บิลท์แลนด์ ปรับพอร์ตการพัฒนาธุรกิจครั้งใหญ่ เสริมกลยุทธ์สร้างรายได้หมุนเวียน เปิดตัวโรงแรม “Koo Hotel” และ อาคารสำนักงาน “B Work” ย่านแจ้งวัฒนะ พร้อมเตรียมลุยตลาดแนวราบเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 4,700 ล้านบาท ประเดิมจัดสรรจิ๋วระดับลักชัวรี 3 โครงการ เจาะกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะ ช่วงปลายปีเปิดเมกะโปรเจกต์บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ย่านไทรน้อย เมืองนนทบุรี

 นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบิลท์แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานถึง 15 ปี โดยได้มีการเปิดตัวโครงการไปแล้วจำนวน 14 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 7,480 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่า 5,950 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์เทมโป ระดับราคา 2-5 ล้านบาท และแบรนด์เลสโท คอนโด ระดับราคา 1-2 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันปิดการขายไปหมดแล้ว  ส่วนโครงการแนวราบมี 6 โครงการ มูลค่า 1,530 ล้านบาท มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม โดยยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอยู่จำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัท ตั้งอยู่ในย่านแจ้งวัฒนะซอย 35 ติดรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สถานีศรีรัช ประกอบด้วย B Work เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 6 ชั้น พร้อมพื้นที่ Co-Working และ Event Space พร้อมโรงแรม Koo Hotel จำนวน 79 ห้องเป็น Stylish Budget Hotel รองรับทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่มาประชุมสัมมนาที่อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 50%

รวมทั้งยังวางแผนจะเปิดตัวโรงแรม Koo Hotel แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ในซอยบัวขวัญ ย่านงามวงศ์วาน เนื้อที่ 500 ตารางวา ออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้นจำนวน 2อาคารๆละ 79 ห้อง  เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่องให้กับบริษัท

 เปิดตัวบ้านจัดสรรจิ๋วระดับลักชัวรีเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

นายวิฑูรย์ อภิวาทธนะพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทบิลท์แลนด์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการแนวราบให้ครอบคลุมทุกเซ็กต์เมนท์ในรูปแบบบ้านสร้างเสร็จก่อนขายรวม 6 โครงการ มูลค่าโครงการ กว่า 4,700 ล้านบาท โดยมีโครงการระดับลักชัวรี 3 โครงการ เจาะกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะ เนื่องจากแต่ละโครงการมีจำนวนบ้านพักอาศัยไม่ถึง 10 ยูนิต ประกอบด้วย โครงการเทอร์ร่า เฮาส์ วิภา – พหล 21 บ้านเดี่ยว 3 ชั้นสไตล์ Villa Business Town พร้อมลิฟต์ และสระว่ายน้ำส่วนตัวจำนวน 6 ยูนิต เนื้อที่ 50 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 400 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 58 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 330 ล้านบาท จะเปิดขายในช่วงไตรมมาส2นี้

ส่วนไตรมาส 3 จะเปิดขายโครงการเทอร์ร่า ควอเตอร์ แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 35  บ้านเดี่ยว 3 ชั้นจำนวน 4 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 80 ล้านบาท และไตรมาส 4 จะเปิดขายโครงการเทอร์ร่า คลาวด์ ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นจำนวน 5 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท

อีก 3โครงการพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด  ประกอบด้วย โครงการเทมโป ไมร์ร่า พระราม 5 – สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ ฯ ตั้งอยู่ถนนบางศรีเมือง นนทบุรี มีทั้งบ้านเดี่ยว 2 ชั้นและบ้านแฝด 2 ชั้นสไตล์ Modern European  จำนวน 90 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท โครงการริทโม พาร์ควิว ชัยพฤกษ์ -แจ้งวัฒนะ บ้านแฝด 2 ชั้น  ฟังก์ชันเทียบเท่าบ้านเดี่ยวสไตล์ Nordic จำนวน 72 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.77 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 360 ล้านบาท

“Lake Tempo” เมกะโปรเจกต์บนเนื้อที่ 200 ไร่

ส่วนโครงการเลค เทมโป – ไทรน้อย เป็นเมกะโปรเจกต์ย่านไทรน้อยบนพื้นที่กว่า 200 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4เฟส พร้อมพื้นที่ทะเลสาบขนาดใหญ่ถึง 20 ไร่ และ Lake Plaza ซึ่งเป็น Shop Stand Alone อีกประมาณ 20 ร้านค้า  มูลค่าโครงการรวม 2,760 ล้านบาท มีแผนที่จะเปิดตัวช่วงปลายปี 2567 โดยเฟสแรกใช้ชื่อโครงการว่า Ritmo Lake View มีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวขนาด 50 ตารางวา สไตล์เคปดัตช์ จำนวน 172 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 690 ล้านบาท

เฟส 2 โครงการ Tempo Lake Side พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้น 70 ตารางวาสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนจำนวน 154 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 870 ล้านบาท

เฟส 3 โครงการ Myrra Hill เป็นบ้านเดี่ยวขนาดพื้นที่เริ่มต้น 100 ตารางวาสไตล์อเมริกัน คอทเทจจำนวน 120 ยูนิต ราคา  6.9 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท และเฟส 4 โครงการ Terra Cove บ้านหรูบนถนนเมน แบ่งเป็นฝั่ง Lake และ Forest สไตล์เลคโคโลเนียลจำนวน 12 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท