SC เปิดแผน 5 ปี ภายใต้ 4 แกนหลัก ปี 66 ประกาศเปิด 25 โครงการ มูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท

  • Post author:
You are currently viewing SC เปิดแผน 5 ปี ภายใต้ 4 แกนหลัก ปี 66 ประกาศเปิด 25 โครงการ มูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท
บิ๊กเอสซีฯมั่นใจภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 66 เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯจะกลับมาบูมอีกครัง และตลาดต่างประเทศกลับมาแน่นอน แต่ต้องระวังเรื่องอัตราดอกเบี้ยต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ด้านการเมืองดีใจที่ “เศรษฐา ทวีสิน”รับตำแหน่ง “ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” ด้านแผนการดำเนินธุรกิจของเอสซีฯในระยะ 5 ปี ขับเคลื่อนบนยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond”ภายใต้ 4 แกนหลัก ประกาศเปิดตัว 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท พร้อมรุกบ้านหรูระดับอัลตร้า ลักชัวรี่ ราคา 100-150 ล้านบาท เป็นครั้งแรก และรุกธุรกิจสร้างรายได้ประจำเพิ่มเป็น 20% ตั้งเป้า 5 ปี รายได้แตะ 150,000 บาท
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ SC เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2566 ว่า มั่นใจว่าจะเป็นปีที่ดีของภาคธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะตลาดลักชัวรี่ ส่วนคอนโดมิเนียม คาดว่าจะเริ่มกลับมาบูมอีกครั้ง  และกำลังซื้อต่างชาติก็จะกลับมา แต่ต้องระวังเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตังสูงและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มาดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นั้นมองว่านายเศรษฐา เป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ และตนมีความชื่นชมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว รู้สึกดีใจที่คนเก่ง มีความสามารถอาสามาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ก็ขออวยพรให้นายเศรษฐาช่วยประเทศชาติและทำให้ประเทศชาติเจริญเติบโตได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้

“เชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ที่คุณเศรษฐามี และความสามารถในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่จะช่วยผลักดันให้ประเทศเติบโตไปได้ดีขึ้น ความเป็นอยู่ของประชากรน่าจะดีขึ้น และอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชากรในประเทศ เพราะคิดว่าประเทศจะเติบโตได้ดีจะต้องเติบโตไปด้วยกันในทุกๆกลุ่มและเรื่องปากท้องประชาชาชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ”นายณัฐพงศ์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของเอสซีฯในระยะ 5 ปี พร้อมขับเคลื่อนบนยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond” ลงทุนปีละมากกว่า 25,000 ล้านบาท เติบโต อย่างมีคุณภาพ แบบเหนือชั้น และยั่งยืน  มุ่งสร้างคุณค่า สู่คน และโลก ดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 แกนหลัก คือ ลูกค้า พนักงาน สิ่งแวดล้อม และองค์กร

1.ลูกค้า

SC มุ่งมั่นส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพสูง พัฒนาสินค้าทั้งบ้านและคอนโดฯ สรรหาและคิดค้นนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยหลากหลายราคา รูปแบบการใช้ชีวิต และเจเนอเรชั่น เพื่อลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี ไร้ความกังวลในการใช้ชีวิต โดยปี 2566 มีแผนการเปิดโครงการใหม่รวม 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท (จากปี 2565 ที่เปิดตัว 27 โครงการ มูลค่ากว่า 44,000 ล้านบาท)โดยแบ่งเป็น โครงการแนวราบ: เปิดใหม่ 22 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท รักษาสถานะผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวคุณภาพสูง ด้วยไฮไลท์โปรดักส์ คือ

 

-#No1LuxuryHome ปีนี้ SC พร้อมเผยโฉม 95E1” (ไนน์-ตี้-ไฟว์-อีสต์-วัน) แบรนด์บ้านใหม่ในเซกเมนต์ Ultimate Luxury บริเวณย่านโยธินพัฒนา บนพื้นที่ประมาณ 4-5 ไร่ เป็นบ้านหรู ราคาเริ่มต้นสูงสุดที่เคยเปิดขายมา ด้วยราคาเริ่มต้น 100-150 ล้านบาท จำนวนจำกัดเพียง 10 ยูนิต มูลค่าโครงการ 970 ล้านบาท โดยภายในระยะเวลา 3 ปี ตั้งเป้าจะพัฒนาแบรนด์ดังกล่าวจำนวน 3 โครงการ

