คูน เอสเตทฯจับมือ AISL งัดที่ดินข้างโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ปั้น ไฮด์พาร์ค การ์เด้น บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ติดโรงเรียนนานาชาติ มูลค่าโครงการกว่า 6,500 ล้านบาท เจาะกลุ่มครอบครัวกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทย–ต่างชาติ พร้อมเปิดขายไตรมาส 2/66 แย้มแผนจ่อเปิดคอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรึ่ปีนี้อีก 1 โครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกที่ดิน
นายณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท คูน เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดบ้านระดับลักชัวรี่ทำเลโซนเหนือของกรุงเทพฯว่า จากข้อมูลของบริษัท ซีบีอาร์อี(ประเทศไทย)จำกัด พบว่า ในทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 มีอัตราส่วนยอดขายอยู่ที่ 79% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของยอดขายบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ในทำเลอื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 67% ทั้งนี้ เนื่องมาจากทำเลกรุงเทพฯตอนเหนือมีที่ดินที่เหมาะสมในการพัฒนาจำนวนจำกัด ทำให้มีซัพพลายออกมาไม่มากนัก จึงทำให้โครงการบ้านเดี่ยวที่เปิดในทำเลนี้สามารถสร้างยอดขายได้เป็นลำดับต้นๆ และมียอดขายสะสมที่สูง เมื่อเทียบกับทำเลอื่นในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายบ้านหรูมากกว่า 30 ล้านบาทในโซนเหนือของกรุงเทพฯมองว่ามีเพียงโครงการขนาดเล็ก โครงการละ 5-10 ยูนิตเท่านั้น ในขณะที่ดีมานด์ยังมีความต้องการอีกมาก
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือ กับ Asia International School Limited (AISL) ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 10 แห่ง เพื่อนำที่ดินส่วนหนึ่งของโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ย่านดอนเมือง จำนวน 52 ไร่ จากทั้งหมด 172 ไร่ (เป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนของโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ 120 ไร่) เพื่อพัฒนาโครงการ “ไฮด์พาร์ค การ์เด้น“ในรูปแบบของบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ขนาด 73-116 ตารางวา ราคา 35-80 ล้าบาท มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆแรก พัฒนาบนพื้นที่ 25 ไร่ จำนวน 61 ยูนิต โดยจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 2/2566 นี้ เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะจากต่างจังหวัด รวมไปถึงชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ที่นิยมส่งลูกหลานมาเรียนเมืองไทย ต่างมีความต้องการบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียน เพื่อสะดวกในการเดินทาง โดยชูจุดเด่นบ้านหรูติดโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ หวังปั้นเป็น คอมมิวนิตี้ต้นแบบเพื่อการศึกษาและการใช้ชีวิตอย่างลงตัว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่หลากหลาย ซึ่งในอนาคตหวังจะนำโมเดลนี้ขยายไปยังโลเคชั่นอื่นๆ ต่อไป ปัจจุบันราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวปรับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 80,000-100,000 บาท/ตารางวา คาดว่าในเฟสแรกจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้
ส่วนเฟส2 คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2567 ซึ่งคงต้องรอดูกระแสความต้องการของลูดค้าก่อน แต่จากข้อมูลพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการบ้านขนาดใหญ่ ซึ่งคงต้องมีย้านขนาดใหญ่มากกว่าเฟสแรก และราคาขายคงไม่สูงไปกว่ากันมากนัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กลุ่ม AISL เข้ามาร่วมทุนพัฒนาด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ใช่เราแค่รายเดียวที่เจรจากับ AISL โดยมีการเจรจากันตั้งแต่ก่อนวิกฤติโควิด-19 และสุดท้ายทาง AISL ก็ตัดสินใจร่วมทุนกับเรา โดยทุกโครงการที่พัฒนาจะเน้นความเป็น ‘บูทีค โปรดักส์‘ที่มีความแข็งแรง เพราะหากไปพัฒนาโครงการที่เหมือนผู้ประกอบการรายอื่น ก็จะมีการแข่งจันที่สูง จึงเลือกพัฒนาโครงการที่เป็นลักชัวรี่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง“นายณัฐวัฒน์ กล่าว
