ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ประเมินรัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อ-ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ปลุกความเชื่อมั่นภาคเอกชนและผู้บริโภค หนุนตลาดวัสดุก่อสร้างปลายปีคึกคัก ส่งสัญญาณบวกให้กับพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์‘ตราเพชร’ที่มีความหลากหลายนำไปใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เดินหน้าแผนบริหาร Product Mix และรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80-90% มั่นใจปีนี้เติบโต 5%
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ไม้บันได SPC-FC ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายกระตุ้นกำลังซื้อและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภคผ่านนโยบายต่างๆ ทั้งเงินดิจิทัล การพักหนี้เกษตรกร การปรับลดราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้าและน้ำมัน ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยและกำลังซื้อของผู้บริโภครวมถึงสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้แก่ภาคเอกชนที่จะเดินหน้าลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต
ขณะเดียวกันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นในทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตต่อเนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติม ถือเป็นโอกาสของ DRT ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่มีความพร้อมด้านสินค้าที่มีความหลากหลายสามารถนำไปใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง
โดยบริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยให้อยู่ที่ระดับ 25-27% ได้ตามเป้าหมาย จากแผนงานการบริหาร Product Mix ในกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการทำกำไรที่ดี และรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปี 80-90% เพื่อทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำที่สุด ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลงจากปัจจัยความสำเร็จในการบริหารจัดการด้านการสั่งซื้อวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ เพื่อผลักดันยอดขายทั้งปีเติบโต 5% ตามแผนและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป
ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมพร้อมสร้างการเติบโตในปีถัดไป จากแผนการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีต ที่อยู่ระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/2567 ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการทำตลาดกระเบื้องคอนกรีตในรูปแบบ Roof Solution ตอบสนองความต้องการลูกค้าโครงการผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด