โฮมโปร เผยภาพรวมตลาดสินค้าเพื่อบ้านฟื้นตัวดีขึ้น รับอานิสงส์จาก “ช้อปดีมีคืน” และ “ท่องเที่ยวฟื้น” หนุนกำลังซื้อดันยอดขายไตรมาสแรกเพิ่ม 10-20% ประกาศอัดงบ 4,000-5,000 ล้านบาท ลงทุนเปิด 10 สาขาใหม่ พร้อมเปิดตัวระบบ Home Solar ช่วยลูกค้าสู้ค่าไฟแพง แย้มเตรียมแตกไลน์ธุรกิจรุกให้บริการ Home Solar เน้นตลาดลูกค้าที่อยู่อาศัย คาดเห็นภาพชัดเจนปี 67

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดสินค้าเพื่อบ้านในไตรมาสแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม) ว่า ค่อนข้างปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จาก 2 เรื่องใหญ่ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ ในโครงการ”ช้อปดีมีคืน” ทำให้ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-20 ต่อการซื้อ 1 ครั้ง กลุ่มสินค้าที่ได้รับนิยมจะเป็นเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานของบ้าน เช่น เซรามิกส์ กระเบื้อง สุขภัณฑ์ เป็นต้น โดยสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากมีกลุ่มที่ทำงานประจำ และผลจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเติบโตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมาก ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริการต่างๆทั่วทุกภูมิภาคมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามในมุมกลับกัน หากไม่มีโครงการ “ช้อปดีมีคืน” การฟื้นตัวจะเติบโตในบางภาค เช่น ภาคเหนือและภาคใต้ ส่วนภาคตะวันออกพอไปได้ ขณะที่ภาคอีสานปีนี้เริ่มแผ่ว ต่างจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับนโยบายการดูแลจากภาครัฐ
“เรามองว่าตลาดในปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกนี้ ภาพรวมเติบโตอยู่ ซึ่งยอดขายเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 5 และคิดว่า ทุกๆช่วงก่อนการเลือกตั้ง ตลาดจะคึกคัก กำลังซื้อจะเพิ่มขึ้น และจากปัจจัยต่างๆที่หนุน ทำให้คาดว่ารายได้รวมปีนี้เติบโตขึ้นร้อยละ 5 เทียบจากปีที่ผ่านมา ที่ทำรายได้รวมอยู่ที่ 69,389.43 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,217.09 ล้านบาท”นายวีรพันธ์ กล่าว
สำหรับในปี 2566 บริษัทมีแผนในเรื่องการลงทุนเปิดเพิ่ม 10 สาขา แบ่งเป็นเมกาโฮม 8 สาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 3 สาขา ได้แก่ ทำเลรัตนาธิเบศร์ ,ติวานนท์ และบางพลี จ.สมุทรปราการ ส่วน5 สาขาที่เตรียมเปิด ได้แก่ จ.นครปฐม , เชียงใหม่ ,ภูเก็ต ,บางแสน และ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่วนโฮมโปรมี 2 สาขา งบลงทุนสาขาละ 400-500 ล้านบาท รวมทั้งหมดปีนี้ 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 113 สาขา ทั้งในประเทศไทยและรวมประเทศมาเลเซีย โดยโฮมโปร 2 สาขา ได้แก่ ภายในห้างสรรพสินค้า ซีคอน บางแค และ ในซอยวัดลาดปลาดุก เนื่องจากสาขาโฮมโปรที่ติดอยู่กับบิ๊กซี บางใหญ่จะหมดสัญญาเช่าลงกลางปีหน้า
สำหรับแผนกระตุ้นยอดขายนั้น บริษัทฯได้จัดมหกรรมสินค้าเพื่อบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า “โฮมโปร เอ็กซ์โป” ขึ้น ระหว่างวันที่ 18-26 มีนาคม 2566 ณ ฮอลล์ 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นการจัดงานครั้งที่ 34 และด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากที่นิยมเดินทางมาหาเลือกซื้อของด้วยตนเอง ก็หันไปสั่งซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น ประกอบการการแข่งขันในตลาดสำหรับการจัดงานมหกรรมสินค้าเพื่อบ้านรุนแรงมากขึ้น งานครั้งนี้จึงได้ลดพื้นที่จัดงานลง 50% โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ 300 ล้านบาท