โดยชูจุดเด่นบ้านหรูติดโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ หวังปั้นเป็น คอมมิวนิตี้ต้นแบบเพื่อการศึกษาและการใช้ชีวิตอย่างลงตัว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยสิ่งอำนวยความ สะดวกที่หลากหลาย ซึ่งในอนาคตหวังจะนำโมเดลนี้ขยายไปยังโลเคชั่นอื่นๆ ต่อไป
นายณัฐวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 นี้ บริษัทฯยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการคอนโดฯในรูปแบบซูเปอร์ลักชัวรี่ อีกประมาณ 1 โครงการ ซึ่งอาจจะเป็นการพัฒนาเอง 100% หรือร่วมทุนกับพันธมิตร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาเลือกทำเลที่ดินที่จะพัฒนา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ด้านนางสาววัลเลอรี่ ชิวชร์ ผู้อำนวยการ Asia International School Limited (AISL) Academy และเป็นบุตรสาวของคุณแดเนียล ชิวชร์ ผู้ก่อตั้ง AISL กล่าวว่า AISL เป็นผู้บริหารการศึกษาโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ในระดับภูมิภาคเอเชีย ตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึง มัธยมปลาย (K-12) จำนวน 10 แห่งทั่วเอเชีย ได้แก่ ประเทศไทย ฮ่องกง จีนและ ญี่ปุ่น จำนวนนักเรียนทั้งหมด 7,074 คน และมีทีมงาน 1,876 คน จาก 34 ประเทศที่ AISL โรงเรียนมีการจัดการหลักสูตรที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่รวมกับค่านิยมและมรดกของฮาร์โรว์กว่า 450 ปี และยังเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การให้คุณค่ากับการศึกษาและปรับตัวกับแนวคิดใหม่ๆเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ละหลักสูตรจะได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมในแต่ละโรงเรียน และหลักสูตรที่มีการริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ทำทำให้โรงเรียนสามารถส่งมอบคุณภาพการศึกษาที่ดีให้กับนักเรียนซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเขาตลอดชีวิต
ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ 6 โรงเรียนที่สามารถรองรับนักเรียนทั้งไป–กลับ และนักเรียนประจำ ตั้งแต่อายุ 18 เดือน – 18 ปี และยังมีศูนย์ Harrow Li De Schools และ Harrow Little Lion Early Years Centre ที่ดูแลเด็กเล็กอายุ 2 – 6 ขวบ ด้วยประสบการณ์การพัฒนาโรงเรียนที่ผ่านมา ทำให้เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยนอกโรงเรียนมีความสำคัญเทียบเท่ากับการศึกษา ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตประจำวันเข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงมองหาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวความคิดในการทำงานเหมือนกัน และมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนอสังหาริมทรัพย์และความเข้าใจในตลาดนิชพรีเมียมในประเทศไทย
สำหรับโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพฯ ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 1,700 คน และมีเพิ่มต่อเนื่องทุกปี โดยเป็นนักเรียนที่เป็นชาวต่างชาติประมาณ 20% ในจำนวนดังกล่าวเป็นชาวจีนและอังกฤษ มากที่สุด
อนึ่ง ที่ผ่านมา บริษัท คูน เอสเตท จำกัด ได้พัฒนาโรงแรมคิมป์ตัน คีตาเล สมุย รีสอร์ตระดับลักชัวรี่บนหาด เชิงมน เกาะสมุย โครงการบ้านหรูในทำเลใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิท ได้แก่โครงการ Quarter Thonglor, Quarter 39 และ Quarter 31 นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 5 โครงการ ได้แก่ Cooper Siam, Klass Langsuan, Klass Siam, Klass Sarasin และ Klass Silom รวมมูลค่าโครงการที่ผ่านมือมาแล้ว กว่า 9,800 ล้านบาท และล่าสุดกับโครงการ ไฮด์พาร์ค การ์เด้น ซึ่งตรงกับ DNA ของบริษัทที่ต้องการนำ เสนอแนวคิดใหม่ๆของการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบนอก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวคนรุ่นใหม่