แอสเซทไวส์ ปิดดีลเข้าลงทุนในบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมชั้นนำในจังหวัดภูเก็ต หลังทำ Tender Offer แล้วเสร็จ รวมถือหุ้น 67.71% เดินหน้าขยายตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตต่อยอดสู่เซ็กเตอร์โรงแรมและท่องเที่ยวในอนาคต เตรียมเปิดตัวคอนโดฯ 2 โครงการใหม่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท รับกำลังซื้อชาวต่างชาติคึกคักและรัฐบาลใหม่หนุนท่องเที่ยวภูเก็ต วางเป้าหมายดันรายได้ TITLE เติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2567-2569) แตะ 10,000 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า หลังจากมติคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาได้อนุมัติให้บริษัท 39 เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ASW ถือหุ้น 99.99% เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือTITLE ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จำนวน 417,169,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 57.79% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ TITLE จากผู้ถือหุ้นเดิมในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,042,923,750 บาท พร้อมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ TITLE (Tender Offer) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม.-31 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ASW ได้ปิดดีลการเข้าซื้อหุ้นของ TITLE เป็นผลสำเร็จด้วยสัดส่วน 67.61% เพื่อก้าวสู่การขยายตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตที่กำลังฟื้นตัวและพร้อมก้าวสู่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในจังหวัด4^gdH9
ทั้งนี้ TITLE เป็นผู้พัฒนาอสังหาฯชั้นนำของจังหวัดภูเก็ต และเป็น 1 ใน 2 บริษัทอสังหาฯของจังหวัดภูเก็ตที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ดำเนินธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียมมากว่า 10 ปีภายใต้แบรนด์ “THE TITLE” ในทำเลที่ย่านหาดในยาง,หาดราไวย์ และหาดบางเทา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติ สามารถปิดการขายแล้วเกือบทุกโครงการ แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางโครงการก็ยังสามารถส่งมอบห้องชุดให้กับลูกค้าได้ตามสัญญา นอกจากนี้ภายใต้การลงทุนดังกล่าว กลุ่ม ASW ยังได้ฐานลูกค้าและเครือข่ายเอเจ้นท์ต่างชาติที่น่าเชื่อถือ รวมถึงทีมผู้บริหาร TITLE ที่มีประสบการณ์ในตลาดคอนโดฯ ภูเก็ต พร้อมทั้งพนักงานที่เข้าใจการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติที่พร้อมจะดำเนินงานต่อได้ทันที
“TITLE เป็นบริษัทอสังหาฯที่มีศักยภาพทั้งทีมผู้บริหาร พนักงาน ตัวสินค้า และทำเลที่ตั้งของแปลงที่ดิน ทำให้ ASW สามารถต่อจิ๊กซอร์สู่ตลาดอสังหาฯเมืองภูเก็ตที่เป็นตลาดระดับโลกได้ทันที พร้อมทั้งสามารถต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวจากแปลงที่ดินที่มีอยู่เดิม”
ทั้งนี้ปัจจุบันการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตกลับมาฟื้นตัวได้ดี เพราะภูเก็ตเป็นดิสทิเนชั่นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และเกิดความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ล่าสุดรัฐบาลชุดใหม่ นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อพบกับผู้ประกอบการภาคเอกชนหารือเกี่ยวกับประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต และมีแนวนโยบาย “ฟรีวีซ่า” (Free visa) แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวอินเดีย เพื่อให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้ แสดงให้เห็นว่าจะรัฐบาลชุดใหม่จะใช้ภาคการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อจากนี้
ล่าสุด ASW จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของ TITLE คือ โครงการ THE TITLE HALO 1 NAIYANG ที่มียอดขายแล้วถึง 80% จากจำนวนห้องชุดทั้งหมด 329 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,517 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 1 ปี 2567 และยังมีที่ดินรอการพัฒนาในจังหวัดภูเก็ตอีกกว่า 80 ไร่ สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้ถึง 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 14,000 ล้านบาท
โดยในช่วงปลายปีนี้ TITLE เตรียมแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 5,150 ล้านบาท ได้แก่ THE TITLE MORI 1 บริเวณหาดบางเทา มูลค่าโครงการกว่า 3,750 ล้านบาท และ THE TITLE X บริเวณหาดในยาง มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เพื่อตอบรับแนวนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยของรัฐบาลใหม่ในช่วงไตรมาส 4 นี้ โดยทั้ง 2 โครงการเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ โดยตั้งเป้ารายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการ THE TITLE MORI 1 ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งให้ผลให้ ASW ในฐานะบริษัทแม่มีรายได้เติบโตที่แข็งแกร่งเฉลี่ย 20% ต่อปีในอนาคต