“เสนา”จับมือ Zeroboard พัฒนาที่อยู่อาศัยลดคาร์บอน ตั้งเป้าลดได้เฉลี่ย 81% ต่อโครงการในทุกระดับราคา

  • Post author:
You are currently viewing “เสนา”จับมือ Zeroboard พัฒนาที่อยู่อาศัยลดคาร์บอน ตั้งเป้าลดได้เฉลี่ย 81% ต่อโครงการในทุกระดับราคา
เสนาฯเผยภาพรวมตลาดอสังหาฯโค้งสุดท้ายปี 66 ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ-อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูง ส่งผลกระทบการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะพื้นที่กทม. ขณะที่บริษัทฯปรับรูปแบบการพัฒนาโครงการช่วยลดคาร์บอน ตั้งเป้าในการลดคาร์บอนการพัฒนาได้เฉลี่ย 81% ต่อโครงการ ก้าวไปสู่องค์กร Net Zero ตั้งเป้าเป็นบริษัทแรกในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ
ผศ ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
ผศ ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ว่า ในระยะสั้นยังเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง แต่ยังต้องติดตามในส่วนของผลลัพธ์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาอย่างเป็นรูปธรรมก่อน ซึ่งยอมรับว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงเข้ามากระทบต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เพราะปัจจุบันหากมองดูที่สภาพเศรษฐกิจยังถือว่าโตช้า และเงินเฟ้อในกรุงเทพฯถือว่าสูงกว่าจังหวัดอื่นๆอย่างมาก ทำให้กระทบต่อความสามารถในการซื้อ และความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยก็ลดลงตามไปด้วย

ขณะที่บริษัทฯมีการปรับเลื่อนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ที่จะเปิดในช่วงปลายปี 2566 ออกไปเป็นปี 2567 จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท เพราะบริษัทหันมาเดินหน้าในการระบายสต๊อกที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท จำนวน 4,000-5,000 ยูนิต เพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัท ที่คาดว่าจะสามารถระบายได้หมดภายในระยะเวลา 1- 2 ปี ประกอบกับการหันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาโครงการที่ช่วยลดคาร์บอน โดยหากเป็นโครงการแนวราบจะสามารถพัฒนาได้ประมาณกว่า 2,000 ยูนิต/ปี และคอนโดฯ ประมาณกว่า 7,000 ยูนิต/ปี หรือรวมประมาณ 10,000 ยุนิต/ปี  ในทุกระดับราคา โดยไม่ได้เพิ่มต้นทุน หรือทำให้ผลกำไรลดลงแต่อย่างใด แต่เป็นการเพิ่มนวัตกรรมเข้าไปในโครงการ ซึ่งตั้งเป้าในการลดคาร์บอนในการพัฒนาโครงการได้เฉลี่ย 81% ต่อโครงการ

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันภาวะโลกร้อนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางองค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ได้ออกมาประกาศว่า โลกได้สิ้นสุดภาวะโลกร้อนแล้วและกำลังเข้าสู่ภาวะโลกเดือดจะเห็นได้จากข่าวผลกระทบจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง และมีความถี่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลจาก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้ช่วยย้ำถึงสถานการณ์ดังกล่าวไว้ว่า จะต้องอยู่กับ 4 ยมทูตแห่งยุคโลกร้อน ประกอบด้วย น้ำท่วมใหญ่ ไฟป่าแรง แห้งแล้งจัด วิบัติคลื่นร้อน และมนุษย์จะตั้งปรับตัวใหญ่ใน 2 แนวทางควบคู่กันไป คือ การปรับลดคาร์บอนเพื่อลดโลกร้อน (Mitigation) และปรับตัวอยู่กับโลกที่ร้อนขึ้น (Adaptation)

“จะเห็นได้ว่าปัญหาโลกร้อนทำให้คนเราต้องปรับตัวเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญ เมื่อผู้คนต้องปรับตัว ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การสร้างบ้าน ที่พักอาศัยต่างๆ ก็ต้องปรับตัวตามไปด้วยเช่นกัน โดยที่เสนา เรามองว่าเป็นความท้าทาย ที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง จาก DNA แนวคิดละเอียดแบบ MADE FROM HER ที่ได้สะท้อนออกมาเป็นวิสัยทัศน์ของเรา คือ The Essential Lifelong Trusted Partner คือมุ่งมั่นในการพัฒนาที่พักอาศัยและธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ

