เอพี ไทยแลนด์ฯผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น “มิตซูบิชิ เอสเตท”ผุดคอนโดฯโครงการที่ 22 “LIFE พหลฯ – ลาดพร้าว” มูลค่า 3,500 ล้านบาท ตอบโจทย์ดีมานด์กลุ่มใหม่มีความเป็นส่วนตัวสูง ผ่าน 3 จุดขายไฮไลต์ PRIVACY BUT SOCIETY ที่สุดของการดีไซน์ประสบการณ์ตอบความเป็นส่วนตัว เพียง 598 ยูนิต ,SIMPLICITY LUXURY ที่สุดของเอกลักษณ์และสุนทรียในการใช้ชีวิตเพียงหนึ่งเดียว และ ICONIC VERTICAL HOME ที่สุดของห้องชุดดีไซน์ใหม่ GRAND SIMPLEX –NEW VERTIPLEX ถอดแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตในบ้าน ดีไซน์พื้นที่เน้นความครบครันด้วยฟังก์ชัน และพื้นที่พิเศษที่ปรับเปลี่ยนได้มากกว่า ตอบความสุขมิติใหม่ที่เลือกเองได้จริงในทุกวัน พร้อมจัดงาน VVIP DAY วันที่ 17 – 18 มิ.ย.66 ตั้งเป้ากวาดยอดขาย 30% ภายในปลายปีนี้ ด้านการก่อสร้างคาดแล้วเสร็จไตรมาส 2/67

นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียมบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)หรือ AP เปิดเผยถึงภาพรวมทำเลลาดพร้าว-พหลโยธินว่า มี Strong Demand ที่สูงมาก มีทั้งที่ซื้อคอนโดมิเนียม เพื่ออยู่อาศัยจริง และซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว ซึ่งในทำเลลาดพร้าว-พหลโยธิน AP ได้พัฒนาคอนโดฯแบรนด์ “LIFE” ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ระดับกลาง-บน มาแล้ว 2 โครงการ คือ

-LIFE ลาดพร้าว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก และ Sold Out ไปแล้ว โดยล่าสุดมีอัตราเข้าอยู่(Occupation Rate) มากถึง 90%

-LIFE ลาดพร้าว แวลลีย์ แฟล็กชิปคอนโดมิเนียม ปัจจุบันยืนหนึ่งคอนโดฯที่มีพื้นที่ส่วนกลางที่โดดเด่น เจาะตลาดลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความ Extreme Adventure Life โดยโครงการนี้มียอดขายล่าสุดที่ 75%

ซึ่งราคารีเซลทั้ง 2 โครงการ เฉลี่ยประมาณ 145,000 – 150,000 บาท / ตารางเมตร ถือว่าในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา AP ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าตลาดคอนโดฯติดรถไฟฟ้าย่านลาดพร้าวที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ กับจุดแข็งในการพัฒนาและส่งมอบโครงการที่ตอบการใช้ชีวิตจริงของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ในราคาที่คุ้มค่าและจับต้องได้ รวมไปถึงเอกลักษณ์การดีไซน์และสเปซฟังก์ชันที่ทำการพัฒนามาแล้วทั้ง 2 โครงการ

“ย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน ถือเป็น Central Area ที่เชื่อมต่อไปยังทำเลต่างๆและสู่ย่านใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ด้านซัพพลายคอนโดฯที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในย่านดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ปิดการขายและก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด จะมีเหลือประมาณ 4 โครงการ ที่ยังเหลือยอดขายไม่มากนัก โดยในส่วนของเอพีฯนั้นถือว่ามีความได้เปรียบคู่แข่ง เพราะเป็นคอนโดฯที่มีต้นทุนเดิม มียอดขายที่ต่อเนื่อง และสามารถปล่อยเช่าได้ในราคาที่ดี โดยห้องสตูดิโอ ขนาด 28 ตารางเมตร สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท/เดือน ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนให้เจ้าของห้องได้ประมาณ 4.5%ต่อปี” นางสาวกมลทิพย์ กล่าว

นางสาวกมลทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพบว่ายังมีลูกค้าที่ Insight แตกต่างจาก 2 โครงการแรกดังกล่าวข้างต้น คือลูกค้าที่มีความต้องการความเป็นส่วนตัวสูง จึงได้พัฒนาโครงการ “LIFE พหลฯ – ลาดพร้าว” (ไลฟ์ พหลฯ – ลาดพร้าว) ซึ่งเป็นโครงการที่ 3 ในทำเลลาดพร้าว-พหลโยธิน และเป็นคอนโดมิเนียมร่วมทุนโครงการที่ 22 ระหว่าง AP และ มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์(บริษัท ในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป)ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 – 2 – 92.2 ไร่ สูง 40 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 598 ยูนิต  ส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 – 34 ห้องชุดแบบ GRAND SIMPLEX ขนาด 28.5 – 65 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 4.99 ล้านบาท และชั้น 35 – 39 ห้องชุดแบบ NEW VERTIPLEX ขนาด 28.5 – 65 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 6.29 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 145,000 บาท/ตารางเมตร)รวมมูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพเพียง 200 เมตร จากรถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว โดยจะเปิดตัวรอบ VVIP DAY วันที่ 17 – 18 มิถุนายน 2566 นี้ คาดว่าจนถึงปลายปี 2566 จะสามารถปิดการขายได้ประมาณ 30% ด้านการก่อสร้างได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้ว 80% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2567

การเปิดตัวโครงการ LIFE พหลฯ – ลาดพร้าว ในครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งของคอนโดแบรนด์ LIFE ในทำเลใจกลางย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน ในรอบ 5 ปี เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ลูกค้าที่มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ LIVE YOUR INFINITE LIFE บนทำเลสุดไพร์มตรงข้าม New เซ็นทรัล พหลฯและเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยจะยกระดับอีกขั้นของการพัฒนา ที่จะส่งมอบ LIFE พหลฯ – ลาดพร้าว ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่พร้อมส่งมอบ “ชีวิตบทใหม่ ไร้ขีดจำกัด” ในคอนโดฯที่เป็นมากกว่าที่พักอาศัย แต่พร้อมส่งมอบทางเลือกที่มากกว่า ตอบชีวิตดีๆ และความสุขที่เลือกเองได้ ผ่านความต่าง 3 มิติสำคัญ ดังนี้

1.PRIVACY BUT SOCIETY

ถอดรหัสความต้องการจากความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิต แต่ยังคงอยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ การดีไซน์พื้นที่ที่รองรับความหลากหลายของไลฟ์สไตล์แบบ Multi – Cultural ด้วยพื้นที่ส่วนกลางรวม 6 ชั้น (SEXTUPLE FACILITIES) บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ ตั้งแต่ GREEN PAVILION ความมีชีวิตชีวาจากพื้นที่สีเขียวก่อนเข้าสู่ THE PARLOUR พื้นที่พิเศษสำหรับการพักผ่อน และสันทนาการ เชื่อมต่อไปยังโซนล็อบบี้ที่วางรูปแบบมาภายใต้คอนเซ็ปต์ The Connected Lobby พื้นที่ที่เชื่อมต่อกันถึง 3 จุด ที่มีความแตกต่างทั้งสไตล์และฟังก์ชันในการใช้งาน ตามการแบ่งโซน Private และ Public เพื่อรองรับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ อาทิ EXCLUSIVE LOBBY โถงรับรองขนาดใหญ่ ที่ออกแบบอย่างงดงามและหรูหราพร้อมงาน CRAFTED DESIGN ของเพดานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับการรองรับแบบ Public โดยมีเชื่อมต่อกับ COZY LOUNGE พื้นที่ล็อบบี้แบบ Semi – Outdoor ที่เชื่อมต่อกับ GREEN PAVILION เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และโอโซนจากพื้นที่สีเขียว PRIVILEGE LOUNGE รองรับการพักผ่อนแบบ Private มีความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นและยังสามารถมองเห็นวิวสวนขนาดใหญ่ได้

