3 สมาคมฯ มั่นใจอสังหาฯปีกระต่ายยังสดใส คอนโดฯยังครองแชมป์ ด้านที่อยู่อาศัยระดับราคา 7.5–10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไปขายดีสุด กำลังซื้อฟื้นตัว ส่งสัญญาณแนวโน้มสดใส เตรียมเนรมิตพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร จัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44” ระหว่างวันที่ 2–5 พ.ย.66 ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชูคอนเซ็ปต์ “Property Solutions” ครบจบทุกอย่างในงานเดียว ผู้ประกอบการ 150 บริษัท ขนสินค้ากว่า 1,000 โครงการร่วมงาน คาดผู้ร่วมงานแตะ 50,000 – 80,000 คน มูลค่าการซื้อขายในงานมากกว่า 3,000 ล้านบาท และหลังการจัดงานอีกไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว
ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด” ครั้งที่ 44 เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศช่วงที่ผ่านมาของปี 2566 นี้ว่า เป็นช่วงขาขึ้น ถึงแม้สภาวะดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งส่งผลให้ประชาชนมีความสามารถในการซื้อลดลง แต่ว่าโดยรวมแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่หนี้ในภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้อุปสงค์-อุปทานหดตัว การโอนกรรมสิทธิ์ลดลง และปัจจุบันการเมืองมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้ว เชื่อว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด คอนโดมิเนียม โดยประเภทของที่อยู่อาศัยที่ขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ คือ คอนโดมิเนียม รองลงมาคือบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด
“สำหรับเซกเมนต์ที่ขายดีที่สุดคือกลุ่มสินค้าระดับบนไปถึง Super Ultra Luxury ระดับราคา 7.5–10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป มีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มมากกว่าปี 2565 ที่ผ่านมา อยู่ประมาณ 18% ส่วนห้องชุดหรือคอนโดฯ ทุกระดับราคามีการโอนมาก ยกเว้นระดับราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท ที่ยอดการโอนลดลง เนื่องจากปัจจัยด้านการเงินของผู้บริโภค ซึ่งกู้ไม่ผ่าน หรือมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ( Loan to Value : LTV) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมา ที่อาจมองได้ว่าเป็นกับดัก ถ้ามีการแก้ไขมาตรการนี้ได้ ก็คงดีขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในด้านการลดค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอน เหลือ 0.01% ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 นี้ คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ก็คงจะต่ออายุมาตรการนี้ออกไป รวมถึงอาจจะมีการทบทวนหรือปรึกษากับทางธนาคารแห่งประเทศไทยว่ามาตรการ LTV จะปรับลดหรือจะยกเลิกหรือไม่ สำหรับคอนโดฯ ระดับ 10 ล้านบาท ก็มีการโอนมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 3 นี้ เพิ่มขึ้น 49%” ดร.ทัพพ์เทพ กล่าว
ดร.ทัพพ์เทพ กล่าวต่อไปว่า ตลาดในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา แนวราบลดลง ขณะที่คอนโดฯ เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดครึ่งปีหลัง ในมุมมองส่วนตัวและจากผู้ประกอบการ มองว่าธุรกิจอสังหาฯ มีแนวโน้มที่สดใส เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อกลับมาอีกทั้ง แต่ละบริษัทจะเร่งจัดโปรโมชั่นต่างๆออกมาช่วงปลายปี เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น เพราะปกติช่วงครึ่งปีหลังของปีจะเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจภาคอสังหาฯ
ดังนั้นในช่วงไตรมาส 4/2566 นี้ 3 สมาคมอสังหาฯ คือ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร,สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย จึงได้จัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด” ครั้งที่ 44 ขึ้นมา เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ส่งท้ายปี ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดของวงการอสังหาฯ มีทุกอย่างครบ มีแบรนด์ผู้ประกอบการชั้นนำให้เลือกมากมาย ที่พร้อมใจกันขนเอาโปรโมชั่นดีๆ มานำเสนอภายในงาน
งาน “มหกรรมบ้านและคอนโด” ครั้งที่ 44 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่ประมาณ 6,000 ตารางเมตร โดยครั้งนี้จะชูคอนเซ็ปต์ “Property Solutions” ครบจบทุกอย่างในงานเดียว เป็นการยกระดับการจัดงานเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทุกดีมานด์ และทุกช่วงวัยของผู้บริโภค ซึ่งในงานจะมีทั้งหมด 150 บริษัท นำสินค้ามานำเสนอรวมมากกว่า 1,000 โครงการจากทั่วประเทศ มีทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจากเชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี เป็นต้น โดยมีโครงการบ้านเดี่ยวมากที่สุด ประมาณ 30% ทาวน์เฮาส์ 25% คอนโดฯ 35% และอื่นๆ 10% เช่น ซัพพลายเออร์ต่างๆ วัสดุก่อสร้าง ธนาคาร และกลุ่มสินทรัพย์รอการขาย (Non-Performing Asset : NPA)
“ทางคณะกรรมการจัดงานคาดว่าจะมีผู้มาเดินงานตลอดทั้ง 4 วันอยู่ที่ 50,000-80,000 คน มีมูลค่าการซื้อขายในงานมากกว่า 3,000 ล้านบาท และหลังการจัดงานอีกไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว โดยคณะกรรมการจัดงานได้ใช้งบประชาสัมพันธ์ประมาณ 20 ล้านบาท เผยแพร่ข่าวสารสร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่านสื่อทุกช่องทาง จึงมั่นใจว่าจากกระแสตลาดอสังหาฯ ในไตรมาสสุดท้ายที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และเป็นช่วงไฮซีซั่น จะทำให้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” ดร.ทัพพ์เทพ กล่าวในที่สุด