ซึ่งการพัฒนาฟังก์ชันของบ้านนั้นจะคำนึงถึงการช่วยให้คนปรับตัวกับการใช้ชีวิตในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุน Decarbonized Lifestyle หรือการใช้ชีวิตแบบ Low Carbon ไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะเรื่องประหยัดพลังงานที่ปัจจุบันเป็นสาเหตุของการสร้างคาร์บอนเกือบ 50% พิสูจน์ได้จากการที่เราเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รายแรกที่ติดโซล่าเซลล์ให้บ้านทุกหลังตั้งแต่เริ่มแรก รวมถึงต่อยอดการพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และ คอนโด Low-Carbon” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า โครงการแนวราบของ เสนาฯ มีแนวคิดบ้านพลังงานเป็น 0 หรือ ZEH คอนเซ็ปต์หลัก คือ การออกแบบ Passive และ Active Design ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ใช้วัสดุประหยัดพลังงาน และการใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยกันความร้อนรวมถึงการใช้พลังงานสะอาดจากโซล่าเซลล์ ช่วยให้เราซื้อไฟฟ้ามาใช้น้อยที่สุด ประหยัดไฟได้สูงสุดถึง 38% ขณะที่ คอนโดฯ Low-Carbon ได้ประยุกต์แนวคิด Smart City เข้ามาใช้ โดย ใช้วัสดุกันความร้อนและประหยัดไฟ รวมถึงมีการติดตั้วโซลาเซลล์แล้ว ยังมี EV Station และ Smart Mobility แอปข้อมูลการเดินทางแบบไร้รอยต่อที่มีบริการ V MOVE หรือรถรับส่งพลังงานสะอาดที่จะรับลูกบ้านจากโครงการไปส่งยังสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดเข้ามาบริการด้วยซึ่งบริการเหล่านี้เราสามารถวัดค่าการสร้างคาร์บอนได้ เพราะสิ่งใดที่วัดค่าได้ สิ่งนั้นก็สามารถบริหารจัดการได้ “What can be measured, can be managed”  ทั้งนี้นอกจาก คอนโดฯ Low-Carbon จะเป็นคอนโดที่ประหยัดพลังงานแล้ว การส่งเสริม Decarbonize Lifestyle ให้ลูกบ้านลดใช้รถส่วนตัว และมาใช้บริการ V MOVE เพื่อต่อรถสาธารณะกันมากขึ้น ก็ยังถือว่าเป็นการช่วยลดการสร้างคาร์บอนได้อีกทางแต่การวัดค่าการสร้างหรือการลดคาร์บอนก็จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ

ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับพันธมิตร Zeroboard” ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศญี่ปุ่นที่ใช้คลาวด์เทคโนโลยีในการคำนวณและการแสดงผลลัพธ์ของการสร้างคาร์บอนสามารถใช้ได้กับทั้งองค์กร หรือผลิตภัณฑ์ ผ่านการทดลองใช้ในระดับเมืองใหญ่ๆ ในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทจะนำระบบนี้เข้ามาใช้กับตัวองค์กร และในโครงการเพื่อเก็บข้อมูลคาร์บอนที่เกิดขึ้น หรือการลดลงของคาร์บอนจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกบ้าน เสนา ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นในการจัดการคาร์บอนอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการช่วยยืนยันว่าการพัฒนาโครงการ และการช่วยกันลดคาร์บอนของลูกบ้านในโครงการของบริษัทสามารถทำได้จริง

โดยหลังจากนี้การพัฒนาโครงการของบริษัทจะเน้นไปที่แนวทางการช่วยปรับลดคาร์บอนลดโลกร้อน รวมถึงการประหยัดพลังงาน ซึ่งในส่วนของโครงการแนวราบจะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่ใช้พลังงานเป็นศูนย์ และคอนโดมิเนียมจะเป็นโครงการ Low Carbon ซึ่งในปีนี้นำร่อง 5 คอนโดมิเนียมแรกที่ทำแบบ Low Carbon เพื่อมุ่งเป้าเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่สนใจที่มีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของโลก โดยที่ราคาขายจะไม่สูงกว่าโครงการที่พัฒนาแบบทั่วไป

“Zeroboard” เป็น บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศญี่ปุ่นที่ใช้คลาวด์เทคโนโลยีในการคำนวณและการแสดงผลลัพธ์ของการสร้างคาร์บอนสามารถใช้ได้กับทั้งองค์กร หรือผลิตภัณฑ์ ผ่านการทดลองใช้ในระดับเมืองใหญ่ๆ ในประเทศญี่ปุ่น โดยภาครัฐของญี่ปุ่น มีความน่าเชื่อถือและยังง่ายต่อการใช้งาน โดยเสนาฯ จะนำระบบนี้เข้ามาใช้กับตัวองค์กร และในโครงการเพื่อเก็บข้อมูลคาร์บอนที่เกิดขึ้น หรือการลดลงของคาร์บอนจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกบ้าน เสนา ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นในการจัดการคาร์บอนอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการลงมือทำจริง วัดจริง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกและยังช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่ต้องปรับตัวอย่างมาก และจากความร่วมมือครั้งนี้กับ Zeroboard เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของเป้าหมายต่อไปด้านความยั่งยืนของบริษัท คือ The road to NET ZERO และตั้งเป้าเป็นบริษัทอสังหาฯรายแรก ที่ประกาศเป็น Net Zero

มร.ชินทาโร่ ซูซูกิ
ด้าน มร.ชินทาโร่ ซูซูกิ ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  บริษัท ซีโร่บอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ว่า Zeroboard เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการคำนวณและแสดงผลลัพธ์  การ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศได้ตลอดจนวัดผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต่อ  ผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Product Carbon Footprint: PCF) ผ่านระบบคลาวด์ พร้อมทั้งมีทีมผู้เชี่ยวชาญในการนำเสนอวิธีการในการลดก๊าซเรือนกระจกที่คำนึงถึงความเหมาะสมกับลูกค้าธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing