“วัน ออริจิ้น” เปิด4โมเดลธุรกิจกลุ่มโรงแรม-ค้าปลีก-ร้านอาหาร-การบริการมุ่งสร้างรายได้ประจำ

You are currently viewing “วัน ออริจิ้น” เปิด4โมเดลธุรกิจกลุ่มโรงแรม-ค้าปลีก-ร้านอาหาร-การบริการมุ่งสร้างรายได้ประจำ

วัน ออริจิ้น  เปิดโมเดลธุรกิจสร้างรายได้ประจำผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ,กลุ่มธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน,กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมประกาศเป้าหมายขึ้นสู่ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโรงแรมและการบริการ

นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้พัฒนาและดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ และอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าที่สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยเน้นการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวมถึงโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ กลุ่มธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่มธุรกิจของวัน ออริจิ้น และการบริหารจัดการโปรแกรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน

อัพเดทข้อมูล  ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 บริษัทมีโครงการที่พัฒนาเสร็จหรือเริ่มดำเนินการแล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ประกอบด้วย  โครงการประเภทโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ จำนวน 7 โครงการ มีห้องพักเปิดดำเนินการรวม 1,579 ห้อง ประกอบด้วย โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง, สเตย์บริดจ์ สวีท กรุงเทพ ทองหล่อ, ไอบิส ภูเก็ต กะตะ, ไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง, ไอบิส หัวหิน, สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท ทาวเวอร์ 1, เวลเนส สเตย์ แอนด์ โฮเทล สุขุมวิท 107 อาคารเอ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหรือแผนการพัฒนาอีก 12 โครงการ มีห้องพักรวมประมาณ 4,343 ห้อง

โครงการประเภทพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน มีพื้นที่ค้าปลีกเปิดดำเนินการแล้วจำนวน 1 โครงการ พื้นที่เช่าสุทธิรวม 2,053 ตารางเมตร คือ โครงการพอร์โทเบลโล มอลล์ ศรีราชา และอยู่ระหว่างการพัฒนาหรือแผนการพัฒนาอีก 4 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 16,720 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 59,869 ตารางเมตร

ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 5 ร้าน อาทิ Gin Kitchen, Origami, Naori ฯลฯ และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 4 ร้าน และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่ม ONEO จำนวน 12 โครงการ และการบริหารจัดการโปรแกรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการแฮมป์ตัน ดีลักซ์ โอเชียน ศรีราชา, แฮมป์ตัน สวีทส์ เทพารักษ์, แฮมป์ตัน เน็กซ์ ทู เอ็มโพเรียม, แฮมป์ตัน สวีทส์ พญาไท, แฮมป์ตัน  ทองหล่อ, นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง และแฮมป์ตัน สวีทส์ ศรีราชา โดยในส่วนของโปรแกรมแฮมป์ตันอยู่ระหว่างรอดำเนินการอีก 6 โครงการ

“โครงการอสังหาริมทรัพย์ ของ ONEO มีความหลากหลาย มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้วยรูปแบบและโครงการที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถสร้างรายได้ประจำที่แข็งแกร่ง โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวมถึงเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ของ ONEO กระจายอยู่ในทำเลสำคัญทั่วประเทศไทย อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC อาทิ ชลบุรี ระยอง ซึ่งเป็นทำเลที่มีความต้องการที่พักสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้มีลูกค้าที่พักอาศัยทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว”

ดังนั้นบริษัทจึงสามารถผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งประเภทโครงการใหม่ที่เกิดจากการพัฒนาเองและการร่วมพัฒนากับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เช่น บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด, Ci:Z Investment Limited Liability Partnership, บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุนหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น รวมถึงการเข้าซื้อโครงการจากผู้พัฒนาอื่นๆ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์กับกลุ่มออริจิ้นฯ โดยแต่ละฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของโครงการของอีกฝ่าย เพื่อส่งเสริมศักยภาพโครงการซึ่งกันและเติบโตไปด้วยกัน

สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประเภทพื้นที่ค้าปลีก บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของจำนวนประชากรสูงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่และชาวต่างชาติ ผ่านรูปแบบค้าปลีกท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์จนถึงคอมมูนิตี้มอลล์  ส่วนการพัฒนาอาคารสำนักงาน จะมุ่งเน้นไปพื้นที่ที่มีอุปทานส่วนเกินจำนวนมาก และทำเลที่การเดินทางสะดวกสบาย เช่น แนวรถไฟฟ้าหรือในเขตพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ (CBD) และธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะเปิดดำเนินการอยู่ภายในโครงการของ ONEO และกลุ่ม ORI