ถัดมาอีกชั้นกับพื้นที่ส่วนกลางชั้น 8 ที่จัดสรรโซนออกกำลังกายไว้ THE CARDIO CLUBโซนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีกับ Personal Treadmill ลู่วิ่งรองรับการใช้งานแบบ Private และ Couple ในบรรยากาศใกล้ชิดทิวทัศน์ของพื้นที่สวนสีเขียว และจุดเด่นหลักของโครงการนี้คือ Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกัน 4 ชั้น ตั้งแต่ชั้น38 จนถึงชั้น Rooftop  เพื่อตอบโจทย์การพักผ่อนที่เชื่อมต่อกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด รองรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่ด้วย EXCLUSIVE SKY CLUB ที่ชั้น 38 สุนทรียศาสตร์แห่งการพักผ่อนที่เหนือระดับ พร้อมPark View และ City Sky View ในแบบพาโนราม่า ให้ความรู้สึกแบบLuxury Sky Lounge ของโรงแรมระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องที่ชั้น 39 THE CLOUD SOCIAL CLUB พื้นที่แบบ Space in Space ในรูปแบบกึ่ง Co-working Space และ Relaxing Space สำหรับการทำงานในรูปแบบที่หลากหลายทั้งแบบ Private และแบบ Social รวมถึงพื้นที่นำไปสู่การสร้างสรรค์ต่อยอดได้ไม่รู้จบ ชั้น 40 จะพบกับ ACTIVE ATRIUM – PRIVATE STUDIOฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งยังได้เพลินเพลินกับวิวเมืองตลอด 24 ชั่วโมง และที่สุดของสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นไฮไลต์ คือ SKY POOL PAVILION & JACUZZI สระว่ายน้ำ 5 ฟังก์ชัน ยาวกว่า 30 เมตร แบบ L Shape ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor อีกทั้งยังสามารถเทควิวสวนสาธารณะ 700 ไร่ขนาดใหญ่ – วิวเมืองลาดพร้าวในทุกมิติที่ดีที่สุดอีกด้วย

2.SIMPLICITY LUXURY LIFE

อีกหนึ่งไฮไลต์ความพิเศษของโครงการ “LIFE พหลฯ – ลาดพร้าว” คือการออกแบบพื้นที่ที่สะท้อนอัตลักษณ์สไตล์ Timeless Modern ที่เรียบหรูผ่านการเลือกสรรหินอ่อนนำเข้าและลวดลาย Craftmanship ที่ได้แรงบันดาลใจจากลายเส้นถนนและจุดตัดของผังเมืองโซนพหลโยธิน-ลาดพร้าว มาออกแบบและถักทอผสานเข้าไปยังส่วนกลางจุดต่างๆ ภายในโครงการ อย่าง Nero Chanel Marble จากเมือง Carrara ประเทศอิตาลี หินอ่อนขนาดใหญ่ที่มีเสน่ห์ของสายแร่สีดำ – เทาเข้ม ช่วยขับคาแรกเตอร์เพิ่มประสบการณ์พิเศษในการต้อนรับเข้าโครงการ Van Gogh Onyx หินอ่อนที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ด้วยลวดลายธรรมชาติและสีสันพิเศษ ตลอดจนการเลือกใช้ White Onyx และ WHITE ARABASCATO MARBLE หินอ่อนขนาดใหญ่ ที่มาตกแต่งในพื้นที่ต่างๆ รองรับการผ่อนคลายอย่างเป็นส่วนตัว

3.ICONIC VERTICLE HOME

นอกจากนั้นในส่วนของห้องพักอาศัย ยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ และคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนเพียง 598 ยูนิต โดยมีห้องพักอาศัยมากถึง 19 รูปแบบให้เลือก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวผังห้องชุดรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตไร้ขีดจำกัด ทั้งในรูปแบบGRAND SIMPLEX ห้องชุดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.5 – 65 ตารางเมตร ที่จัดสรรพื้นที่ห้องครัวแบบปิด เพิ่มขนาดพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้างขึ้น ห้องนอนให้เป็นสัดส่วน และพื้นที่ Walk-In Closet และห้องชุดรูปแบบใหม่ล่าสุดกับ NEW VERTIPLEX ห้องชุดเพดานสูง 4.4 เมตร เพิ่มพื้นที่มากขึ้นเป็น 2 เท่า พร้อม Walk-In Closet ขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.5 – 65 ตารางเมตร

“สำหรับลูกค้าลงทะเบียนล่วงหน้า รับส่วนลด On Top มูลค่า 200,000 บาท กับราคาพิเศษ GRAND SIMPLEX 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร เริ่มต้น 4.99 ล้านบาท และ NEW VERTIPLEX 1 ห้องนอน เริ่มต้น 6.29 ล้านบาท” นางสาวกมลทิพย์ กล่าวในที่สุด