SMART ตั้งเป้าปี’67รับงานบริหารนิติบุคคลกว่า 515 โครงการพร้อมขยายฐานไปยังหัวเมืองทั่วประเทศ

You are currently viewing SMART ตั้งเป้าปี’67รับงานบริหารนิติบุคคลกว่า 515 โครงการพร้อมขยายฐานไปยังหัวเมืองทั่วประเทศ

สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ ตั้งเป้าปี’67รับงานบริหารโครงการทั่วประเทศกว่า 515 โครงการพร้อมขยายฐานลูกค้าเจาะหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ดันรายได้เพิ่มขึ้น 21% ล่าสุดมีงานบริหารโครงการในมือ459 โครงการ แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 346 โครงการ และคอนโด 113 โครงการ มากกว่า 225,000 หลังคาเรือน ชู 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อน ด้วยแนวคิด ความอุ่นใจ ไร้กังวลยกระดับการดูแลลูกบ้านขั้นกว่า ด้วยบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย พร้อมสร้างหลักสูตรร่วมกับสถาบันการศึกษา ผลิตบุคลากรรุ่นใหม่

นายสุวัฒน์ กุลไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART) เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ SMART ได้วางเป้าหมายการเติบโตที่สอดคล้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วยจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นถึง 515 โครงการ หรือ 19% จากปี 2566 โดยล่าสุดมีโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมที่รับบริหารนิติบุคคลอยู่ในมือแล้ว 459 โครงการ แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 346 โครงการ และคอนโดฯ 113 โครงการ จำนวน 225,000 ครัวเรือน

โดยโครงการที่รับบริหาร 65% เป็นโครงการในเครือของเอพี ไทยแลนด์ และอีก 35%เป็นโครงการทั่วไป โดยปีนี้บริษัทวางแผนจะเพิ่มสัดส่วนโครงการทั่วไปเป็น 50% และตั้งเป้าของรายได้เพิ่มขึ้น 21% เน้นกลุ่มสินค้าคอนโดฯและทาวน์เฮาส์เพิ่มมากขึ้นทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งมีแผนจะขยายการรับงานบริหารนิติบุคคลไปยังต่างจังหวัดเพิ่มด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนในการขับเคลื่อนธุรกิจนิติบุคคลเพื่อการอยู่อาศัยด้วยความเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการของลูกบ้านอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “ความอุ่นใจ ไร้กังวล” ที่จะเปลี่ยนการดูแลลูกบ้านและสังคมการอยู่อาศัยแบบเดิม ให้มีความทันสมัย ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

-เป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ด้วยการนำเทคโนโลยี Manless Property Management และระบบ KATSAN Monitoring System เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความความปลอดภัยให้กับลูกบ้านภายในโครงการ ซึ่งการทำงานของระบบเหล่านี้จะมี team monitoring ที่คอยดูแลผ่าน Dashboard

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Blinkemerge ระบบ IOT Sensor เข้ามาช่วยในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลบริหาร โครงการจากการตรวจสอบที่แม่นยำของระบบ ขจัดความผิดพลาดที่อาจเกิดจาก Human Error พร้อมแจ้งเตือนเมื่อพบสถานะความผิดปกติตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถมอนิเตอร์ระบบผ่าน Dashboard ได้แบบ Real Time ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินภายในโครงการ จะมีทีม Red Alert Support จากส่วนกลาง พร้อมเข้า standby ช่วยเหลือลูกบ้านได้อย่างรวดเร็ว

และระบบ SMART NITI & Committee Dashboard ที่พัฒนาขึ้นมาใช้ทำงานร่วมกันระหว่างนิติบุคคล – ทีมซัพพอร์ตส่วนกลาง เพื่อให้คณะกรรมการสามารถเข้าตรวจสอบการทำงานของนิติบุคคลประจำโครงการได้แบบ Real Time รวมถึงแอปพลิเคชัน SMART WORLD ซึ่งถูกพัฒนาด้วยทีมงานของ SMART โดยตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มของ AWS ทำให้ข้อมูลของลูกค้าปลอดภัย และยังเป็นแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 120,000 ยูสเซอร์ เป็น Active user ต่อเดือนสูงถึง 69% และมีฟีเจอร์ให้บริการลูกบ้านใช้กว่า 40  ฟีเจอร์

-ยกระดับพันธมิตรอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ผนึกกำลังเพื่อส่งมอบการบริการที่เหนือกว่า โดย SMART ได้คัดสรรพันธมิตรที่มีคุณภาพเข้ามาเพื่อการดูแลลูกบ้านแบบขั้นกว่า สามารถซัพพอร์ตลูกบ้านได้ครอบคลุมทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ผ่านการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำกว่า 60 แบรนด์ อาทิ ธนาคารกรุงศรี, 7-Eleven, LINE MAN, ALive Powered by AIA และ Tops Online พร้อมมอบสิทธิพิเศษรวมมูลค่ากว่า 49 ล้านบาท จากยอดจำนวนที่ลูกบ้านรับสิทธิ 15,000 Redemptions และมีพาร์ทเนอร์บริการเรื่องบ้านที่มากถึง 23 คู่ค้า โดยมียอดการสั่งซื้อสูงถึง 23,000 ออเดอร์ รวมมูลค่ากว่า 28 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรซัพพอร์ตระบบการทำงานในหลายส่วน เช่น ระบบของวิศวกรรม ระบบด้านความปลอดภัย ระบบเรื่องของ data หรือเทคโนโลยี ระบบการเงิน เป็นต้น

-เสริมรากฐานการเติบโตของธุรกิจมุ่งสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด People Sustainability, Energy Saving และ Platform Enhancement โดยมีการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะทั้งด้าน Soft skill และ Hard skill อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังวางรากฐานสร้างกำลังคนให้มีศักยภาพในสายงานบริหารนิติบุคคล ด้วยการพัฒนาสร้างหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา เพื่อรองรับตลาดแรงงานและได้บุคลากรที่มีความพร้อมและความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารนิติบุคคลเพื่อการอยู่อาศัยภายใต้ Concept “SMART สร้างคน สร้างงาน”

รวมทั้งยังมีการใช้ Data Driven Energy Platform จาก Blinkemerge เข้ามาช่วยวิเคราะห์ลักษณะการใช้ไฟฟ้าของอาคารชุดได้ทั้งโครงการ เพื่อประเมินการใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม และลดค่าใช้จ่ายให้แก่นิติบุคคล รวมทั้งการพัฒนาระบบให้บริการลูกบ้านโดยมีการใช้ SMART AI Platform เข้ามาช่วยซัพพอร์ตการทำงานของนิติบุคคล รวมถึงการพัฒนา SMART Finance ให้สามารถรายงานสถานะการเงินของโครงการแบบ Realtime ผ่าน Dashboard และ CRM platform ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลของลูกบ้าน ติดตามและรายงานผลต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