SENA ปลดล็อคดอกเบี้ยแพง –กู้ยาก ตั้ง“เงินสดใจดี”ลด Reject Rateพุ่ง

You are currently viewing SENA ปลดล็อคดอกเบี้ยแพง –กู้ยาก ตั้ง“เงินสดใจดี”ลด Reject Rateพุ่ง

ตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมาลากยาวมานานถึง 4 ปีได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างให้คนไทยจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาทางการเงินและภาระสินเชื่อที่อยู่อาศัย ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศที่รุมเร้าทั้งภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้เงินออมลดลง ทำให้ศักยภาพในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคลดลง ขณะที่ราคาบ้านก็ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกันความสามารถในการซื้อของคนไทยที่ยังฟื้นไม่เต็มที่ ส่งผลให้ตัวเลขยอดปฎิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินของหลายๆโครงการทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมสูงเกิน 50% ทำให้ดีเวลอปเปอร์ต้องนำสินค้ายูนิตนั้นนำกลับมาขายใหม่ โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-2 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท

ล่าสุด กลุ่มเสนาฯได้เปิดธุรกิจใหม่ในเครือภายใต้ชื่อ “เงินสดใจดี” เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองแต่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือติดปัญหาต่าง ๆ โดยเปิดทางเลือกให้ลูกค้าที่มีแนวโน้มอาจจะกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่านสามารถมาใช้บริการทางเลือกได้

ประกอบไปด้วย บริการสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ในบ้านหรือคอนโดฯ ได้ทันที หลังจากนั้นก็ทยอยผ่อนชำระเงินกู้ซึ่งจะหักเงินต้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เงินต้นลดมาอยู่ในระดับที่ลูกค้าน่าจะสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้ ทางทีมงานเงินสดดใจดีก็จะส่งต่อลูกค้าให้ยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแทน เพื่อเข้าสู่ระบบการผ่อนบ้านปกติ นอกจากนี้ยังมีบริการสินเชื่อเพื่อชำระค่าทำสัญญาและสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อลดภาระดอกเบี้ย เป็นต้น

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)    กล่าวว่า การจะเป็นเจ้าของบ้านได้ในยุคปัจจุบันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย และดูเหมือนจะยิ่งยากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะคนรายได้น้อยถึงปานกลาง  สาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ ภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาที่พักอาศัยมีอัตราเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้  ขณะที่เงินออมของประชาชนมีน้อยลง แต่ภาระหนี้สิ้นกลับเพิ่มขึ้น ล่าสุดปี 2566 หนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของไทยสูงถึงราว 560,000 บาท ส่วนในปี 2567 ประมาณการไว้ว่า หนี้ครัวเรือนของไทยจะเพิ่มสูงไปถึงราว 91% ต่อ GDP ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงต่อระบบเศรษฐกิจ

นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยก็อยู่ในช่วงขาขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยต้องประสบปัญหาทางด้านการเงิน หรือด้านเครดิต ส่งผลให้ศักยภาพในการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง สวนทางกับราคาที่พักอาศัยที่ปรับสูงขึ้นจากต้นทุนทั้งค่าที่ดิน แรงงาน และการก่อสร้าง

จากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้การขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคาร ลจึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะธนาคารมีมาตรการที่คุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้อัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันมีอัตราสูงถึงกว่า 50%

“ปัญหาการเข้าสินเชื่อเงินกู้เพื่อเป็นเจ้าของที่พักอาศัยนั้น ทางเสนาดีเวลลอปเม้นท์ให้ความสำคัญมาตลอด ถือเป็นหนึ่งใน Mission หลักของบริษัท คือ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยให้กับผู้บริโภค โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหานี้มาโดยตลอด โดยการเปิดให้บริการ “เงินสดใจดี” หรือ The lending hand who understands ผู้ช่วยทางการเงินเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัย”

 นางสาวจินตนา ใกล้สุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเงินสดใจดี จำกัด กล่าวว่า เงินสดใจดี เปรียบเสมือน The lending hand who understands หรือผู้ช่วยทางการเงินเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์และวางแผน สร้างเสริมวินัยทางการเงินเพื่อเครดิตที่ดี ช่วยเสริมสถานะเครดิตของผู้กู้ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือเพื่อ green loan เช่น โซล่ารูฟ หรือ รถพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วยบริการหลัก 3 ส่วน คือ

วิเคราะห์สถานะทางการเงินของลูกค้าด้วยเครดิตบูโร และ DSR (ความสามารถในการผ่อนชำระ) ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญและแนะนำสินเชื่อที่เหมาะสมกับเครดิตของลูกค้ามากที่สุด
-บริการสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อรายย่อย ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการซื้อบ้าน ในกรณีที่สถานะทางการเงินยังไม่เป็นไปตามกำหนดของธนาคาร
-การสร้างเครดิตผ่านการเช่าซื้อเพื่อสร้างประวัติการชำระเงินและเครดิตที่ดี เพื่อเป็นเจ้าของบ้านต่อไปในอนาคต

โดยเงินสดใจดี ได้เริ่มทดลองเปิดให้บริการไปเมื่อปี 2566 ได้รับการตอบรับไปในทิศทางที่ดี สามารถช่วยให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของที่พักอาศัยจากยอดที่ธนาคารปฏิเสธได้ราว 7-10% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท และมีแนวโน้มของความสนใจมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าให้เงินสดใจดีช่วยให้คนเข้าถึงการมีบ้าน หรือลดยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารได้อย่างน้อยที่ 10-15%หรือประมาณ 500-600 ล้านบาท

ทั้งนี้ที่ผ่านมา กลุ่มเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้รุกตลาดเจาะคอนโดมิเนียมเซกเมนต์ต่ำล้าน ผ่านแบรนด์ “เสนาคิทท์” เป็นหลัก โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีรายได้จำกัดและมีกำลังผ่อนเดือนได้ประมาณ 3-4 พันบาทต่อเดือน แถมยังมีหนี้อยู่ก่อนแล้วเกือบทุกคน ทำให้อัตราปฏิเสธสินเชื่อสูงมากหากไม่มีการสกรีนลูกค้าก่อนรับจอง โดยทางเสนาฯมองเห็นปัญหาสำหรับลูกค้าในกลุ่มนี้ คือ มีลูกค้าอยากได้บ้านแต่ไม่มีเงินเก็บออม ไม่มีการวางแผนการเงินมาก่อน และหลายคนก็กู้ซื้อบ้านได้ยาก ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อกู้ซื้อบ้านได้ ดังนั้นทางเสนาฯจึงได้หาแนวทาง เพื่อช่วยแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกค้าที่มีความประสงค์ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย

คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ
-ผู้ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทุกประเภท-เป็นบุคคลธรรมดา อายุ 20 ปีขึ้นไป
-เป็นผู้มีรายได้ประจำ อาชีพอิสระ หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว (มีอายุงานหรืออายุกิจการ ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป)
-สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
กรณีผู้ขอกู้ ไม่เข้าด้วยคุณสมบัติในข้อใด สามารถกู้ร่วมกับผู้ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่ระบุได้