“แอสเซทไวส์”โชว์ผลงานปี’65 ท็อปฟอร์มกวาดรายได้กว่า 5,980 ล้านบาท

You are currently viewing “แอสเซทไวส์”โชว์ผลงานปี’65 ท็อปฟอร์มกวาดรายได้กว่า 5,980 ล้านบาท

แอสเซทไวส์โชว์ผลงานปี 2565 ทำ New High กวาดกำไรสุทธิ 1,119 ล้านบาท และรายได้รวมกว่า 5,980 ล้านบาท ลุยแผนปี 2566 เปิด 12 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 22,500 ล้านบาท ขานรับตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัว ตั้งเป้ายอดขาย 15,000 ล้านบาท และรายได้ 7,200 ล้านบาท


นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในการดำเนินธุรกิจสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 1,119 ล้านบาท เติบโต 18%จากปีก่อนหน้า  และรายได้รวม 5,980 ล้านบาท เติบโต 19%  รวมทั้งยังคงความสามารถในการรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้น (GP) ได้ในระดับสูงต่อเนื่องที่ 40% และอัตรากำไรสุทธิ (NP) ที่ 19%

ส่วนหนึ่งเป็นมาจากการวางแผนกลยุทธ์พัฒนาโครงการอสังหาฯ ภายใต้แบรนด์ เคฟ, แอทโมซ, เอสต้า และโมดิซ ตลอดจนการวางกลยุทธ์การตลาด Living & lifestyle ผสานกับการดีไซน์ที่อยู่อาศัยที่เพยบพร้อมด้วย Facility โดยมีโครงการที่เป็น Key Driver  ได้แก่ โครงการเคฟ เอวา  มูลค่าโครงการ 2,380 ล้านบาท, โครงการ เคฟ ทาวน์ ชิฟท์  มูลค่าโครงการ 2,160 ล้านบาท, โครงการเคฟ ทียู  มูลค่าโครงการ 1,960 ล้านบาท และโครงการเคฟ มิวแทนท์ ศาลายา  ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท

“ในปี 2565ที่ผ่านมา ภาคธุรกิจอสังหาฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากภาวะเงินเฟ้อ และราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวค่อนข้างช้า ทำให้บริษัทเน้นการออกแบบโครงการที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมนำเสนอกลยุทธ์การตลาดผ่านการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย  ทำให้บริษัทเป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชั่น”

สำหรับแนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 2566  บริษัทประเมินว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการที่ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทเตรียมแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 22,500 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคฟ, แอทโมซ  และโมดิซ จำนวน 9 โครงการ และโครงการบ้านจัดสรร 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ ดิ ออเนอร์และแบรนด์ใหม่ ดิ อาร์เบอร์  โดยวางเป้ายอดขาย 15,000 ล้านบาท และรับรู้ราย 7,200 ล้านบาท

โดยในช่วงไตรมาสแรกจะเน้นการเปิดตตัวโครงการใหม่ในรูปแบบ Campus Condo แบรนด์เคฟ 4 โครงการบนทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย โครงการเคฟ เอมบริโอ รังสิต มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท ใกล้กับมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี,โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ มูลค่าโครงการ 3,150 ล้านบาท,โครงการเคฟ ทาวน์ ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และเคฟ ป็อป ศาลายา มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ติดกับมหาวิทยาลัยมหิดล

นอกจากนนี้ยังมีโครงการใหม่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเตรียมทยอยโอนเพื่อรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องถึง 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15,060 ล้านบาท อาทิ โครงการโมดิซ ลอนช์  มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท,โครงการโมดิซ ไรม์ รามคำแหง มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท, โครงการเคฟ ทาวน์ โคโลนี  มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท เป็นต้น รวมทั้งการลงทุนในรูปแบบอื่นๆร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาโครงการหรือการ Synergy เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ

ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 47 โครงการ ภายใต้แบรนด์ เคฟ,แบรนด์ แอทโมซ,แบรนด์ โมดิซ,แบรนด์ เอสต้า และแบรนด์ ดิ ออเนอร์  รวมมูลค่าโครงการกว่า 49,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 36 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 11 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 11,400 ล้านบาท