“กฤษณ์-กรณ์ ณรงค์เดช”กางคำพิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้”บิดา”โดนปลอมลายเซ็นจริง

You are currently viewing “กฤษณ์-กรณ์ ณรงค์เดช”กางคำพิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้”บิดา”โดนปลอมลายเซ็นจริง

คดีมหากาพย์ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ที่มีตระกูล “ณรงค์เดช” เจ้าของกลุ่มเคพีเอ็นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยในฐานะถือหุ้นในบริษัทฯ 59.46% เมื่อช่วงปี 2558  จนเป็นเหตุให้นายเกษม ณรงค์เดช  พร้อมนายกฤษณ์ (ลูกชายคนโต) และนายกรณ์ (ลูกชายคนเล็ก) เดินหน้าฟ้องร้อง”ณพ ณรงค์เดช” (ลูกชายคนกลาง)และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ในข้อหา “ปลอมแปลงลายเซ็นการโอนหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่” โดยปัจุบันมีคดีฟ้องร้องหลายๆคดีรวมกันนับ 10 คดีและได้ยืดเยื้อมานานจะครบ 7 ปีในต้นปีหน้า

โดยเฉพาะเมื่อช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณพ ณรงค์เดช และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา กับพวกในข้อหาปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอมต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1708/2564 กรณีที่นายณพ อ้างว่านายเกษม (บิดา) เป็นตัวแทนให้กับคุณหญิงกอแก้ว (แม่ยาย) ในการซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี โฮลดิ้ง จำกัด และการโอนหุ้นวินด์ เอนเนอยี ไปให้บริษัทโกลเด้น มิวสิค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และมีนายเกษมถือหุ้นอยู่ 99.99% กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ครอบครัวมีแถลงการณ์ประกาศตัดนายณพ ออกจากตระกูลตั้งแต่ปี  2561

ล่าสุดครอบครัวณรงค์เดช  ประกอบด้วย นายกฤษณ์และนายกรณ์ พร้อมทนายความ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ทางครอบครัวเพิ่งได้รับสำเนาคำพิพากษาจากศาลอาญากรุงเทพใต้ และได้ตรวจสอบข้อความในคำพิพากษาทั้งหมดแล้ว จากคำพิพากษาของศาลดังกล่าวเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่นายเกษม และครอบครัวณรงค์เดชได้พูดมาตลอดตั้งแต่ปี 2561 ว่านายเกษมถูกปลอมลายมือชื่อเพื่อโอนหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ของครอบครัวออกไป เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

นายกรณ์ ณรงค์เดช กล่าวว่า ครอบครัวณรงค์เดชประกอบอาชีพโดยสุจริต ไม่เคยคิดโกงใคร และนายเกษมเอง ก็เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงไม่มีทางยินยอมเป็นนอมินีหรือเป็นตัวแทนให้แก่คุณหญิงกอแก้วอย่างแน่นอน และธุรกิจในเครือของครอบครัวณรงค์เดชทั้งหมดได้แบ่งการบริหารงานโดยนายกฤษณ์ และนายกรณ์ ทายาทของครอบครัวทั้ง 2 คนเท่านั้น

“ที่ผ่านมานายเกษมและครอบครัวณรงค์เดช ได้มีการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของนายเกษมในเอกสารปัญหาดังกล่าวโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งผลการตรวจสอบจากทั้ง 2 สถาบันยืนยันออกมาตรงกันว่าเป็นลายมือชื่อปลอม”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ อ1753/2566 โดยมีคำสั่งพิพากษาว่า เอกสารจำนวน 5 ฉบับเป็นลายเซ็นปลอม ประกอบด้วย

1.สัญญาซื้อขายหุ้นวินด์ ที่นายเกษม ทำกับบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด

2.หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ที่นายเกษม รับเป็นตัวแทนของคุณหญิงกอแก้วในการซื้อหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่

3,ตราสารการโอนหุ้น ที่นายเกษม โอนหุ้นของบริษัทโกลเด้น มิวสิค ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว

4.ใบซื้อขายหุ้น ที่นายเกษม ขายหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว

5.คำประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นทรัสต์ ที่นายเกษมประกาศว่า หุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิคเป็นของคุณหญิงกอแก้ว และผลประโยชน์ใดๆที่เกิดขึ้นจากหุ้นต้องตกเป็นของคุณหญิงกอแก้ว

นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความของครอบครัวณรงค์เดช กล่าวว่า เอกสาร 5 ฉบับที่มีลายมือชื่อนายเกษม ณรงค์เดชที่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นลายมือชื่อปลอม ศาลมีคำพิพากษาให้ริบเอกสารทั้ง 5 ฉบับดังกล่าวเพราะถือเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดหรือโดยนำไปใช้ก็จะมีความผิด แต่คดีนี้ศาลได้ยกฟ้องจำเลย เนื่องจากฝ่ายโจทก์ (นายเกษม) ไม่สามารถยืนยันระบุได้ว่าจำเลยคนใดเป็นผู้ทำเอกสารปลอม

แต่ด้วยผลแห่งคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ดังกล่าวที่พิพากษาอย่างชัดเจนว่าเอกสารทั้ง 5 ฉบับเป็นเอกสารปลอม จึงถือได้ว่านายเกษมไม่เคยเป็นตัวแทนหรือเป็นนอมินีของคุณหญิงกอแก้วในการซื้อหุ้นวินด์ เอนเนอยี ตามที่นายณพ และคุณหญิงกอแก้วได้กล่าวอ้างมาตลอด และเมื่อเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค ระหว่างนายเกษม และคุณหญิงกอแก้วเป็นเอกสารปลอม การโอนหุ้นจึงไม่มีผลทางกฎหมาย ตกเป็นโมฆะไปด้วย