ซี.พี. แลนด์ฯ เดินหน้าขยายธุรกิจเครือฟอร์จูน ตามแผน 3 ปี ลงทุนซื้อโรงแรมเก่า–สร้างใหม่ ในทำเลตอบโจทย์ใน 3 กลุ่ม มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท มีรายได้แตะ 1,200 ล้านบาทสอดรับกลยุทธ์หลักทุกธุรกิจในเครือ CPLAND ตั้งเป้ารายได้ 3 ปี 5,000 ล้านบาท
นายกนธีร์ ติรวิภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPLAND เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจโรงแรมเครือฟอร์จูน กรุ๊ป (Fortune Group) ภายใต้เครือ CP LAND ในปี 2568 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ว่า ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมภายใต้เครือ CPLAND มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น เริ่มกลับมาขยายตัวปกติ ใกล้เคียงกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตามการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มดีขึ้นจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีแผนการที่จะขยายธุรกิจโรงแรมในอนาคตให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการขยายตัวของรายได้ในส่วนของธุรกิจโรงแรมสู่ระดับ 1,200 ล้านบาท ในปี 2568 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสอดรับกับกลยุทธ์หลักของทุกธุรกิจในเครือ CPLAND ที่ตั้งเป้าหมายรายได้รวมสู่ระดับ 5,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้าเช่นกัน
ปัจจุบัน CPLAND มีโรงแรมในเครือทั้งหมด 13 แห่งทั่วประเทศ รวมเป็นมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด 4,150 ล้านบาท ซึ่งใน 3 ปีต่อจากนี้ 2566 CPLAND มีแผนการขยายการลงทุนของธุรกิจโรงแรมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยการขยายธุรกิจมีทั้งซื้อโรงแรมเก่าและสร้างโรงแรมใหม่ในที่ที่มีศักยภาพสูงและอยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์ ซึ่งการลงทุนแบ่งระดับโรงแรมเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ โรงแรมกลุ่มที่ 1 เป็นโรงแรมขนาด 300-400 ห้อง อย่างน้อย 1 แห่งโดยมีเป้าอยู่ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และพังงา เป็นต้น ถัดมาเป็นโรงแรมกลุ่มที่สอง กลุ่มนี้จะเป็นโรงแรมขนาด 150-200 ห้อง อย่างน้อย 2 แห่ง โดยมีเป้าหมายที่ เชียงใหม่ พัทยา หรือจังหวัดท่องเที่ยวรอง ซึ่งอาจจะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นมาตามนโยบายของรัฐบาล สุดท้าย โรงแรมกลุ่มที่สาม เป็นโรงแรมที่เป็นลักษณะไม่เกิน 79 ห้องอย่างน้อย 15 แห่ง เป้าหมายคือ หาดใหญ่ ศรีราชา ระยอง กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น อุดรธานี และกาญจนบุรี โดยทั้ง 3 กลุ่มจะเป็นแนวทางการขยายในธุรกิจโรงแรม
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการที่จะบรรลุเป้าหมายของธุรกิจ CP LAND คำนึงถึงกลยุทธหลักทั้ง 4 ส่วน ได้แก่
1.การบริหารและการจัดการ ต้องเปลี่ยนระบบการบริหารแบบเดิมไปสู่ระบบใหม่
2.การเพิ่มคุณสมบัติหรือความสามารถของผู้บริหารในแต่ละโรงแรม ทั้งการเสริมความรู้ การฝึกอบรมและการให้ข้อมูลรวมถึงการวางแผนกลยุทธร่วมกันกับผู้บริหารส่วนกลาง
3.การปรับปรุงคุณภาพและบริการให้สินค้ามีคุณภาพและมาตรฐาน
4.การจัดการผู้บริหารที่มีความสามารถสูง ทั้งด้านการขาย ด้านการเงิน ด้านบริการและความสะอาด ด้านวิศวกรรม ซึ่งจะดูแลในส่วนของคุณภาพและระบบต่างๆหลังบ้านให้เสถียร และ เทคโนโลยีของ BI (Business Intelligence) มาช่วยบริหารจัดการ
“CPLAND ให้ความสำคัญในเรื่องของ ทำเลสถานที่ตั้ง คุณภาพห้องพักและบริการ โดยจะมุ่งเน้นยกระดับคุณภาพห้องพัก และบริการ ประกอบด้วย เตียงมีคุณภาพสูง ฟูกคุณภาพดี ทีวีระบบอัจริยะ ระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยคุณภาพห้องพักและบริการ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยทั้งหมดนี้ต้องยกระดับมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพห้องพักและบริการให้แตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ เพื่อเป็นจุดขายหลักโรงแรมของ CP LAND ซึ่งเชื่อว่าแผนการขยายธุรกิจภายใน 3 ปีจะสร้างรายได้แตะระดับ 1,200 ล้านบาทตามเป้าหมายวางไว้อย่างแน่นอน สอดคล้องกับแผนในภาพรวมที่รายได้ของทั้งบริษัทจะขยายตัวสู่ระดับ 5,000 ล้านบาท” นายกนธีร์ กล่าวในที่สุด