#OneSizeDoesNotFitAll ด้วยการตอบรับอย่างดีมากของ “บ้านคนโสด” ปีนี้ SC ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเรื่องการพัฒนาบ้านที่ออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ที่มีความเฉพาะบุคคลด้วยการเปิดตัว #บ้านเกมเมอร์ (Gamer’s Home) บ้านที่ร่วมออกแบบโดยเกมเมอร์ชื่อดัง Willcomeback และ MNJ TV เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านในสายอาชีพยุคใหม่มาแรง อย่าง Streamer หรือ Content Creator ทั้งหลาย พร้อมเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ณ โครงการ Venue ID มอเตอร์เวย์-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท และมีโครงการพัฒนาบ้านที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ Introvert และ Extrovert ในอนาคต

#SCHomesForAll สร้างบ้านตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มราคา ในปีนี้ SC จะมีสินค้าบ้านเปิดขายในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.5 ล้านบาท ไปจนถึงมากกว่า 150 ล้านบาท ด้วยการเปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่ของแต่ละ Sub-brand เพื่อลงแข่งขันครองความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยว

ส่วนโครงการแนวสูง จะมีเปิดตัวใหม่ 3 โครงการ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท คือ

เปิดตัวแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนหนึ่งของ Living Solutions เพื่อประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีขึ้น ในสังคมที่เน้นความยั่งยืน บน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งเป็น Segment ใหม่ของ SC

ทำเลแห่งที่ 2 คือ เกษตร-ศรีปทุม ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เน้นงานดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อคนเมือง
รุ่นใหม่

คอนโดฯ SCOPE ประสานมิตร เจาะกลุ่มลูกค้า International Premium ที่ให้ความสำคัญกับทั้งคุณภาพและดีไซน์  ในระดับ World-class  ใช้ชีวิตในแบบ “Live the Finest Life” หรือชีวิตที่สุขสบายและสวยงามพร้อมไปด้วยบริการระดับ Premium ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท

ทั้งนี้จะทำให้ทั้งปี SC มีโครงการที่เปิดขายทั้งสิ้น 76 โครงการ มูลค่า 90,000 ล้านบาท

นอกจากการมุ่งพัฒนาสินค้าบ้านและคอนโดมิเนียมคุณภาพสูงที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา SC ยังคงสานต่อการสรรหาและคิดค้นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีในการส่งมอบ Living Solutions แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน เพื่อลูกค้าจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยแผนในปี 2566 คือ ติดตั้งชุดเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในบ้านและคอนโดฯ ทั้งหมด 24 รายการ ให้กับลูกค้า SC Asset ตามเป้าหมายคือไม่ต่ำกว่า 5,000 ครัวเรือนในปี 2566  พร้อม เปิดตัว Morning Coin เชื่อมต่อลูกค้ากับโลกแห่งสิทธิพิเศษแบบเหนือชั้น ด้วยนวัตกรรม Blockchain โดยมีเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และมีความมั่นใจปลอดภัยในคอมมูนิตี้ที่ดีของ “รู้ใจคลับ” พร้อมใช้งานกลางปี 2566 นี้

2.พนักงาน:

พนักงาน SC เจริญก้าวหน้า ได้ทำงานที่สร้างคุณค่า ปลดปล่อยศักยภาพได้อย่างเต็มที่ SC ให้ความสำคัญกับการลงทุนในทรัพยากรบุคคลเสมอมา เพราะบุคลากรในองค์กร คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดย SC ลงทุนใน Infrastructure ต่าง ๆ เชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ทำให้ลดเวลาในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รองรับการเติบโตของธุรกิจ อีกทั้งสร้างประสบการณ์ให้พนักงานมากกว่าแค่การทำงานรูปแบบเดิม ๆ มีการใช้ Morning Coin และระบบการสะสม NFTs ด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพื่อคนทำงานได้พัฒนาตนเอง ปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำงานอย่างมีคุณค่า มีความภาคภูมิใจพร้อมเติบโตไปกับองค์กร พร้อมใช้งานมีนาคมนี้  ทั้งเปิดตัว “Inside SC” บอกเล่าเรื่องราวในองค์กรเพื่อการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพมาร่วมงานกับ SC อย่างยั่งยืน คว้ารางวัลอันดับที่ 17 จาก 50 องค์กรที่ทำงานในฝัน โดยเป็นอันดับหนึ่ง ในบริษัทอสังหาฯ จัดโดย WorkVenture

