เอสซี แอสเสท ลุยตลาดคอนโดฯเต็มสูบกางโรดแมป 5 ปีมูลค่าลงทุนสูง 40,000 ล้านบาท เฉลี่ยเปิดตัวใหม่ปีละ 3โครงการ ประเดิมปี 2566 เปิด2โครงการใหม่แบรนด์โค้บบ์ ตั้งเป้ายอดขายกว่า 2,600 ล้านบาท ประเดิมวันที่ 24-25 เปิดพรีเซลคอนโดฯ “โค้บบ์ รัชดา-พระราม 9 มูลค่า 6,000 ล้านบาท เปิดขายก่อน 3 อาคารจากทั้งหมด 9 อาคาร 1,612 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 2.39 ลบ.* ส่วนไตรมาส4เปิดตัวโครงการใหม่ติดสถานีบางบัวของรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นางกนกอร หลิมกำเนิด หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างวางแผนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมตามโรดแมป 5ปี (ปี 2566-2570) มูลค่า 40,000 ล้านบาทประมาณ 15 โครงการหรือเฉลี่ยปีละ 3โครงการระดับราคาต่ำกว่า 1แสนบาทต่อตารางเมตรไปจนถึงระดับอัลตร้าลักชัวรี ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาแล้ว 4-5 แปลง

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายไวว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยมีคอนโดฯพร้อมอยู่และกำลังก่อสร้างที่อยู่ระหว่างการขาย 3โครงการ คือ 28 ชิดลม ทำยอดขายไปแล้ว 90% เดอ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส ยอดขาย 65% และโครงการ Reference วงเวียนใหญ่ มียอดขายแล้ว 60% จะเริ่มทยอยโอนห้องชุดได้ประมาณปลายปี 2567

นอกจากนี้ยังมีโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ 2โครงการแบรนด์โค้บบ์ (COBE) เบื้องต้นตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 2,600 ล้านบาท โดยในช่วงวันที่ 24-25 มิถุนายนนี้จะเปิดพรีเซลโครงการโค้บบ์ รัชดา-พระราม 9 ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 12 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯไฮไรส์มีทั้งหมด 9 อาคารจำนวน 1,612 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 1,600 ล้านบาท โดยวางแผนจะเปิดตัวก่อน 3อาคาร แต่จากการทดลองเปิดการย่างไม่เป็นทางการได้รับการตอบรับดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้มั่นใจว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะทำยอดขายได้เกินเป้า

ส่วนอีกโครงการตั้งอยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต กำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดสถานีบางบัว ใกล้กับมหาวิทยาลัยศรีปทุม

“SC ยังมุ่งมั่นการพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยแนวคิดหลักของการสร้างสรรค์คอนโดฯแบรนด์ใหม่นี้มาจากความเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลาย มีอิสระทางความคิด เป็นตัวของตัวเอง และเต็มไปด้วยแพสชั่นในการใช้ชีวิต มีส่วนร่วม สนับสนุน และให้คุณค่าในสิ่งที่เขาสนใจ จึงเกิดเป็นแนวคิดในการสร้างคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่าโค้บบ์”

โดยการพัฒนาแบรนด์ใหม่นี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์แบรนด์และโปรดักส์ผ่าน 3 หัวใจสำคัญ ที่สะท้อนความเป็น COBE พร้อมทั้งดูแลสังคม และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย Place ได้แก่ ทำเล(Location) และการออกแบบพื้นที่ (Space Design) โดยที่ตั้งของโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพย่านรัชดา-พระราม 9 ที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า บริษัทขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศูนย์วัฒนธรรม และถนนสายหลัก  ทั้งถนนรัชดาภิเษก, พระราม 9 และทางพิเศษศรีรัช

นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่มีโครงการเมกะโปรเจกต์เตรียมจะสร้างขึ้นในย่านนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็น Grand RAMA 9, ศูนย์วัฒนธรรม เฟส 2 รวมไปถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีแผนที่จะเปิดให้บริการได้ในปี 2568 เป็นต้นไป

ส่วนการออกแบบพื้นที่โครงการ COBE รัชดา-พระราม 9 เน้นการตอบสนองแนวคิด Community ที่ดีระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลาง โดยจุดเด่น คือ พื้นที่ส่วนกลาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกตอบรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ตั้งแต่พื้นที่ด้านหน้าโครงการออกแบบให้เป็นโซน Commercial และเป็นที่ตั้งของ Foodland ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มี Facilities ครบสำหรับการใช้ชีวิตของคนในโครงการและทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, Yoga Studio, Workshop space, Live Studio เป็นต้น

ส่วน People เน้นการสร้าง Community เพื่อให้คนที่อยู่อาศัยได้มีปฏิสัมพันธ์กัน ทั้งแบบเจอกันจริงๆและแบบ virtual บน Application Ruejai สำหรับให้ลูกบ้านสามารถใช้งานผ่านการจองพื้นที่ส่วนกลาง จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และเลือกเข้าร่วม Club ตามความสนใจได้ ผ่าน Application นี้

Planet โครงการ COBE เชื่อว่า Sustainability คือมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาที่อยู่อาศัย จึงได้เตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้ลูกค้า  ได้แก่ พื้นที่ “แยกขยะ” ที่สอดรับแนวความคิด Zero Waste การติดตั้ง solar cell ไว้บนอาคารทุกหลัง เพื่อลดการใช้พลังงานสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง และ บริการ EV Shuttle Service จาก Muvmi

สำหรับรายละเอียดของโครงการโค้บบ์ รัชดา-พระราม 9 มีทั้งหมด 9 อาคารสูงตั้งแต่ 19 ชั้นขึ้นไปจำนวน 1,612 ยูนิต โดยตัวอาคารจะตั้งอยู่รายล้อมพื้นทีส่วนกลาง รูปแบบห้องพักมีตั้งแต่ Studio ขนาด ขนาด 23-28 ตารางเมตร, ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30-34 ตารางเมตร, ห้อง 1 ห้องนอน Plus ขนาด 35-40 ตารางเมตร, ห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 50-72 ตารางเมตร และห้อง 3 ห้องนอน ขนาด 106 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท

โดยทุกยูนิตกแต่งแบบ Fully Furnished ที่มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานและประหยัดพื้นที่ด้วยตู้เสื้อผ้า built-in ชุดครัวที่ออกแบบมาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีอาคารที่เป็น Pet Friendly สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