NOBLE เดินเกมรุกเปิด 10 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาทโฟกัสบ้านแนวราบ

You are currently viewing NOBLE เดินเกมรุกเปิด 10 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาทโฟกัสบ้านแนวราบ

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ทำผลงานปี 2565 ดีเกินเป้าสร้าง New High ยอดขายสูงสุดในรอบ 32ปีจำนวน17,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% เดินเกมรุกปี 2566 เปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 23,300 ล้านบาทมีสินค้าให้เลือกตั้งแต่ระดับ Affordable ถึงระดับ Ultra Luxury  พร้อมวางเป้ายอดขายปีนี้ 23,000 ล้านบาท และรายได้ 15,000 ล้านบาท ตุน Backlog ในมือกว่า 19,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปีนี้ 3,300 ล้านบาท

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท
โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดขายโครงการใหม่จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 31,550 ล้านบาท โดยสามารถทำยอดขายได้ 17,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117%เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 32ปี  โดยเป็นยอดขายจากบ้านและคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒนาจำนวน 14,700 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการที่สร้างเสร็จแล้วจำนวน 2,700 ล้านบาท

ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาท ในจำนวนนนี้จะรับรู้รายได้ในปี 2566 ประมาณ 3,300 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 15,700 ล้านบาทจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 3ปีข้างหน้า โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮไรส์ที่มีมูลค่าสูงถึง 16,500 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ณ สิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒาจำนวน 22โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเองมูลค่า 17,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 13,000 ล้านบาท โดยมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 11,300 ล้านบาท และสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมูลค่า 18,700 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดขายยอดขายไว้ที่ 23,000 ล้านบาท และรายได้รวม15,000 ล้านบาท โยจะเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 23,300 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 8 โครงการ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและที่เปล่าจัดสรร 5 โครงการ มูลค่า 6,600 ล้านบาท ทาวน์โฮม 3 โครงการ มูลค่า 4,600 ล้านบาท

ส่วนคอนโดมิเนียมมี 2โครงการ มูลค่า 12,100 ล้านบาทเป็นโครงการร่วมทุนทั้ง 2โครงการ ประกอบด้วย คอนโดฯไฮไรส์บนถนนวิทยุ ระดับราคาขายตารางเมตรละ 2แสนกว่าบาท และคอนโดฯโลว์ไรส์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 11 ไร่จากทั้งหมด 50 ไร่ติดสถานีคูคต ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ซึ่งเฟสแรกได้เปิดการขายไปแล้ว ในไตรมาสแรกนี้จะเปิดตัวเฟสที่ 2 ชื่อว่านิว คอร์ คูคต สเตชั่น  เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์สูง 8 ชั้นจำนวน 6 อาคาร รวม 1,206 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 1.3 ล้านบาท

ส่วนบ้านแนวราบที่เปิดขายใหม่ในปีนี้จะมี 3โครงการที่อยู่ในระดับ Ultra Luxury Segment ประกอบด้วย โครงการโนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 53 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ 346-759 ตารางเมตร ราคาขายตั้งแต่ 29-100 ล้านบาท

โครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย บ้านเดี่ยว 3 ชั้นจำนวน 29 ยูนิต ราคาขาย 35-80 ล้านบาท และโครงการโนเบิล อเวย์ ชะอำ บีชฟร้อนท์ เนื้อที่กว่า 4,703 ตารางวาติดทะเลเมืองชะอำ พัฒนาเป็นที่ดินเปล่าจัดสรรจำนวน 9 แปลง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 384-534 ตารางวา ราคาขาย 35-50 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการนี้จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2