุนระยะยาว ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้าน“คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า”ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% พร้อมจ่ายผลตอบแทนการลงทุนให้กับเจ้าของร่วมในโครงการเมื่อไตรมาสแรกของปีปฏิทินบัญชี เป็นที่เรียบร้อย เตรียมแผนโรดโชว์และตั้งเอเจนซี่บุกตลาดจีน หลังประกาศเปิดประเทศ มั่นใจกลุ่มทุนสีเทาไม่มีผลกระทบ คาดปิดการขายทั้งโครงการภายในปลายปี 66

นายสุวิชัย เจนธนอรรถกิจ ประธานกรรมการบริหาร และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน เพลส เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า” (CARAPACE Huahin-Khaotao) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการ “คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า”แล้ว ยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯริมทะเลในหัวเมืองท่องเที่ยวอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่าปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป นิยมลงทุนในโครงการที่เน้นการให้ผลตอบแทนการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว (Passive Income) ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล และทำเลที่ดินในการพัฒนาว่าจะเป็นพื้นที่เดิมหรือหัวเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดอื่น จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในขณะนี้
ส่วนความคืบหน้าโครงการ“คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า”หลังจากที่จ่ายผลตอบแทนการลงทุนให้กับเจ้าของร่วมในโครงการเมื่อไตรมาสแรกของปีปฏิทินบัญชี (กันยายน–พฤศจิกายน 2565) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการก่อสร้างได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของโซนห้องชุดสุดหรู Rare Item ติดทะเลเขาเต่า ให้ลูกค้าได้ทั้งทรัพย์สิน ได้ทั้งพักผ่อน และยังได้รับ Passive income ซึ่งการันตีผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง 5%* นาน 5 ปี* นานต่อเนื่องถึง 15 ปี* นับเป็นการฉีกกฎการลงทุนแบบเดิม ๆ ด้วยการลงทุนรูปแบบใหม่ ที่ให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คอนโดฯ และปล่อยเช่าได้แบบไม่ต้องดูแลเอง ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้ ถือเป็นทางเลือกการลงทุนก่อนเกษียณ เพื่อรับ Passive income แบบไม่ต้องเสี่ยง เงินเดือนอย่างเดียวไม่อาจทำให้ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างสบาย เพราะฉะนั้นควรมองหาการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังเกษียณ ตั้งแต่วัย 30 ปี เป็นต้นไป
โครงการ “คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า” พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 10 ไร่ แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส มีทั้งสิ้นจำนวน 6 อาคาร รวม 532 ยูนิต พื้นที่แบ่งเป็น โซน A สำหรับพักอาศัย จำนวน 126 ยูนิต ประกอบด้วยอาคารสูง 4 ชั้น 3 อาคาร พร้อมด้วยส่วนของ FACILITIES ขนาดใหญ่ ปัจจุบันเหลือขายเพียง 20 ยูนิต และโซน B สำหรับลงทุนและรับผลตอบแทนระยะยาว ในรูปแบบของโรงแรม จำนวน 406 ยูนิต ประกอบด้วยอาคารสูง 7 ชั้น 2 อาคาร และ 8 ชั้น 1 อาคาร ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.5-4.5 ล้านบาท หากพักอาศัยต่อคืนราคาเริ่มต้นที่ 2,500-3,500 บาท โดยผู้ลงทุนรับผลตอบแทนนาน 15 ปีการันตีผลกำไร 5% นาน 5 ปี เป็นโครงการที่ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทุน และสร้างผลตอบแทนระยะยาว (Passive Income) ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยในสัดส่วนประมาณ 90% และที่เหลืออีกประมาณ 10% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้
โดยเหตุผลที่ทำให้การวางแผนการลงทุนในรูปแบบ Investment Property กับโครงการคาราเพซ หัวหิน- เขาเต่า ดีกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่นนั้น พอจะสรุปได้คร่าวๆ 7 ข้อเด่นด้วยกัน ได้แก่
1.ผู้ลงทุนได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด(โฉนด) แบบ Freeholdและเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ลงทุนไป
2.สามารถขายต่อหรือเปลี่ยนมือได้ตลอดเวลา ส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้
3.เป็นการลงทุนที่มีความแน่นอน มั่นคงกว่าหุ้นและกองทุน โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องความเสียหายของมูลค่าการลงทุน
4.บริหารโดยมืออาชีพเชนโรงแรมชื่อดังระดับโลก Best Western
5.ให้ผลตอบแทนระยะยาว 15 ปี (Passive Income) ซึ่งมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในปัจจุบัน
6.สามารถเก็งกำไรได้ดี สร้าง Capital Gain อย่างต่อเนื่องด้วยทำเลที่ตั้งเด่น กับคอนเซ็ปต์โครงการที่ชัดเจน พร้อมผลตอบแทนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง กับการบริหารโดยเชนระดับโลก
7.ได้สิทธิ์พักฟรี 15 คืน ต่อปี
“มองว่าผู้ลงทุนควรลองเปิดใจเปลี่ยนการลงทุนที่มีความเสี่ยงแบบเดิม ๆ มาเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่จับต้องได้และมีความเสี่ยงน้อย เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ทางบริษัท จึงได้มอบสิทธิพิเศษดีๆ สำหรับลูกค้าที่วางแผนลงทุนเพื่อ Early Retire กับ โครงการ“คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า” คอนโดฯทางเลือกสำหรับการวางแผนให้สบาย ก่อน Early Retire อย่างมีคุณภาพ รีบตัดสินใจจองด่วนวันนี้ เสมือนหนึ่งได้เป็นเจ้าของโรงแรม 4+ ดาว พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษสุด ทุกห้อง ทุกชั้น ราคาเดียว 3.5 ล้านบาท* รับฟรี! เฟอร์นิเจอร์ ฟรี! ค่าส่วนกลาง 5 ปี* การันตี Yield 5% นาน 5 ปี รับผลตอบแทนต่อเนื่องนาน 15 ปี* ไม่ต้องรับความเสี่ยงด้านการลงทุน โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด” นายสุวิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศแล้ว บริษัทฯยังมีแผนที่จะนำโครงการไปโรดโชว์เพื่อแนะนำโครงการ รวมไปถึงการแต่งตั้งเอเจนซี่เพื่อทำการขายโครงการด้วยเช่นกัน เชื่อว่าคดีกลุ่มทุนจีนสีเทาจะไม่มีผลกระทบกับโครงการอย่างแน่นอน เนื่องจากมีความได้เปรียบที่เปิดเป็นโรงแรม และมีหลักฐานในการจ่ายผลตอบแทนอย่างชัดเจน