3.สิ่งแวดล้อม:

SC ประกาศพันธกิจ #SCeroMission ดำเนินธุรกิจเพื่อดูแลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ก๊าซเรือนกระจกลดลง ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ คิดค้นนวัตกรรม และการจับมือร่วมกับคู่ค้าชั้นนำ ที่มีแนวคิดในการมุ่งลดก๊าซเรือนกระจก ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการ ออกแบบ สร้าง ใช้ ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ภายใต้ 8 ภารกิจย่อย โดยตั้งเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายในปี 2573  และตั้งแต่ปลายปี 2565 ได้มีการตั้งทีมพัฒนาการออกแบบ SC #บ้านLowCarbon ด้วยการทำการวิจัยจำลองการใช้พลังงานของบ้านพักอาศัย ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง สาขาวิชาสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบสินค้าที่อยู่อาศัยที่ลดการทำร้ายโลก ลดปริมาณการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย เพื่อสุขภาพกายใจที่ดีขึ้นของลูกค้าในอนาคต

4.องค์กร:

องค์กรเติบโต จากหลากหลายเครื่องยนต์ธุรกิจ ทั้งบนธุรกิจหลัก Engine1 และธุรกิจ Engine2 ที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) พร้อมตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี และเพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน SC วางแผนเพิ่มการลงทุน และเริ่มดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยธุรกิจเดิมคือ อาคารสำนักงาน ปัจจุบัน SC บริหารพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า มีพื้นที่รวมกันถึง 120,000 ตารางเมตร จะมีการรีโนเวทเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าผู้เช่าพื้นที่

นอกจากนี้ยังรุกธุรกิจใหม่ๆ คือ โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ซึ่งแผนในระยะเวลา 3 ปี จะเปิดให้ได้ 3 แห่ง จำนวน 1,000 ห้อง ได้แก่

YANH RATCHAWAT มูลค่าการลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการบริหารเอง 100%  รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกภายใต้คอนเซ็ปต์ Workcation Hotel รองรับวิถี Remote Working ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยหลังโควิด-19 พร้อมเปิดให้เข้าพักแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

โรงแรมบนถนนสุขุมวิท 29 มูลค่าการลงทุน 2,500 ล้านบาท

โรงแรมในทำเลพัทยา

โดยโรงแรมที่สุขุมวิท 29 และพัทยา จะเป็นการจ้างเชนระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เข้ามาบริหาร ซึ่งจะเป็นแบรนด์ที่ยังไม่เคยมีในประเทศไทย คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆนี้

ส่วนธุรกิจคลังสินค้าหลังจากการประกาศความร่วมมือกับบริษัท Flash Express ไปเมื่อปี 2565 บริษัทฯยังวางแผนขยายธุรกิจคลังสินค้าโดยตั้งเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ Warehouse ให้ได้ 1 ล้านตารางเมตร ภายในปี 2573

อย่างไรก็ตามในระยะเวลา 5 ปี บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 150,000 ล้านบาท และปี 2566 ตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโต 23% โดยแบ่งเป็น โครงการเพื่อขายแนวราบ 65% และโครงการเพื่อขายแนวสูง 35% รวมทั้งสร้างรายได้รวม 25,000 ล้านบาท เติบโต 16% ทั้งจากโครงการเพื่อขาย และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในสัดส่วน 95:5 ตามลำดับ โดยมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 25,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการลงทุน 80% ในโครงการเพื่อขายแนวราบ แนวสูง และ 20% ในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ อีกทั้งตั้งเป้าบริหาร 65 โครงการ จำนวน 9,000 ครอบครัว

“SC Thriving Beyond คือเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนใน 5 ปีนี้ของ SC โดยหัวใจสำคัญ คือการสร้างคุณค่า เพื่อเติบโต “ร่วมกัน” ไปกับสิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจของ SC คุณค่าจะกลับมาสร้างกำไรให้องค์กร และกำไรจะกลับไปสร้างคุณค่าให้ผู้คนรอบข้าง ต่อเนื่องอย่างยั่งยืน”นายณัฐพงศ์ กล่าวในที่สุด

 

 

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing